จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่50 สังคมไร้ซึ่งน้ำใจต่อกัน
บทที่50 สังคมไร้ซึ่งน้ำใจต่อกัน
ติงเมิ่งเหยนเดินเข้ามาถาม:”พวกนายทำแบบนี้มันผิดกฎหมายรู้รึเปล่า? เป็นการจำกัดเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างผิดกฎหมาย! ”
เสือหมอบมองติงเมิ่งเหยน พร้อมกับความโลภในดวงตาของเขา ทำให้ติงเมิ่งเหยนก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ
“เหอะๆ เราไม่ได้จำกัดพวกคุณนี่”
“ก็แค่อยู่ในบ้านนี้ พวกคุณอยากทำอะไรก็ได้ ขอแค่ไม่ออกไป เราก็จะไม่ทำอะไรพวกคุณ”
“ในวงการนี้ กูถือว่าเป็นคนสุภาพมากนะ ถ้าเปลี่ยนเป็นบ้านอื่น น้องสาว อย่างเธอที่มีรูปร่างหน้าตาดี ก็คงถูกคนกลุ่มนั้นจ้องแล้ว”
ติงเมิ่งเหยนกัดฟันด้วยความโกรธ และหยิบมือถือออกมาเพื่อแจ้งตำรวจทันที
“ฮัลโหล ฉันจะแจ้งความ มีคนกลุ่มหนึ่งขวางหน้าบ้านพวกเราไม่ให้พวกเราออกไป”
“ใครเหรอ?เอ่อ เป็นบริษัททวงหนี้”
“ทำร้ายพวกเรารึเปล่า? ตอนนี้ยังไม่มี แต่ว่าพวกเขา7-8คนมีอาวุธกันทั้งนั้น แล้วยังไม่ให้พวกเราออกไป……”
“หมายความว่าไงที่ไม่สามารถฟ้องตำรวจได้ถ้าไม่ก่อให้เกิดอันตราย? หรือว่ารอให้พวกเขาทำร้ายพวกเราแล้ว พวกคุณถึงจะมาจัดการ?”
ติงเมิ่งเหยนโกรธจนวางสาย ใจร้อนจนอยากจะร้อง
เสือหมอบหัวเราะ:”ไม่ต้องแจ้งความหรอก ไม่ได้ช่วยอะไร ผมบอกแล้ว พวกเราสุภาพมาก ไม่ทำร้ายเธอหรอก ถ้าตำรวจมาแล้วจะทำอะไรพวกเราได้?ตอนเช้ากลับไปตอนเย็นพวกเราก็มาอีก ตอนเย็นกลับไปกลางคืนก็มาอีก วันนี้ไปแล้วพรุ่งนี้พวกเราก็มา หรือว่าเธอจะโทรทุกวันงั้นเหรอ?”
ประโยคนี้ฟังแล้วติงเมิ่งเหยนทั้งบ้านแทบจะหมดหวัง
นั้นสิ คนพวกนี้ไม่ได้ใช้ความรุนแรง ตำรวจมาแล้วก็ทำอะไรไม่ได้
ถึงจะไล่ออกไปได้ชั่วคราว พวกเขาก็มาขวางได้ทุกวัน ไม่คืนเงิน อย่าคิดจะออกจากประตูนี้ไปได้
ตอนนี่พวกเขาสามารถสัมผัสถึงความลำบอกที่เจียงโม่ได้รับตอนนั้นแล้ว
คาดว่าเจียงโม่คงโดนคนเหล่านี้บีบคั้นจนตายสินะ?
เสือหมอบพูดต่อ:”จริงสิ อาหารที่บ้านยังพอสินะ?ค่อย ๆ กิน กินประหยัด ๆ หน่อย เพราะว่าตั้งแต่นี้ไป พวกคุณอย่าคิดว่าจะมีอะไรส่งเข้าไปได้”
นี่คือจังหวะที่จะบีบคั้นครอบครัวของพวกเขาไปสู่ความตาย
แน่นอนว่าบริษัททวงหนี้ก็มีต้นทุนเช่นกัน เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำเช่นนี้ได้ตลอดทั้งปี พวกเขายังต้องการประสิทธิภาพ
การตัดอาหารของคุณออกเป็นวิธีที่ตรงที่สุด
หลังจากผ่านไปสองวันคุณก็ทนไม่ไหวแล้ว ถึงเวลาไม่คืนก็ต้องคืน
ติงฉี่ซานโกรธจนเตะกระถางดอกไม้ล้ม :”อยู่ไม่ได้แล้ว อยู่ไม่ได้แล้ว ! ”
ติงเมิ่งเหยนหายใจเข้าลึก ๆ หยิบมือถือออกมาอีกครั้ง
“เธอจะโทรหาใคร?”ติงฉี่ซานถาม
“โทรหาปู่”
“มีประโยชน์อะไร?คุณปู่ติงจะเอาเงินมาจากไหน?ถึงจะมีเงิน จะจ่ายหนี้แทนเจียงชื่อได้ไง?”
แต่เรื่องมาถึงตอนนี้ก็ช่วยไม่ได้ ติงเมิ่งเหยนยังคงโทรหาคุณปู่ติงจ้ง
“ฮัลโหล คุณปู่ ฉัน……อยากขอให้ปู่ช่วยอะไรหน่อยค่ะ”
เสียงเย็นชาของติงจ้งส่งมาจากทางนั้น:”โอ้ คุณหนูติงที่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ก็มีเรื่องมาขอปู่เหรอ?”
“ปู่คะ คือแบบนี้ เจียงโม่ติดหนี้บริษัทเทียนติ่ง900ล้าน ตอนนี้จะให้เจียงชื่อจ่ายหนี้ ปู่ว่า……”
“อะไรนะ?”ติงจ้งได้ยินแล้วทั้งตกใจทั้งดีใจ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความดีใจ หัวเราะแล้วพูดว่า:”ให้เจียงชื่อคืน900ล้าน ฮ่าๆ ๆ ๆ นึกไม่ถึงจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย?”
“ปู่คะเจียงชื่อเขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น ทางปู่ช่วยจ่ายก่อนได้ไหมคะ?”
ติงจ้งจริงจังขึ้นมาทันที:”เมิ่งเหยน เธอกำลังพูดล้อเล่นอะไร?นั้นมัน900ล้าน ไม่ใช่900 ปู่จะมีเงินมากขนาดนั้นได้ไง?”
“เมื่อวานเพิ่งได้การลงทุนมา30ล้านไม่ใช่เหรอคะ?”
“นั่นคือกองทุนเริ่มต้นสำหรับโครงการปรับปรุง ไม่ใช่ให้ลูกเขยบ้านพวกเธอมาจ่ายหนี้!”
“แต่จริงๆแล้วแผนการปรับปรุงนั้นต้องการเงินเพียง300 ล้านในการเริ่มต้น เงินที่เหลือเอามาใช้เพื่อช่วยเหลือเจียงชื่อก่อน และเราจะจ่ายคืนในอนาคต”
“คืน?เอาอะไรมาคืน?”ติงจ้งพูดอย่างไม่พอใจ:”เจียงชื่อไอ้จนนั้น ทั้งชาติก็คืนไม่ไหวหรอก ปู่ไม่โง่ขนาดเอาเงินก่อนนี้มาช่วยมันจ่ายหนี้ ถึงเวลาสืบบริษัทใหญ่ถามขึ้นว่าเงินไปไหนหมด ปู่จะพูดยังไง?”
“แต่ว่าปู่คะ บริษัททวงหนี้อยู่หน้าบ้าน ไม่คืนเงินพวกเราทั้งบ้านก็ออกไปไม่ได้ ปู่ต้องช่วยนะคะ ! ”
“ออกไปไม่ได้ ? เป็นไปได้ไง?เจียงชื่อของเธอไม่ใช่เก่งมากเหรอ?ไม่ใช่ว่าขนาดเจ้าบ้านของตระกูลฉางยังเรียกมาขอโทษได้เหรอ?คนใหญ่โตที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ยังจัดการกับคนทวงหนี้พวกนั้นไม่ได้?เมิ่งเหยน เธออย่าพูดเล่นกับปู่เลย เอ่อ ปู่มีลูกค้ามา วางก่อนนะ บาย”
ตู้ดตู้ดตู้ด……
วางสายแล้ว ติงจ้งไม่ยอมช่วยตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วยังพูดพล่อย ๆ อีกเยอะ
เห็นเจียงชื่อมีปัญหา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าติงจ้งมีความสุขมาก
มองมือถือนิ่ง ๆ ติงเมิ่งเหยนเสียใจสุด ๆ ตอนนี้เธอก็เหมือนยืนอยู่บนหน้าผา เธอก็ยื่นมือไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
แต่ไม่มีใครอยากจับมือเธอเลย แล้วยังหัวเราะเยาะเธอ เยาะเย้ยเธอ และยังอยากจะผลักเธอลงจากหน้าผาด้วยมือของเขาเอง
ตอนนี้ติงเมิ่งเหยนสัมผัสถึงสังคมไร้ซึ่งน้ำใจต่อกัน ความอบอุ่นในโลกมนุษย์
ติงฉี่ซานนั่งลงกับพื้นทันที:”จบแล้ว จบแล้ว จบแล้ว ครั้งนี้ไม่มีทางรอดแล้ว คุณปู่นิ่งไม่ยุ่งเลย พวกเราทั้งบ้านคงจะต้องหิวตายในบ้านแน่ ๆ เจียงชื่อ แกมันตัวอันตราย ตอนนั้นผมตาบอดจริง ๆ ถึงได้ให้ลูกสาวแต่งงานกับนาย”
เขาเป็นลูกผู้ชาย พูดไปก็แทบจะร้องออกมา
ทางซูฉินนั้นแอบเช็ดน้ำตาตั้งนานแล้ว
ทั้งบ้านรู้สึกเศร้ากับสถานการณ์ที่น่าสังเวชและทำอะไรไม่ถูกนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกหมดหวัง
ณ ตอนนี้……
เจียงชื่อถอนหายใจ ถอดเสื้อคลุมวางแล้วคลุมตัวของติงเมิ่งเหยนไว้ พูดอย่างอบอุ่นว่า:”ไม่ต้องเสียใจ เรื่องนี้ผมจัดการเอง”
ติงเมิ่งเหยนยิ้มฝืด ๆ แล้วพูดว่า:”จัดการ?จัดการยังไง?นี่มันไม่เหมือนกับสถานการณ์ที่นายเคยเจอ เมื่อก่อนนายหาเพื่อนมาช่วยได้ พานายพลได้ แต่ครั้งนี้นายจะหาใคร?ใครสามารถเอา900ล้านออกมาได้ทีเดียว?”
“ถึงจะเอาออกมาได้ จู่ ๆ ใครจะยอมเอาเงินออกมาให้เยอะขนาดนี้?เจียงชื่อ บางทีครั้งนี้บ้านเราคงจะถึงฝั่งแล้วล่ะ”
เจียงชื่อไม่พูดอะไร แต่กลับมองตาของเธอ
สักพัก เขาทิ้งคำสามคำที่คุ้นเคยมากไว้:”เชื่อผมสิ”
เจียงชื่อหันหลังเดินมาถึงหน้าบ้าน เห็นเสือหมอบและคนอื่น ๆ พูดเบา ๆ :”ให้เวลาพวกนาย10นาทีออกไป ไม่งั้นละก็ เกิดอะไรขึ้นก็รับผิดชอบเอง”
เสือหมอบหัวเราะ:”โอ้ ยังกล้ามาขู่กู?มึงคิดว่ากูหลอกง่ายขนาดนั้นเหรอ?หนูน้อย หาเงินมาไม่ได้ ทั้งชาตินี้มึงก็อย่าคิดว่าจะออกจากบ้านนี้ได้ ! ”
เจียงชื่อส่ายหัวเบา ๆ หยิบมือถือออกมาดูรายชื่อ
เสือหมอบขำแล้วพูดว่า:”ดู ดูต่อไป กูจะดูว่าสวะอย่างมึงจะหาใครมาช่วยมึงได้”
เจียงชื่อข้ามชื่อแล้วข้ามชื่ออีก คนพวกนี้ถึงจะจัดการเสือหมอบได้ง่าย ๆ แต่พวกเขาทั้งหมดมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเวสเตอร์แลนด์และผู้บริหารระดับสูง เจียงชื่อไม่ต้องการเปิดเผยพวกเขากับตระกูลติงและบริษัทเทียนติ่งเร็วเกินไป
สุดท้าย เขาหาชื่อที่คุ้นเคยและมีประโยชน์ได้ :หัวล้านหลง