จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 337 คนปากพล่อย
หลังจากความสัมพันธ์อันยาวนาน ซุนจ้ายเย้นก็ตกหลุมรักเสี่ยวเตี๋ยจนวางแผนจะขอเธอแต่งงาน แต่เรื่องแบบนี้ซุนเฉิงจะยินยอมได้อย่างไร?
ลูกชายของครอบครัวใหญ่จะแต่งงานกับสาวแดนซ์ในร้านเหล้าได้อย่างไร?
มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!
ปกติไปเที่ยวเล่นไม่ว่ากัน แต่ถ้าเล่นจนเกิดความสัมพันธ์จนกระทั่งจะแต่งงานกัน อย่าแม้แต่จะคิด
ด้วยเหตุนี้ สองพ่อลูกจึงเกิดการผิดใจกัน
เนื่องจากซุนจ้ายเย้นรักผู้หญิงคนนั้นมาก แต่เขาไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจพาเสี่ยวเตี๋ยหนีไปใช้ชีวิตด้วยกัน
แต่การหนีออกจากบ้านของซุนจ้ายเย้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นเขาจึงต้องหาคนมาช่วยเขาในการหนีออกจากบ้านในครั้งนี้
และคนที่มาช่วยเขาก็คือพี่ชายของเขาซุนหย่งเจิน
ซุนหย่งเจินภายนอกรับปากเขาว่าจะช่วย แต่เบื้องหลังเขาได้บอกความจริงกับซุนเฉิงแล้วว่าน้องชายเขาซุนจ้ายเย้นกำลังวางแผนจะหนีไป ดังนั้นในคืนที่หลบหนี ซุนจ้ายเย้นกับเสี่ยวเตี๋ยจึงถูกจับตัวไว้
หลังจากนั้นซุนจ้ายเย้นก็ถูกจับตัวไปที่หอบรรพบุรุษของตระกูลและถูกเฆี่ยนตีอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขาล้มป่วยมาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนเสี่ยวเตี๋ยก็ถูกคนของซุนเฉิงส่งออกไป
แต่เธอถูกไปที่ไหนนั้น ไม่มีใครรู้เลย
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว ซุนเฉิงก็สูญเสียความมั่นใจในตัวของซุนจ้ายเย้นไปอย่างสิ้นเชิง การหลอมเหล็กให้เป็นเหล็กกล้านั้นล้มเหลว ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงมอบตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวให้กับซุนหย่งเจินลูกชายคนโตของเขา
แต่ไม่ถึงสองเดือนต่อมา ซุนเฉิงก็โกรธจนสิ้นใจและจากโลกนี้ไป
หลังจากนั้นซุนจ้ายเย้นก็ย้ายออกจากครอบครัวและไม่มีการติดต่อกับตระกูลซุนใดๆ เป็นเวลาหลายปี โดยอาศัยทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของเขาในการหาเลี้ยงชีพตัวเอง
เดิมทีคิดว่าในชาตินี้ซุนจ้ายเย้นกับซุนหย่งเจินจะไม่มีวันได้พบกันอีกแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าซุนหย่งเจินกลับมาหาเขาถึงที่
เพียงเพราะซุนหย่งเจินรู้ว่าการที่ใครสักคนในโลกนี้จะสามารถเอาชนะเจียงชื่อได้ นั่นก็คือซุนจ้ายเย้นน้องชายที่ฉลาดที่สุดของเขาเท่านั้น
และอันที่จริงแล้ว ถ้าหากซุนหย่งเจินไม่เปิดเผยความลับในวันนั้น ซุนจ้ายเย้นก็จะไม่แพ้ให้เขาอย่างแน่นอน
เพราะซุนจ้ายเย้นเลือกที่จะเชื่อใจพี่ชายคนนี้ที่หักหลังเขา ซึ่งปมนี้เขาไม่มีวันผ่านมันได้ไปในตลอดทั้งชีวิตของเขาอย่างแน่นอน
คนที่อยู่ในสถานการณ์ต่างก็รู้ประวัติที่น่าฝังใจของสองพี่น้องนี้ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นเลย
และในขณะนี้ บรรยากาศยังคงอยู่ในความอึดอัด
ซุนจ้ายเย้นพูดขึ้นว่า “ซุนหย่งเจิน คุณอย่ามาพูดจาไพเราะที่นี่ คุณเคยทรยศผมยังไง คุณรู้อยู่แก่ใจ!”
“คุณกลัวว่าผมจะแย่งตำแหน่งสืบทอดของคุณ ดังนั้นคุณจึงจงใจเปิดเผยความลับของผม”
“ความจริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะ เพราะถ้าผมกับเสี่ยวเตี๋ยจากไป ตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลก็ตกเป็นของคุณเพียงคนเดียวอยู่แล้ว จริงไหม?”
“ซุนหย่งเจิน คุณทำเกินไปจริงๆ!”
“แต่วันนี้คุณยังมีหน้ามาขอให้ผมช่วยอีก เหอะๆ ทำไมคุณถึงหน้าด้านขนาดนี้?”
ซุนหย่งเจินถอนหายใจ “เอาล่ะ ในเมื่อเราคุยกันไม่รู้เรื่อง งั้นข้าจะไม่เสียเวลาอีก”
“แน่นอน! ฉะนั้นคุณไปได้แล้ว”
ซุนหย่งเจินไม่ได้มีทีท่าว่าจะจากไป แต่เขากลับพูดอย่างประนีประนอมว่า “ข้าจะไม่พูดให้เสียเวลาอีกก็แล้วกัน เพราะถึงยังไงเราก็ไม่เหลือความสัมพันธ์พี่น้องกันแล้ว เอาตรงๆ เลยนะ เรามาแลกผลประโยชน์กันดีกว่า เองช่วยข้าจัดการคนคนหนึ่ง แล้วข้าจะให้สิ่งที่เองต้องการ”
ซุนจ้ายเย้นหัวเราะดังๆ “สิ่งที่ผมต้องการ? หัวใจผมตายด้านไปนานแล้ว ร่างกายก็ไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ แล้วผมยังต้องการอะไรอีก? ผมแค่อยากตายเท่านั้น!”
“แล้วเองยังรออะไร ทำไมไม่ไปตายล่ะ?”
คำพูดของซุนหย่งเจินคำนี้ได้แทงใจดำของซุนจ้ายเย้น หลายปีที่ผ่านมานี้เขามีความคิดที่จะจบชีวิตของตนอย่างนับครั้งไม่ถ้วน
แต่มีเหตุผลเดียวที่ทำให้เขาเลือกที่จะไม่ฆ่าตัวตาย นั่นก็คือเสี่ยวเตี๋ย
ในชีวิตนี้ เขายังหวังว่าจะได้เจอเสี่ยวเตี๋ยอีกสักครั้ง