จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่172 โด่งดังในชั่วข้ามคืน
สำนักงานประธานของบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้อง
บรรยากาศค่อนข้างอึดอัด
โป๋สิ้นหงกัดฟันกรอดและมองดูชุดข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความโกรธ
เขาถามด้วยเสียงต่ำ “ฉีอิงจือคุณช่วยอธิบายให้ฉันฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไม “รู้ใจผู้หญิง” ถึงมียอดเข้าชมในวันแรกสูงมาก แต่กลับลดลงอย่างรวดเร็วในวันต่อมาได้? เวลาเล่นทั้งหมดไม่ได้สัดส่วนโดยตรงกับจำนวนการเข้าฟังเลย! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้? เป็นไปได้ไหมว่าทุกคนจะคลิกเข้าไปดูได้ไม่ถึงสองนาทีก็ปิดมันลงแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าโป๋สิ้นหงพูดถูกแล้ว
ฉีอิงจือยืนอยู่กับโหลวซินเยว่ ใบหน้าของทั้งสองแดงและเร่าร้อนอย่างมาก
พวกเขาทั้งหมดคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก หลังจากวันแรกที่พวกเขาประสบ “ความสำเร็จ” ใครจะรู้ว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้มียอดเข้าชมสูง เป็นเพราะเว็บไซต์วิดีโอหลักสามแห่งนี้มีการเข้าชมที่สูงอยู่แล้ว บวกกับได้รับการผลักดันของตำแหน่งที่เด่นที่สุดด้วย ดังนั้นปริมาณการเข้าชมถึงได้สูงขนาดนี้
ไม่ใช่เครดิตของภาพยนตร์ของพวกเขา
หลังจากน้ำลดแล้ว เราจึงจะมองเห็นคุณภาพของภาพยนตร์นี้ได้
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ดีจริงๆ
เนื่องจากการเข้าชมที่ลดลงอย่างรวดเร็ว และคุณภาพก็ต่ำมากด้วย ตัวเอกอย่างโหลวซินเยว่และบริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องต่างก็โดนชาวเน็ตด่าจนเละเทะไปเลย
เว็บไซต์วิดีโอหลักสามแห่งนำวิดีโอนี้ออกจากเว็บไซต์ของพวกเขาเกือบพร้อมๆกัน และเป็นไปไม่ได้ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำเงินได้อีกต่อไป
สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือผู้ที่เข้ามาแทนที่พวกเขาในตำแหน่งที่เด่นที่สุด กลับเป็น “ที่แท้เป็นเธอ” ของศัตรูอย่างอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์
เปิดตัวปุ๊บ ก็ดังระเบิดในโลกโซเชียลปั๊บ
ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์เรื่องนี้เท่านั้นที่ดัง แต่ยังสร้างชื่อเสียงให้กับศิลปินหญิงอย่างหลิงเหยาอีกด้วย ทำให้เธอกลายเป็นบุคคลสำคัญจากศิลปินที่ไม่เป็นที่รู้จักในตอนแรก และการเข้าชมก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย
ผู้ติดตามของเธอในเวยป๋อพุ่งขึ้นกว่าหมื่นคนในวันเดียว!
คำพูดจากปากต่อปาก เงินปันผล ความนิยม การเข้าชม เกมออนไลน์เกมแรกของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ก็ทำเงินได้อย่างมหาศาลแล้ว
บริษัทบันเทิงและวัฒนธรรมผ้าข้องลงทุนไป30ล้านบนอินเทอร์เน็ต แต่กลับสูญเสียทั้งหมด!
เมื่อต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของโป๋สิ้นหง ฉีอิงจือก็ทำได้แค่ไอ และจงใจหาข้ออ้างว่า “ประธานโป๋ครับ ผมคิดว่ามันไม่ใช่ความผิดของพวกเรา มันเป็นเพราะคนของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์เล่นสกปรกกับพวกเรา พวกเขาจงใจซื้อเสียงมาใส่ร้ายและให้คะแนนต่ำกับภาพยนตร์ของเรา จึงนำไปสู่ความล้มเหลวในครั้งนี้ ดังนั้นมันไม่ใช่ความผิดของเรา แต่เพราะพวกเขาเลวเกินไปต่างหาก”
“ฮ่าๆ!”
แม้ว่าโป๋สิ้นหงจะเป็นคนเลว แต่เขาไม่ใช่คนโง่
เขาอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานานกว่าสิบปีแล้ว เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าสถานการณ์ที่แท้จริงมันเป็นอย่างไง?
เขาจ้องไปที่ฉีอิงจือและโบกมือและพูดว่า “พอเถอะ ฉันไม่อยากฟังเรื่องไร้สาระของคุณ คุณลงไปได้แล้ว อ๋อจริงสิ เหล่าฉีคุณหยุดโครงการล่าสุดของคุณไปก่อน”
“เอ๋? ทำไมล่ะ”
“ไม่ ทำไม ฉันอยากจะให้คุณหยุด ไม่ได้หรือไง?”
“…”
แม้ว่าฉีอิงจือจะโกรธมากแต่เขาก็ไม่มีที่ระบาย ดังนั้นเขาจึงหันหลังและออกจากสำนักงาน
และโหลวซินเยว่ก็เดินตามหลังเขาไป
เธอเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเขาและปลอบโยนฉีอิงจือว่า “ผู้กำกับฉี มันก็แค่หนังเรื่องเดียวเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ผู้กำกับคนใดไม่เคยทำหนังที่ขาดทุนเหรอ? ในวันข้างหน้าเรายังมีโอกาสลุกขึ้นได้อย่างแน่นอน”
ฉีอิงจือสัมผัสมือของโหลวซินเยว่ “ก็มีแต่คุณนั่นแหละที่เข้าใจและห่วงใยผม”
เริ่นจื่อหลันที่กำลังเดินผ่านมาทางนี้บังเอิญเห็นทั้งสองคนแสดงกิริยาที่ใกล้ชิดเช่นนี้ต่อสาธารณชนพอดี
ทั้งสามมองหน้ากัน
บรรยากาศน่าอึดอัดมาก
ฉีอิงจือและโหลวซินเยว่จึงแยกจากกันอย่างรวดเร็ว เริ่นจื่อหลันเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เย็นชาและพูดว่า “คุณสองคนจะแยกออกจากกันทำไม ทั้งสองรักใคร่กันอย่างสุดซึ้งก็ดีแล้วนี่?”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้วทำให้ฉีอิงจือที่หงุดหงิดอยู่แล้วโกรธมากขึ้น
แม้ว่าตัวเองจะไม่กล้าอารมณ์เสียต่อโป๋สิ้นหง แต่กับเริ่นจื่อหลันเขาไม่เคยเกรงกลัวอยู่แล้ว?