จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่125 เน็ตไอดอล?
บทที่125 เน็ตไอดอล?
ผู้คุมสัมภาษณ์จ้องไปที่ฮัวเสี่ยงหรง และพูดขึ้นอย่างหนักแน่น “ผมจะขอย้ำอีกครั้งนะ ว่าการว่าจ้างศิลปินของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ของเรา ไม่เพียงแต่ดูแค่ความสามารถเท่านั้น สิ่งสำคัญกว่านั้นคือคุณความดีด้วย”
“คุณความดีของคุณเน่ร์เจิงคนนี้นั้นมีมากกว่าคุณเป็นร้อยเท่า ความสามารถก็อยู่ในอันดับต้นๆ ”
“ช่างเป็นศิลปินที่มากความสามารถ และเป็นคนนี้ขนาดนี้ เราจะไม่เซ็นสัญญาได้อย่างไร?”
“ตรงกันข้ามกับคุณ ที่สำเร็จเพียงเล็กน้อยก็อวดอ้างอย่างมั่นอกมั่นใจ และคุณว่าตัวเองเป็นดาราดัง ที่มีแฟนคลับชมไม่กี่คำก็ทำเป็นวัวลืมตีนซะแล้ว ตัวคุณเองลองชั่งคิดดูนะ ว่าเพลงที่ร้อง และเต้นนั้น มันมืออาชีพแล้วหรือยัง?”
“หัดทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้วหน่อย ฮัวเสี่ยงหรง ถ่อมตัวหน่อยเถอะ”
คำตำหนินี้ ทำให้ฮัวเสี่ยงหรงถึงกับพูดไม่ออก
เธอไม่เคยโดนดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“โอเค ดีมาก” ฮัวเสี่ยงหรงชี้ไปที่ผู้คุมสัมภาษณ์ “คุณไม่เซ็นสัญญากับฉันใช่ไหม? คนอย่างฉันใช่ว่าไม่มีที่ไป! ฉันจะเข้าไปร่วมกับบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องในทันที พวกคุณก็รอเสียใจทีหลังได้เลย”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าที่คุณเซ็นสัญญากับพ่อครัวบื้อๆ อย่างคนนี้จะมีอนาคตอะไรกัน เชื่อว่าเขาจะแสดงหนังแล้วทำเงินให้กับพวกคุณ? หรือว่าหวังว่าเขาจะจัดงานคอนเสิร์ต?”
“หึหึ อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ ก็เป็นแค่ขยะ เหม็นเน่า!”
ฮัวเสี่ยงหรงได้สูญเสียความคิดที่มีเหตุผลไปหมดแล้ว เธอไม่สามารถที่จะยอมรับความจริงที่ตัวเองโดนพีเคจากเน่ร์เจิง
ชายที่โดนเธอดูหมิ่นมาตลอดหลายปี อยู่ๆ วันหนึ่งก็ทำให้เธอพ่ายแพ้ และปีนขึ้นไปอยู่จุดที่เหนือเธอ นี่เป็นสิ่งเธอแทบจะคลั่งเป็นหมาบ้า
“เหม็นเน่า”
“เหม็นเน่า!”
ฮัวเสี่ยงหรงไม่ได้คำนึงภาพลักษณ์ใดๆ เดินออกจากห้องด้วยความหงุดหงิด ผู้จัดการส่วนตัวก็รีบเดินตามไป
เน่ร์เจิงส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ชื่อเสียงทำให้คนเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ได้จริงๆ เหรอเนี่ย? เฮ้อ……”
ผู้คุมสัมภาษณ์พูดกับเขา “คุณเน่ร์ครับ เชิญคุณตามผมมาเซ็นสัญญาด้วยครับ”
“ครับ”
ทั้งสองจากไป
เจียงชื่อนั่งยิ้ม และถอนหายใจอยู่บนเก้าอี้ เฉิงดันถิงได้เดินมาจากอีกทางหนึ่ง ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“เจียงชื่อ ครั้งนี้คุณพอใจแล้ว?”
เจียงชื่อพยักหน้า “ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้คุณช่วย เน่ร์เจิงก็คงไม่ได้เซ็นสัญญา”
เฉิงดันถิงยิ้มเจื่อน แล้วพูดขึ้น “ฉันได้ช่วยคุณไปแล้ว แต่ฉันรู้สึกสมเพชตัวเอง เน่ร์เจิงเป็นแค่พ่อครัวคนหนึ่ง ไม่ใช่ศิลปินอะไร ถ้าเซ็นสัญญากับเขาแล้วไม่จัดการให้ดี มันก็จะกลายเป็นเรื่องตลกของวงการ โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างฮัวเสี่ยงหรง ไม่รู้ว่าจะพูดลับหลังอย่างไรบ้าง”
เจียงชื่อมองไปที่เฉิงดันถิง “ทำไมล่ะ ยังมีเรื่องที่คุณไม่สามารถจัดการได้อีกเหรอ?”
เฉิงดันถิงมองบน “คุณอย่ามาใช้มุกตื้นๆ แบบนี้กับฉัน หลังจากที่เซ็นสัญญากับเน่ร์เจิงแล้ว จะวางแผนช่วยเขาพัฒนาเติบโตได้อย่างไรนั้น ฉันก็คงต้องคิดๆ เกี่ยวกับมันจริงๆ ”
คนที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไร จะจัดการอย่างไรดี?
มีวิธีอะไรที่จะจัดการได้บ้าง?
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นคนพิการ มีแขนเพียงแค่หนึ่งข้างอีกต่างหาก
ขายความน่าสงสารพอได้ไหม? ถ้าไม่ได้ก็ขอทาน? อย่างนั้นก็ไม่ได้แน่ๆ
หลังจากคิดอย่างนี้แล้ว เฉิงดันถิงก็ได้มองไปที่ต้มปลาสไตล์เสฉวนนั้น การแสดงของเน่ร์เจิงเมื่อกี้นี้เธอเองก็เห็น ถึงแม้ว่าจะไม่ความสามารถพิเศษอะไร แต่ทักษะในการทำอาหารของเน่ร์เจิงนั้นเรียกว่า มันช่างสุดยอดมากจริงๆ
ถ้าเกิดว่ามาลองใช้ประโยชน์จากมันดู……
เมื่อคิดไปคิดมา เฉิงดันถิงก็ยิ้มมุมปากขึ้น “ใช่!”
“รู้แล้วว่าจะทำอย่างไร?”
“มันเป็นไปไม่ได้แน่นอนที่เน่ร์เจิงจะเป็นนักแสดงที่ดีได้ แต่เขามีความสามารถที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ นั่นก็คือ เน็ตไอดอล เขามีศักยภาพนี้”
ผู้เชี่ยวชาญ?
เน็ตไอดอล?
เจียงชื่องงเล็กน้อย และไม่เข้าใจว่าคำนี้มันเกี่ยวอะไรกับเน่ร์เจิงด้วย แต่เฉิงดันถิงพูดอย่างนั้นแล้ว งั้นก็เป็นอย่างนั้นก็แล้วกัน