จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่65 ฝีมือการปรุงอาหารของคนจีน
บทที่65 ฝีมือการปรุงอาหารของคนจีน
ซูจองหยวนเงยหน้าและพูดอย่างไม่พอใจว่า“อย่างแรก ที่นี่เป็นโรงแรม ไม่ใช่บ้านของเธอ อย่างที่สอง ฉันมาเยี่ยมแม่ ไม่ใช่มาเยี่ยมเธอซูหงเหวิน เธอไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉันออกไป เข้าใจยัง? ”
เขาดีดนิ้ว และมีชายชาวต่างชาติใส่ชุดพ่อครัวเดินตรงเข้ามา
ซูจองหยวนพูดว่า“ฉันไม่ใช่คนจนอย่างพวกเธอนะ พวกเธอจ้างพ่อครัวที่ไม่ได้คุณภาพมาทำอาหารที่หมูยังไม่กินให้แม่กิน แต่ฉันกลับจ้างพ่อครัวระดับโลกที่มีฝีมือมา คุณโรเบิร์ต”
“คุณโรเบิร์ตคนนี้ มีพรสวรรค์ด้านการทำอาหาร และเคยขึ้นปกนิตยสารอาหารอีกด้วย ขอถามว่า น้องเล็ก พ่อครัวแถวเจียงหนานที่นายหา มีคนไหนที่มีผลงานระดับมีมั้ย?”
ซูหงเหวินพูดอะไรไม่ออก
ความจริง พ่อครัวที่ซูหงเหวินจ้างมาคุณภาพก็ไม่เลว และเป็นพ่อครัวที่ดีที่สุดในเจียงหนานแต่เมื่อเทียบกับพ่อครัวระดับโลกที่ซูจองหยวนจ้างมา ความแตกต่างก็มีไม่น้อย
ซูหงเหวินโกรธและพูดว่า“ปกติไม่เคยถามไม่เคยสนใจเรื่องของแม่เลย แต่ตอนนี้ที่จะมีการแบ่งสมบัติแล้ว ถึงจะมาปรนนิบัตรรับใช้แม่ ชั่งน่ารังเกียจจริงๆ”
ซุจองหยวนยิ้มแล้วมองไปที่ยายแก่คนนี้“แม่ อาหารขยะพวกนี้ แม่อย่ากินเลยนะ เดียวผมจะให้โรเบิร์ตทำอาหารที่อร่อยให้คุณแม่กินนะ แม่จะได้มีความสุขในวันครบรอบวันเกิดแปดสิบปี ดีมั้ย?”
ซูฉินถอนหายใจและด่า“รสชาติที่แม่ชอบพิเศษหน่อย นายให้พ่อครัวฝรั่งมาทำอาหารจะทำอาหารที่คุณแม่ชอบได้อย่างไง? ฉันกลัวจะเชื่อถือไม่ได้นะ”
ซูจองหยวนโมโห“พี่ใหญ่ พี่เป็นผู้หญิงจะรู้อะไร คุณโรเบิร์ตเป็นพ่อครัวระดับโลก ถ้าเขาเชื่อถือไม่ได้ แล้วใครจะเชื่อถือได้?”
ที่สำคัญ พี่ใหญ่ไม่ใช่ผมจะว่าพี่นะ พี่ดูน้องเล็ก เขายังช่วยจ้างพ่อครัวขยะมาทำอาหาร แต่พี่ละ พี่เป็นพี่ใหญ่นะ พี่ไม่ทำอะไรเลย ไม่ได้จ้างพ่อครัวมาทำอาหารเลย ไม่มีความกตัญญูเลย พี่ยังจะมาว่าผม ยังจะมาด่าผม ทำไมพี่หน้าด้านจัง?”
ซูฉินเป็นผู้หญิง ถูกดูถูกต่อหน้าสาธารณะ หน้าของเธอแดงทันที
ได้ยินแบบนี้เจียงชื่อเดินเข้ามายิ้มแล้วพูดว่า“แม่ของผมก็ได้จ้างพ่อครัวมาเหมือนกันนะครับ”
ซูฉินถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองได้ให้เจียงชื่อเตรียมพ่อครัวไว้แล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงลืมไปได้?
ซูจองหยวนหัวเราะ“คงไม่ใช่พ่อครัวที่จ้างมาจ้างร้านข้างทางนะ?”
เจียงชื่อพูดเบาๆ ว่า“ฉันไม่พูดอวดอะไรมาก แต่ดีกว่าฝรั่งของนายแน่นอน”
“เฮ้อ พูดอวดดีนะ นายเชิญออกมาให้ดูเลยสิ”
เจียงชื่อโทรหาเน่ร์เจิง ไม่นาน เน่ร์เจิงเดินเข้ามาที่ห้องโถง ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
เน่ร์เจิงมีรูปร่างที่สูงใหญ่ดูเงียบสุขุมเมื่อเน่ร์เจิงเดินมาให้ความรู้สึกที่น่าเกรงขามมากแขนของเขา……
ซูจองหยวนดูแล้วหัวเราะ“ขอโทษนะๆ ที่ฉันพูดว่าพ่อครัวคนนี้ถูกจ้างมาจากร้านข้างทาง ฉันพูดผิด นายคนนี้อาจจะถูกเอามาจากกองขยะก็ก็ได้นะ ขอร้องเถอะ พวกเธอเคยเห็นพ่อครัวที่แขนใหญ่ขนาดนี้มั้ย? มาเล่นตลกอะไรกัน?”
ทุกคนเห็นแบบนี้แล้วพูดอะไรไม่ออกเลย ในใจคิดว่าซูฉินก็พูดถูก งานเลี้ยงวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของแม่จะประหยัดได้อย่างไร? ถึงจะไม่มีเงิน ก็ต้องหาเงินและจ้างพ่อครัวที่ดีกว่านี้หน่อย
อาจจะไม่ใช่จ้างพ่อครัวที่ดีเลิศ แต่ก็ควรเป็นพ่อครัวที่อยู่ในร้านอาหาร
ครั้งนี้ที่จ้างพ่อครัวแขนเดียวมา คิดว่าเขาเป็นเอี้ยก้วยหรือ? มีแค่แขนเดียวจะทำอาหารได้อย่างไร? ชั่งน่าตลกจริงๆ
ตอนนี้ซูฉินไม่รู้จะเอาหน้าไปไส้ไหนแล้ว และเหลือบตาไปมองเจียงชื่อ แววตาของเธอแฝงไปด้วยความโกรธ
ในใจเธอลึกๆ แล้วรู้สึกโกรธ ใจของเธอคิดว่าทำไมเจียงชื่อถึงไว้ใจอะไรไม่ได้แบบนี้?
ตอนนี้เป็นไงละ เธอต้องมาอับอายขายหน้า
ทุกคนที่หัวเราะเยาะเย้ย แต่เน่ร์เจิงไม่รู้สึกอะไรเลย และพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย“พ่อครัวมีแขนกี่แขนไม่สำคัญ สำคัญที่อาหารที่ทำออกมาอร่อยมั้ย บางคนถึงมีครบทั้งสองแขนแต่อาหารที่ทำออกมารสชาติแย่ ยากที่จะกิน”
รอยยิ้มของซูจองหยวนหายไปและถามว่า“นายหมายความว่าอะไร? อาหารที่นายทำอร่อยกว่าของคุณโรเบิร์ตหรือ? นายเป็นใครมาจากไหน กล้ามาพูดอวดดีที่นี่? คุณโรเบิร์ตเคยขึ้น……”
ยังไม่รอให้ซูจองหยวนพูดจบ เน่ร์เจิงพูดแทรกว่า“วัฒนธรรมจีนห้าพันปี มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน พื้นที่ที่กว้างขวางในพื้นแผ่นดินนี้มีชนิดของชื่ออาหารนับหมื่นชื่อ นับไม่ถ้วนและอาหารแต่ละชนิด เมื่ออยู่ต่างที่วิธีการทำและรสชาติก็ไม่เหมือนกัน”
“ตามกาลเวลา เมื่อแบ่งตามประเภทของอาหารจะแบ่งได้เป็น เสฉวน ซานตง กวางตุ้งฝูเจี้ยน เจียงซู เจ้อเจียง หูหนาน อานฮุยแปดประเภท ถ้าแบ่งลงไปอีกทำได้ยากเนื้อจากความซับซ้อนและยากที่จะแบ่งประเภท
“เทคนิคการทำอาหาร วิธีการทำ เครื่องครัวต่างๆ ของทั่วโลกมารวมกันแล้วยังไม่ถึงร้อยละหนึ่งของจีนเลย พ่อครัวที่ดีที่สุด เป็นพ่อครัวจีนเสมอ”
“นายจ้างพ่อครัวฝรั่งมาที่จีนเพื่อมาทำอาหารจีนหรือ ชั่งตลกสิ้นดี อาหารตะวันตกอยู่ในตำราอาหารของจีนแล้ว ดูไร้ค่ามากเลย วิธีการทำที่ล้าหลัง เทคนิคที่พื้นๆ รสชาติก็ธรรมดา ถึงจะเคยขึ้นนิตยสารแล้วอย่างไง? เป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งในต่างประเทศ หรือจะเอากระดาษนั้นมาเลียหรือ?”
ซูจองหยวนถูกว่าจนพูดอะไรไม่ออก และไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
เจียงชื่อแอบยิ้ม คิดไม่ถึงเลยว่าเน่ร์เจิงคนนี้ก็พูดเก่งเหมือนกันนะ นี่ก็ไม่แปลก ในด้านอื่นๆ เน่ร์เจิงไม่มีพื้นที่ที่จะพูด แต่ในด้านการทำอาหาร เขามีสิทธิ์พูดมากกว่าคนอื่น
ซูจองหยวนพูดจู้จี้จุกจิก แต่ไม่กล้าที่จะด่ากลับ
โรเบิร์ตได้เดินออกมา และพูดภาษาจีนที่เป็นสำเนียงต่างประเทศว่า“พูดอวดเก่ง แต่ไม่มีความสามารถก็เหมือนตัวตลกตัวหนึ่ง ใครทำอาหารอร่อยกว่ากัน มาแข่งกันเดี๋ยวก็รู้”
“ใช่!”
ซูจองหยวน“คือ…..ฮีโร่แขนเดียว นายกล้าจะแข่งกับคุณโรเบิร์ตมั้ย?”
เน่ร์เจิงเงยหน้าขึ้น“ทำไมผมจะไม่กล้า?”
“เยี่ยม เริ่มแข่งกันตอนนี้เลย ฉันจะดูว่าคนที่มีแขนเดียวอย่างนาย ทำไมถึงกล้าพูดอวดดีอวดเก่งแบบนี้”
ทันใดนั้น ทุกคนได้เปิดพื้นที่ให้พวกเขา
โรเบิร์ตและลูกมือได้เตรียมเครื่องครัว วัตถุดิบและอื่นๆ แต่เน่ร์เจิงรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียว ไม่ต้องมีใครมาช่วย
ไม่นาน ทั้งสองคนได้เริ่มทำอาหารของตัวเอง
อย่ามองว่าเน่ร์เจิงมีแค่แขนเดียว แต่เขามีความสามารถขั้นเทพ บางคนที่มีครบสองแขนยังทำไม่ได้ แต่เขามีแค่แขนเดียวกลับทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่ต่างจากโรเบิร์ตก็คือ ทุกครั้งที่จะเริ่มทำอาหาร เน่ร์เจิงจะสังเกตปฏิกิริยาและสภาพของคุณยายอย่างละเอียด และถามซูฉินกับซูหงเหวินเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับคุณยาย
ประมาณหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองคนได้ทำอาหารของตัวเองเสร็จ
โรเบิร์ตทำอาหารที่ดูน่ากินไว้เต็มโต๊ะ แต่เน่ร์เจิงแค่ตั้งสิ่งที่เหมือนขาตั้งไหเหล้า ไว้บนโต๊ะ
ซูจองหยวนมองดูแล้วรู้สึกดีใจ“นายๆๆ นายทำอาหารอะไร? ผักดองเค็มหรือ? คนจนก็คือคนจน อาหารที่ทำก็แฝงไปด้วยกลิ่นอายของคนจน”
เน่ร์เจิงพูดด้วยความสงบว่า“อาหารไม่ได้แบ่งรวยหรือจน แต่แบ่งเป็นอร่อยหรือไม่อร่อย?”
“เฮอ เฮอ ปากเก่งนะ ฉันก็จะดูว่าผักดองเค็มของนาย จะสู้อาหารของคุณโรเบิร์ตได้มั้ย!”