จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่164 คุณกล้าตบฉันเหรอ?
เรื่องถัดมาต่อจากนั้น มันก็ราบรื่นและไปได้ด้วยดีเอามาก โหลวซินเยว่ก็ได้กลายเป็นนางเอกหนังของฉีอิงจือเป็นที่เรียบร้อย
หลายวันที่อยู่ด้วยกันมานี้ ทั้งสองก็สนิทสนมกันขึ้นมาเหลือเกิน ทั้งวันก็ตัวติดกันตลอด ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร หรือไม่มีเรื่องอะไร ทั้งสองคนก็จะขดตัวอยู่ในห้อง เพื่อดูบทละครด้วยกัน ทั้งสองยิ่งอยู่ก็ยิ่งดูสนิทสนมกันเอามาก เกินเพื่อนร่วมงาน
เสียงของคนภายนอก มันก็ต่างซุบซิบกันแบบหนาหนู จนลอยเข้ามาถึงหูของเริ่นจื่อหลัน
ตอนแรก เริ่นจื่อหลันก็ไม่ได้คิดอะไรเหมือนกัน จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง วันที่เธอเห็นสามีของตัวเองซ้อมบทให้โหลวซินเยว่ โดยฝ่ายชายก็มีการโอบไปที่เอวของฝ่ายหญิง ทั้งสองคนก็ดูกุ๊กกิ๊กกันต่อหน้าสาธารณชนแบบไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น
ภาพภาพนั้น ที่เริ่นจื่อหลันเห็น มันก็เปรียบเสมือนมีดอันแหลมคม ที่กำลังกรีดแทงอยู่บริเวณหัวใจของเธอ มันเจ็บเสียจนเธออยากจะกระอักเลือดออกมาปานนั้น
วันนี้ เริ่นจื่อหลันก็เปิดคอร์สการแสดงของตัวเองตามปกติ และสิ่งที่มันดูบังเอิญเอามากก็คือ โหลวซินเยว่ก็ได้มาเป็นนักเรียนของเธอคนหนึ่งด้วย
“ โหลวซินเยว่ ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ เธอไม่ได้ยินหรือไง? ”
“ มาแสดงให้ทุกคนดูหน่อย ”
จากนั้น โหลวซินเยว่ก็เดินไปอยู่ต่อหน้าของทุกคน และนำสิ่งที่เริ่นจื่อหลันสอนไปทั้งหมดแสดงออกมา แต่ผลปรากฏการณ์แสดงนั้นของเธอ ว่ามันแย่เอามาก
เริ่นจื่อหลันจึงพูดออกมาแบบโมโหอย่างยิ่งว่า “ ฉันสอนแบบนี้เหรอ? โหลวซินเยว่ เธออย่าคิดว่าตัวเองพอมีชื่อเสียงแบบนี้ แล้วจะคิดว่าตัวเองเก่งนะ ตอนที่ฉันแสดงอยู่ที่ฮอลลีวูด นักแสดงแถวหน้าของโลกที่มากความสามารถพวกนั้น พวกเขาต่างก็ตั้งใจศึกษาเรื่องใหม่อยู่ตลอด และพยายามพัฒนาฝีมือการละครของตัวเองอยู่ทุกเมื่อนะ เธอรู้หรือเปล่า!? ”
“ ตอนนี้ เธอก็แค่พอมีชื่อเสียงขึ้นมาหน่อยๆ แต่ก็ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วแล้วเหรอ? ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้อีก แล้วจะประสบความสำเร็จจริงๆ ได้อย่างไรกัน? ”
โหลวซินเยว่ยิ้มหัวเราะออกมาแบบเย็นยะเยือก พร้อมกับพูดว่า “ คุณก็พอได้แล้วมั้งคะ การแสดงในครั้งนี้ มันก็ต้องปรบมือให้อยู่เหมือนกัน แต่ฉันก็อยากจะบอกไว้อย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าฉันจะแสดงมันได้ไม่ค่อยดี แต่มันก็สามารถทำให้คนที่เห็น รู้สึกหลงได้แบบหัวปักหัวปำ แต่กับบางคน ที่ถึงแม้จะแสดงได้ดีเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นเพราะใบหน้าที่ร่วงโรยเหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลา มันก็ไม่สามารถที่จะทำให้ความอยากของผู้ชายปะทุขึ้นมาได้หรอกค่ะ ”
ในคำพูดนั้นของเธอ มันกำลังบอกว่าเริ่นจื่อหลันอายุมากแล้วชัดๆ และมันก็ทำให้สามีของเธอ ไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรในตัวเธอแล้ว
“ แก!!”
“ ฉันทำไมคะ? ”
ทั้งสองคนปะทะกันขึ้นมา นักแสดงหญิงคนอื่นของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง ก็ไม่ได้ห้ามพวกเธอสองคนเลย ต่างก็นั่งดูโชว์ตลกนี้
จนกระทั่งเสียงมันยิ่งอยู่ยิ่งดัง จึงทำให้ไปถึงหูของฉีอิงจือ
เขาสั่งให้พวกเธอทั้งสองหยุดลง และถามว่า “ ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”
เริ่นจื่อหลันถอนหายใจออกมาแบบไม่พอใจ และพูดว่า “ คุณก็ถามนังสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นเองสิคะ!”
โหลวซินเยว่ทำสีหน้าแบบดูน่าสงสารออกมา และพูดว่า “ ฉีอิงจือคะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าฉันไปทำอะไรให้คุณเริ่นไม่พอใจตรงไหน เธอให้ฉันขึ้นไปบนเวที และแสดงให้คนอื่นดู แล้วเธอก็ดุฉัน ด่าฉัน เธอบอกว่าฉันรู้จักแต่การทำตัวติดกับคุณทั้งวัน ฉันรู้สึกเป็นผู้ถูกกระทำมากเลยค่ะ อีกหน่อย ฉันก็จะไม่ทำให้ผู้กำกับฉีต้องลำบากใจอีกแล้ว ฮือๆๆๆ ”
นี่มันไม่ใช่เรียกว่าคนเลวฟ้องให้ฟังก่อนเหรอ?
เริ่นจื่อหลันเคยเห็นคนต่ำๆ แบบนี้ที่ไหนกันล่ะ? ตอนนี้ เธอรู้สึกโกรธจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
ฉีอิงจือมองไปที่เริ่นจื่อหลัน และพูดว่า “ รอบนี้ คุณทำไม่ถูกจริงๆ ใครเขาจะพูดเหมือนคุณแบบนี้กัน? สองสามวันที่ผ่านมา สาเหตุที่ผมอยู่กับเธอด้วยกันทั้งวันแบบนั้น มันก็เพื่อที่จะทำให้เธอตีบทนั้นแตกให้ได้มากที่สุด คุณไม่สามารถที่จะสนับสนุนอาชีพของผมได้เลยเหรอ? นี่คุณไม่ใช่แค่ไม่สนับสนุน แต่ยังมาสร้างเรื่องวุ่นวายแบบนี้ให้คนอื่นอีก เริ่นจื่อหลัน ทำไมตอนนี้คุณถึงใจแคบได้แบบนี้? ”
เมื่อเริ่นจื่อหลันได้ยินเช่นนั้น เธอก็แทบจะหายใจไม่ออกขึ้นมาทันที
“ฉันใจแคบงั้นเหรอ? พวกคุณขดตัวอยู่ด้วยกันแบบนั้นทั้งวัน ยังจะมาบอกว่าฉันใจแคบงั้นเหรอ? ฉีอิงจือ คุณมันก็แค่รังเกียจที่ฉันแก่แบบนี้แล้ว แต่เธอกลับสวยสดแบบนั้นใช่ไหม ทำไมถึงไม่กล้ารับออกมาตรงๆล่ะ ”
ฉีอิงจือโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ กล้ามาก!”
“ นี่มันเป็นสิ่งที่สามีภรรยาควรพูดต่อกันเหรอ? ”
“ จื่อหลัน คุณยิ่งอยู่ยิ่งไม่มีเหตุผล ผมขอบอกให้คุณขอโทษซินเยว่เดี๋ยวนี้!”
เริ่นจื่อหลันพูดอะไรไม่ออกจริงๆ “ ให้ฉันขอโทษเธอ? ”
“ ใช่ ”
“ ฝันไปเถอะ!”
นิ้วมือของฉีอิงจือชี้ไปที่เริ่นจื่อหลัน “ คุณจะขอโทษรึเปล่า? ”
“ ให้ตายก็ไม่!”
เพียะ! ฝ่ามืออรหันต์ของเขาตบไปที่ใบหน้าของเธอ มันส่งเสียงดังออกมาอย่างชัดเจนก้องหู จากนั้น เธอก็ล้มไปกองอยู่ที่พื้น
เริ่นจื่อหลันจับไปที่ใบหน้าของตนเอง จากนั้น ก็มองไปที่เขาด้วยแววตาที่คาดไม่ถึง และพูดว่า “ คุณตบฉัน? ”