จอมนักรบท้าโลก - จอมนักรบท้าโลก - บทที่89 เป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริง
บทที่89 เป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริง
ในห้องนั่งเล่น ติงฉี่ซานและซูฉินมองหน้ากัน และทั้งคู่ได้ยินเสียง‘กลัว’ของติงเมิ่งเหยนในห้องนอน
ซูฉินกล่าวว่า “เราควรสอนเด็กๆด้วยประสบการณ์ของเราหรือไม่? อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกสำหรับพวกเขา คงไม่รู้ว่าทำอย่างไร”
ติงฉี่ซานกรอกตาใส่เธอ “คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่เนี่ย? คุณคิดว่าเมื่อสมัยเราหรือไง หัวโบราณ ไม่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง? เด็กสมัยนี้รู้ทุกอย่างแล้ว ยังต้องให้คุณไปสอนหรือ?
ติงฉี่ซานพูดพร้อมกับจับแขนของซูฉิน และดึงเธอออกไปข้างนอก
“เฮ้ ตาแก่ คุณกำนะอะไรนะ?”
“ทำอะไร? ก็ออกไปเดินเล่นไง หรือไม่อย่างนั้นคุณยังอยากจะอยู่บ้านแล้วเป็นกขคของลูกๆงั้นเหรอ?”
ติงฉี่ซานจงใจขึ้นเสียงและตะโกน “อืม ฉันไปเดินเล่นกับแม่ของนาย และจะกลับมาช้ามาก พวกเธอสามารถทำอะไรก็ได้ตามความต้องการไม่ต้องอาย”
หลังจากพูดจบ เขาก็พาภรรยาของเขาซูฉินเดินออกจากบ้านไป
ขณะนี้ภายในห้องนอน
ติงเมิ่งเหยนรู้สึกประหม่าและละอายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้ยินคำพูดของพ่อเธอ เธอยิ่งทำตัวไม่ถูกกว่าเดิม
เธอมีพ่อแบบนี้ได้ยังไง? นี่มันเป็นการจงใจทำให้ลูกสาวของตัวเองลำบากใจไม่ใช่หรือ?
ติงเมิ่งเหยนนอนขดตัวอยู่บนหัวเตียง ห่อตัวเองด้วยผ้าห่มอย่างมิดชิด ตาทั้งสองเปิดกว้างด้วยความตื่นเต้น
เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์ และไม่เคยทำอะไรแบบนั้น
ครั้งแรกจะไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นคือ เวลาที่เธอและเจียงชื่อเข้ามาอยู่ด้วยกัน คือช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าไม่นานนัก
“วันนี้ … คุณต้องการจริงหรือ?” ติงเมิ่งเหยนถามอย่างไร้เดียงสา
ความจริงเรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องถามเลย
เมื่อชายคนหนึ่งทำตัวเหมือนเสือที่กำลังกระหายแล้ว คุณยังถามคำถามแบบนี้ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?
แต่พูดตามตรง ในใจของติงเมิ่งเหยนไม่ได้ต่อต้านแม้แต่น้อย
เธอมีความคาดหวังและแอบดีใจเล็กน้อยด้วยซ้ำไป
เธอเคยคาดหวังว่าจะได้เป็นคู่แท้กับเจียงชื่อมานานแล้ว และจะทำสิ่งที่ควรทำระหว่างสามีภรรยาให้สำเร็จ แต่เธอก็รู้สึกละอายที่จะพูดออกมา วันนี้เจียงชื่อได้ริเริ่มพูดออกมาเอง และถือว่าเป็นไปตามความปรารถนาของเธอ
เพราะฉะนั้น ปากเธอบอกว่าไม่ แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนา
หัวใจของเจียงชื่อเต้นเร็วขึ้น
ในฐานะเทพแห่งสงครามชูร่า มันไม่ควรเป็นเช่นนั้น
เขาพยายามควบคุมอารมณ์ แต่ทันทีที่เขาเห็นติงเมิ่งเหยน เขาก็ไม่สามารถยับยั้งความชอบภายในของเขาได้
เขารู้ดีว่า เขาตกหลุมรักติงเมิ่งเหยนไปแล้ว
ไม่สามารถถอนตัวได้
ขณะที่เจียงชื่อเดินไปที่ข้างเตียงเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลายครั้ง
กริ๊ง……
กริ๊ง……
ทันใดนั้นหัวของเจียงชื่อก็มีอาการหึ่งขึ้นมา ทำไมถึงโทรมาในเวลานี้?
ติงเมิ่งเหยนก็แสดงปฏิกิริยาเช่นกัน
พวกเขาสองคนสบตากัน และก็รู้สึกอายเล็กน้อย ไอ้คนไหนที่โทรมาในเวลาสำคัญแบบนี้?
ทั้งคู่ไม่อยากจะสนใจโทรศัพท์นั่น
ทั้งสองแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ดำเนินการต่อจากสิ่งก่อนหน้านี้ ก็คือทำในสิ่งที่สามีภรรยาเขาทำกัน
แต่……
กริ๊ง…กริ๊ง…กริ๊ง…
เสียงเรียกเข้าดังต่อเรื่อยๆ โดยไม่หยุดเลย
“น่ารำคาญ!”
ติงเมิ่งเหยนทำหน้ามุ่ย และลุกขึ้นเพื่อรับโทรศัพท์ ก็พบว่าเป็นสายจากคุณปู่ติงจ้ง
เธอรับโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด “คุณปู่มีอะไรหรือเปล่า?”
“เมิ่งเหยน คุณต้องมาที่บริษัทโดยเร็ว โครงการปรับปรุงเกิดปัญหาใหม่แล้ว เธอรีบมาช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหาเร็วๆ”
“ต้องไปคืนนี้เลยเหรอคะ?”
“ไม่ใช่คืนนี้ แต่เป็นตอนนี้!”
ติงเมิ่งเหยนวางสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธ และหันไปมองเจียงชื่อด้วยสีหน้าเสียใจ
เจียงชื่อยิ้ม และยกมือขึ้นกล่าวว่า “ถ้างั้นแผนของเราในการสร้างคนก็ต้องล่าช้าออกไป”
ติงเมิ่งเหยนหน้าแดงด้วยความอับอาย “ฉันขอโทษ คราวหน้า คราวหน้าน่าจะไม่เป็นแบบนี้อีก”