จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 338 การแลกเปลี่ยน
เหตุผลเดียวที่ซุนจ้ายเย้นไม่เลือกฆ่าตัวตายก็เพราะเขาอยากเจอเสี่ยวเตี๋ยอีกสักครั้ง อีกสักครั้งในชีวิตก็พอ
ด้วยเหตุผลนี้ เขาไม่รู้ว่าใช้ความพยายามไปเท่าไหร่ในการตามหาตัวของเสี่ยวเตี๋ย
แต่การตามหาแบบนี้มันไม่เกิดผลใดๆ เลย ความพยายามทั้งหมดนั้นไร้ประโยชน์ เพราะว่าซุนเฉิงได้วางแผนอย่างดีในวันที่ส่งเสี่ยวเตี๋ยออกไป เพื่อจะไม่ให้ซุนจ้ายเย้นตามหาเธอจนพบ
ไม่ว่าซุนจ้ายเย้นจะฉลาดแค่ไหน แม้จะใช้สุดความสามารถแล้วก็ไม่อาจหาเบาะแสใดๆ ได้เลย
และนี่ก็คือความเจ็บปวดในใจของเขา
ซุนหย่งเจินรู้ถึงความเจ็บปวดของเขาดี ดังนั้นจึงยิ้มพูดว่า “น้องชาย พี่รู้นะว่าเองทำไมถึงเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า ขอแค่เองช่วยพี่จัดการคนคนหนึ่ง แล้วพี่จะบอกให้เองรู้ว่าเสี่ยวเตี๋ยถูกส่งไปที่ไหน แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
“ว่าไงนะ?”
ซุนจ้ายเย้นถึงกับตกใจ “คุณพูดบ้าอะไรอยู่! ตอนที่ซุนเฉิงส่งเธอออกไป เขาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใดๆ ด้วยซ้ำ แล้วคุณจะรู้ได้ยังไง?”
ซุนหย่งเจินยักไหล่ “ตอนแรกพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่หลังจากที่พี่รับตำแหน่งหัวหน้าครอบครัว พี่ก็มีสิทธิ์ตรวจสอบทุกคำสั่งของตระกูล และพี่ก็ได้เบาะแสที่ประหลาดบางอย่าง นั่นก็คือคำสั่งของพ่อในคืนนั้น คนที่รับหน้าที่ทำตามคำสั่งของพ่อคือคนสนิทของพ่อ และหลังจากที่เขาจากไปเขาไม่เคยกลับมาเลย ฉะนั้น เองคิดว่าคำสั่งนี้มันเกี่ยวข้องกับเสี่ยวเตี๋ยไหม?”
เมื่อพูดขนาดนี้แล้ว ใครก็ต้องรู้ว่านั่นเป็นคำสั่งที่เสี่ยวเตี๋ยถูกส่งออกไปอย่างแน่นอน
หัวใจของซุนจ้ายเย้นสั่นอย่างรุนแรง
เสี่ยวเตี๋ย ยังมีโอกาสได้เจอเสี่ยวเตี๋ยอีกครั้งใช่ไหม?
เขากัดฟันแน่นๆ ในขณะนี้ความเจ็บปวดได้ครอบงำจิตใจของเขาและทำให้สติทุกอย่างของเขาหายไป จากนั้นเขาถามว่า “บอกมา คุณจะให้ผมจัดการใคร?”
ซุนหย่งเจินถอนหายใจยาวๆ ซึ่งหมายความว่าข้อตกลงสำเร็จแล้ว!
จากนั้นเขายื่นรูปถ่ายใบหนึ่งให้กับซุนจ้ายเย้น
“พี่อยากให้เองช่วยจัดการกับผู้ชายในรูปคนนี้ที”
“เจียงชื่อ”
ซุนจ้ายเย้นรับรูปถ่ายนั้นมาและถึงกับตกตะลึงแล้วพึมพำในปาก “เขาคนนั้น?”
ตอนเย็นยังช่วยชีวิตผู้คนด้วยกันอยู่เลย แต่ไม่คิดเลยว่าตอนนี้ต้องกลายเป็นศัตรูกันแล้ว โชคชะตามันช่างโหดร้ายกับชีวิตคนจริงๆ
แต่ว่า ขอเพียงได้เจอเสี่ยวเตี๋ยอีกสักครั้ง
ต่อให้ต้องสละด้วยอะไรเขาก็จะยอม
“ได้ ตกลงตามนี้” ซุนจ้ายเย้นรับปากทันที
จากนั้นซุนหย่งเจินกับซีเหมินจุ้นก็ออกจากวิลล่าหลังนั้น
ในระหว่างทางกลับ ซุนหย่งเจินยังถามอย่างกังวลว่า “ซีเหมิน คุณคิดว่าน้องชายผมไหวไหม?”
ซีเหมินจุ้นยิ้มตอบ “ประธานซุน ด้วยความเคารพครับ ผมคิดว่าไม่มีใครในโลกที่จะฉลาดไปกว่าซุนจ้ายเย้นแล้วครับ ถ้าเขาเป็นคนลงมือเอง เปอร์เซ็นต์น้อยมากครับที่จะผิดพลาด อีกอย่างจุดอ่อนของซุนจ้ายเย้นก็คือเสี่ยวเตี๋ย และจุดอ่อนของเขาก็อยู่ในกำมือของคุณแล้ว ดูจากโดยรวมเจียงชื่อไม่มีทางรอดอย่างแน่นอนครับ!”
ซุนหย่งเจินพยักหน้าอย่างพอใจมาก
“แมร้งเอ๊ย ถูกไอ้เจียงชื่อกดขี่มาตั้งนาน ในที่สุดก็ถึงเวลาเอาคืนแล้ว”
“อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง กูจะทำลายพวกมันให้หมด!”
……
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เจียงชื่อลงจากแท็กซี่แล้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างช้าๆ
แต่ก่อนที่จะเข้าไปในบ้านเขาก็เห็นติงเมิ่งเหยนยืนบ่นพึมพำอยู่ในโรงรถ เหมือนเธอกำลังบ่นอะไรบางอย่าง
เจียงชื่อจึงเดินเข้าไปถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
ติงเมิ่งเหยนมือเท้าเอวแล้วชี้ไปที่รถ “ก็รถเน่าๆ นี่สิ! เพิ่งซ่อมไปไม่กี่วันก็พังอีกแล้ว ให้ซ่อมตลอดมันใช่เรื่องมั้ย?”
เจียงชื่อพยักหน้า “ถ้างั้น เราเปลี่ยนรถคันใหม่ไหม?”
“เปลี่ยนรถใหม่? เอาเงินจากไหนล่ะ?”
เจียงชื่อล้วงจี้หยกที่หลินเจียหรงให้ในกระเป๋าแล้วยิ้มพูดว่า “พอดีมีลูกค้าคนหนึ่งเอาบัตรส่วนลดให้ผม ถ้าซื้อรถใหม่น่าจะได้โปรโมชั่นลด 20 เปอร์เซ็นต์นะ เรารวบรวมเงินไปซื้อรถใหม่กันไหม?”