จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่189 กรรโชก
ไส้เดือนและคางคกชำเลืองมองกันและกัน ในขณะเดียวกันก็แสดงรอยยิ้มชั่วร้ายและน่าอนาถออกมา
พวกเขาเคยผ่านผู้หญิงมามากมายแล้ว เว้นแต่ดาราที่ยังไม่เคย
อย่างมากที่สุด พวกเขาก็แค่เคยนอนกับพิธีกรที่ไม่มีชื่อเสียงเท่านั้น ยังไม่เคยแตะต้องดาราดังเลยสักครั้ง
ดาราสาวที่มีเสน่ห์เหล่านั้น แม้แต่โอตาคุธรรมดาเห็นแล้วยังต้องน้ำลายสอเลย นับประสาอะไรกับสัตว์ประหลาดทางเพศสองตัวนี้?
เฮียคางคกยิ้มและถามว่า “มึงมีสัมพันธ์อะไรกับเธอ?”
โม่ซ่าวหงยักไหล่ “แต่ก่อนเธอเป็นผู้หญิงของฉัน แต่หลังจากที่เธอกลายเป็นดาราแถวหน้าที่โด่งดังแล้ว เราสองคนก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกเลย”
คางคกไอและกระซิบว่า “แล้วคุณพอจะมีวิธีพาเธอออกมา และให้เราสองคนพี่น้องลองของใหม่ดูไหม?”
“นี้มัน……”
โม่ซ่าวหงไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้น
เขาเป็นแค่นักเลงกระจอกคนหนึ่งเท่านั้น อย่างมากเขาก็แค่รังแกคนที่ไม่มีทางสู้ เช่นถ่ายรูปเปลือยกายของคนอื่นเพื่อรีดไถเงินจำนวนหนึ่ง
พอถึงเวลาต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่จริงๆ เขาก็ไม่กล้าซะแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อีกฝ่ายหนึ่งยังเป็นผู้หญิงที่มีชื่อเสียงซะด้วย มันไม่ใช่เรื่องใหญ่กับการที่เขาแบล็กเมล์เธอเป็นการส่วนตัวโดยไม่มีใครรู้ แต่ถ้าคุณไปย่ำยีคนอื่นล่ะก็ มันจะเป็นปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน
เมื่อไส้เดือนเห็นว่าโม่ซ่าวหงกำลังจะปฏิเสธพวกเขา เขาก็พูดอย่างแข็งขันว่า “ซ่าวหง อย่าลืมว่านายได้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมากในที่ของเราในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา และตอนนี้คุณยังเป็นหนี้อยู่มากกว่าสามล้านหยวนด้วย ”
“ถ้านายสามารถช่วยให้เราสองคนพี่น้องทำเรื่องนี้สำเร็จได้ นายก็ไม่ต้องคืนเงินสามล้านหยวนให้กับเราแล้ว”
“ไม่เพียงแค่นั้น ต่อไปนี้ถ้านายมาเล่นที่สถานที่ของเราอีก เราจะงดเก็บค่าสมาชิกทั้งหมดของนาย!”
ดวงตาของโม่ซ่าวหงเป็นประกายทันที “จริงเหรอ?”
“แน่นอน เราสองคนพี่น้องพูดคำไหนคำนั้นเสมอ”
แน่นอนว่ามันแพงเกินไปแล้วสำหรับการนำเงินสามล้านหยวนมาซื้อผู้หญิง
แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นเป็นดาราหญิงชื่อดังล่ะก็ ราคานี้ก็สมเหตุสมผลดี
อีกอย่างนี่ยังเป็นการเล่นด้วยกัน 2 คนอีกด้วย โดยเฉลี่ยแล้วก็แค่ 1.5 ล้านต่อคน ซึ่งถือว่าดีสำหรับไส้เดือนและคางคกแล้ว!
มีเงินก็สามารถใช้ผีโม่แป้งได้
โม่ซ่าวหงที่กลัวปัญหาอยู่เสมอนั้น ตัดสินใจลองดูสักตั้งต่อหน้าเงินทอง
“ได้สิ พี่ทั้งสองครับ ผมจะพาพวกคุณไปลองของใหม่คืนนี้!”
…
อีกด้านหนึ่ง
หลิงเหยาจุดไฟเผาแฟลชไดร์ฟที่พึ่งได้มาในทันที หลังจากที่เธอมั่นใจว่าแฟลชไดร์ฟถูกเผาจนหมดจดแล้วเธอก็แบ่งมันเป็นสองชิ้นและโยนมันทิ้งในถังขยะสองถัง
จากนั้นเธอก็กลับไปที่อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์อย่างโล่งอกโล่งใจ
แม้ว่าเรื่องนี้จะจบลงชั่วคราว หลิงเหยายังคงรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
ประการหนึ่ง เธอไม่แน่ใจว่าโม่ซ่าวหงมีตัวสำรองหรือไม่ คำพูดของคนไร้ยางอายอย่างมันเชื่อถือไม่ได้อย่างแน่นอน หากเขายังคงแอบสำรองไว้หนึ่งชุดและมาขอเงินกับเธออีกครั้งในอนาคตแล้วเธอจะทำอย่างไรดี?
ประการที่สอง เงินถูกยืมมาจากเจียงชื่อ และจะต้องชำระคืนในอนาคต แม้ว่าเจียงชื่อจะไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่เธอควรทำอย่างไรดีหากเธอไม่สามารถใช้หนี้เงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ได้ในอนาคต?
สองเรื่องนี้ทำให้หลิงเหยารู้สึกกลุ้มใจอย่างมาก ส่งผลให้สภาพของเธอแย่ลงอีกครั้ง
ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของเจียงชื่อมาโดยตลอด
ที่มุมห้อง ชายคนหนึ่งเดินไปหาเจียงชื่อและกระซิบกับเขาว่า “ขอรายงานต่อประธานเจียง เมื่อกี้ผมแอบติดตามหลิงเหยา และพบว่าเธอไม่ได้ไปที่ธนาคารเพื่อโอนเงินและเธอก็ไม่ได้ไปโรงพยาบาลใดอีกด้วย แต่เธอไปที่บาร์ และผมเห็น … ”
หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงชื่อก็พยักหน้า
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
“อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้”
เจียงชื่อขอให้ผู้คนรอบตัวเขาออกไปชั่วคราว และเขายังคงเฝ้าสังเกตหลิงเหยาอย่างลับๆ
เมื่อมองไปมองมาเจียงชื่อก็ส่ายหัวเล็กน้อย
“เป็นเด็กผู้หญิงที่โง่เขลาจริงๆ”
“คุณไปหลงเชื่อคำพูดของคนจิตใจโหดเหี้ยมได้ยังไงกัน?”
“เฮ้อ……