จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่49 อย่าหาว่ากูไม่เกรงใจ
บทที่49 อย่าหาว่ากูไม่เกรงใจ
ในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ติงฉี่ซานรดน้ำดอกไม้สองสามกระถางที่หน้าบ้าน และมีรถสีขาวจอดอยู่ที่ประตู
ประตูรถเปิดออก มีชายร่างสูงที่สวมแว่นตาก็เดินออกมา
เขาเดินมาในสวนแล้วพูดกับติงฉี่ซานว่า:”ไม่ทราบว่า เจียงชื่ออยู่ที่นี่รึเปล่าครับ?”
ติงฉี่ซานมองผู้ชายคนนี้ “นายเป็นใคร?”
“ผมชื่อซีเหมินจุ้น เป็นผู้จัดการแผนกของบริษัทเทียนติ่ง มีหมายศาลหนึ่งฉบับ เอามาให้เจียงชื่อ”
“หมายศาล ? เจียงชื่อทำความผิดอะไรมา?”
“คุณเรียกเขาออกมาก็รู้แล้วครับ”
ติงฉี่ซานตะโกนเข้าไปในบ้านแบบไม่ค่อยเชื่อ:”เจียวชื่อ นายออกมานี่ ! ”
สักพัก เจียงชื่อก็เดินออกมา ติงเมิ่งเหยน ซูฉินตามมาข้างหลัง พวกเขาได้ยินการสนทนาของซีเหมินจุ้นกับติงฉี่ซานแล้ว รู้สึกมีความเป็นศัตรูกับซีเหมินจุ้น
ตอนนั้นเจียงโม่ก็โดนบริษัทเทียนติ่งวางแผนบีบคั้นจนตาย ตอนนี่พวกเขาคิดจะทำอะไรกับเจียงชื่ออีก?
ซีเหมินจุ้นยื่นหมายให้เจียงชื่อ
“เจียงชื่อ น้องชายของนายเพราะว่าบริษัทขาดทุน จึงเป็นหนี้ 1.2 พันล้านกับบริษัทเทียนติ่งพวกเรา”
“หลังจากเขาตาย บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งใช้เป็นหลักประกันหนี้ให้กับบริษัทเทียงติ่ง”
“แต่ตามการประมาณการของศาลแล้ว มูลค่าตลาดของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งในเวลานั้นอยู่ที่300ล้าน ซึ่งหมายความว่า เจียงโม่ยังคงเป็นหนี้บริษัทของเราอยู่ 900 ล้าน”
“ในฐานะญาติคนเดียวของเจียงโม่ในโลกนี้ หลังจากเขาเสียชีวิต หนี้900ล้านเหล่านี้จะตกอยู่กับคุณ”
“นี่คือหมายจากศาล คุณสามารถชำระหนี้ที่ค้างอยู่ 900 ล้านภายในหนึ่งปี คุณเจียงชื่อ คุณมีข้อสงสัยอะไร สามารถถามได้หมด แล้วผมจะตอบคำถามคุณทีละข้อ”
ปัง ! ! !
คนของตระกูลติงที่อยู่ตรงนั้นอึ้งกันหมด เหมือนมีสายฟ้าแวบผ่านในสมอง
หนึ่งปีคืน900ล้าน?ล้อเล่นอะไรกัน?สำหรับเจียงชื่อซึ่งไม่มีงานที่มั่นคงแล้ว นี่เป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้
ตอนนั้นเจียงโม่ถูกบีบคั้นให้ตายด้วยหนี้สินจำนวนมาก
ตอนนี้คนของบริษัทเทียงติ่งใช้วิธีเดิม คิดจะใช้วิธีนี้บีบคั้นเจียงชื่อให้ตายงั้นเหรอ?
ติงเมิ่งเหยนยืนออกมาคนแรก กำลังจะแก้ต่างให้เจียงชื่อ กลับถูกเจียงชื่อขวางไว้
เขาเก็บหมายศาลให้ดี :”900ล้านใช่ไหม? ไม่มีปัญหา”
หืม?
สีหน้าของซีเหมินจุ้นเปลี่ยนไปทันที ปฏิกิริยาของเจียงชื่อไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้เลย
ที่เขาคิดไว้ เจียงชื่อน่าจะโกรธมาก หัวร้อนมากจนลงไม้ลงมือ เจียงชื่อน่าจะแก้ตัวต่าง ๆ ว่าเขากับเจียงโม่ไม่เกี่ยวอะไรกันประมาณนั้น
แต่เจียงชื่อในตอนนี้ ใจเย็นจนทำให้เขากลัว
ซีเหมินจุ้นไอกระแอม:”คุณเจียง คุณรู้ว่า900ล้านนี้มันหมายความว่าอะไรไหม?”
เจียงชื่อปัดมือ:”คุณไม่ต้องอธิบายหรอก ผมเข้าใจ แล้วก็ ในเมื่อพวกคุณให้ผมจ่ายหนี้ต่อ งั้นในขณะเดียวกันก็หมายความว่าหนี้ยังคงมีอยู่ ก็หมายความว่า การใช้บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งมัดจำมันเป็นเรื่องชั่วคราว ถ้าผมสามารถจ่ายเงินทั้งหมด300ล้านที่ใช้มัดจำได้ งั้นผมสามารถเอาบริษัทเทคโนโลจิ้นเมิ่งแทนเจียงโม่กลับมาได้สินะ”
“เอ่อ……”ซีเหมินจุ้นรู้สึกกลัวเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้ใจเย็นมากจริง ๆ เวลาแบบนี้เขายังสามารถสังเกตเห็นรายละเอียดได้ขนาดนี้
ก็จริง แค่ให้เงินทุน1.2พันล้านพอ ถ้างั้นก็สามารถเอาบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งกลับไปได้
แต่สำหรับคนธรรมดาแล้ว900ล้านแล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เพิ่มอีก300ล้าน
จริง ๆ ถ้าคิดอย่างละเอียด ปัจจุบันมูลค่าตลาดจองบริษัทเทคโนโลยีอยู่ที่ประมาณ 3 พันล้าน ถ้าสามารถเอามาได้ด้วย1.2พันล้าน มันจะไม่เป็นผลกำไรเลยหรือ? หากล้มเหลว บริษัทเทียงติ่งก็จะฉลาดมากเกินจนเสียรู้
เจียงชื่อ ผู้ชายคนนี้ จัดการยากจริง ๆ
ซีเหมินจุ้นยิ้ม:”ถ้าคุณมีความสามารถละก็ ยินดีจ่ายเงินค้างชำระทั้งหมด 1.2 พันล้าน”
พูดจบ ซีเหมินจุ้นก็ไม่รอช้า หันหลังออกไปทันที
บนรถ ซีเหมินจุ้นได้รับสายของประธานกรรมการบริษัทเทียนติ่ง ซุนหย่งเจิน
“ซีเหมิน จัดการเรื่องถึงไหนแล้ว?”
“ไม่มีปัญหาครับ หมายศาลผมให้เจียงชื่อไปแล้ว ปลดหนี้ 900 ล้านภายในปีเดียว ”
“ฮ่าฮ่า ดีมาก ซีเหมินความคิดของนายยอดเยี่ยมจริงๆ แบบนั้น เจียงชื่อก็จะเป็นเหมือนเจียงท่อ จะถูกบีบคั้นให้ฆ่าตัวตายด้วยหนี้ก้อนโต!”
ซีเหมินจุ้นกลับใจเย็น
แรก ๆ เขาก็คิดแบบเดียวกับซุนหย่งเจิน แต่เมื่อกี้เห็นท่าทางของเจียงชื่อแล้ว ซีเหมินจุ้นรู้ว่าห้ามดูถูกผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
ซีเหมินจุ้นเจอคนมาเยอะ แป๊ปเดียวก็ดูออกว่าคนนี้มีความสามารถแค่ไหน
แต่เขาดูเหมือนจะดูเจียงชื่อไม่ออก
เขาพูดเตือน:”ประธานซุน ผมกังวลว่าเจียงชื่อจะขอความช่วยเหลือจากบริษัทอื่น ๆ จะขอความช่วยเหลือในการจ่ายหนี้1.2พันล้านจากบริษัทใหญ่ แล้วเอาบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งคืน จากนั้นเขาจะไม่เพียงแต่ไม่ขาดทุน แต่ยังทำเงินได้เกือบ2พันล้านอีก ดังนั้นประธานซุน ผมหวังว่าคุณจะสามารถหาทางป้องกันไม่ให้บริษัทอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ ”
“แน่นอนอยู่แล้ว”ซุนหย่งเจินพูดอย่างใจเย็น :”ผมไม่ได้โง่ เรื่องที่ทำให้เกิดการสูญเสียซ้ำสองอย่างในครั้งเดียวผมไม่ทำหรอก ผมบอกกับบริษัทที่สามารถจ่ายหนี้ได้ทั้งเมืองไว้แต่แรกแล้ว ใครก็ไม่ช่วยเจียงชื่อหรอก”
“อืม งั้นเจียงชื่อตายแน่ ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย”
……
ในบ้านพัก ทั้งครอบครัวเครียดกัน
ติงฉี่ซานใจร้อนจนกระทืบเท้า หนี้900ล้าน อย่าหาว่าหนึ่งปีเลย ด้วยความสามารถของเจียงชื่อนั้นมันทั้งชีวิตก็จ่ายไม่ไหวหรอก !
“เจียงชื่อ ดูสินายทำอะไรลงไป ? ! ”
ติงเมิ่งเหยนพูดแทนเขา :”พ่อคะ พ่อว่าเจียงชื่อทำไม?นี่ไม่ใช่ความผิดของเขา”
“ไม่ใช่ความผิดของเขา งั้นเป็นความผิดของพ่อเหรอ? 900ล้าน เอาอะไรไปคืน?”
ซูฉินก็พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด:”นี่มันรังแกคนชัด ๆ ? ทำไมหนี้ของเจียงโม่ต้องให้เจียงชื่อมาคืนล่ะ?ไม่ได้ พวกเราไม่เอาแน่นอน เราไม่สน”
“ไม่สน?”ติงฉี่ซานยิ้มเหอะ :”เธอคิดว่าหมายศาลเป็นเรื่องตลกเหรอ?บริษัทเทียนติ่งมันฉวยโอกาส มีหมายอยู่ เขาอยากทำอะไรกับนายก็ได้ นายไม่ลองดูอีก?”
ยิงพูดยิ่งโมโห ติงฉี่ซานทิ้งฝักบัวในมือลงพื้น:”บ้านนี้อยู่ไม่ได้แล้ว ผมจะไปบริษัท”
เจากำบังจะไป มีรถตู้สีขาวหนึ่งคันขับมา ขวางหน้าประตูสวน
มีผู้ชายที่สัก และสวมแว่นกันแดด7-8คนเดินลงมาจากรถ
ติงฉี่ซานนิ่งไป ชี้ถามพวกเขา:”พวกแกเป็นใคร ทำไมถึงมาขวางหน้าบ้านผม?”
ผู้ชายที่นำพูดว่า:”ผมคือเสือหมอบของบริษัทรับจ้างทวงหนี้ฉางหรง เมื่อวานได้รับงานจากบริษัทเทียนติ่ง ให้บ้านคุณจ่ายหนี้900ล้านภายในหนึ่งปี”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกคุณทั้งบ้านใครก็อย่าคิดจะออกจากบ้านนี้ จนกว่าพวกคุณจะจ่ายหนี้หมด”
ติงฉี่ซานหน้าบึ้ง นี่ยังมีกฎหมายอีกไหม?
“แกแกแก ไอ้พวกโจร กูไม่เชื่อ กูจะออกไปพวกมึงจะห้ามกูได้เหรอ?”
เขากำลังจะไป ลูกเด็กสองสามคนของเสือหมอบก็หยิบไม้เบสบอลออกมาแล้วกระแทกเข้ากับแผงประตูทำให้เป็นหลุมลึก
ติงฉี่ซานตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว
“พวกเราเป็นคนมีวินัย เราก็ไม่ชอบเรื่องใช้กำลัง”
“แต่ถ้าพวกคุณไม่เชื่อฟัง งั้นก็อย่าหาว่ากูไม่เกรงใจนะ”