จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 362 ฉันจะไปกับเธอ
เมื่อสือเหวินปิ่งเข้ามาในห้อง เขาก็ได้เหลือบตาไปมองเจียงชื่อด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์
ชายคนนี้เป็นคนที่ทำลายแผนของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า หากไม่ใช่เพราะเจียงชื่อล่ะก็ ตอนนี้ซินยุ่นก็คงจะกลายเป็นผู้หญิงของสือเหวินปิ่งไปแล้ว
เกลียดจริงๆ !
เมื่อมองดูที่ซินยุ่นอีกครั้ง การแต่งตัวในวันนี้นั้นราวกับสี่หญิงงามแห่งแผ่นดินจีน สือเหวินปิ่งที่เห็นเช่นนั้น จิตใจก็คิดฟุ้งซ่านไปหมด
ซินยุ่นนั้นเหมือนได้มองเห็นถึงความรู้สึกที่สกปรกในดวงตาของฝ่ายตรงข้าม ความรู้สึกไม่ดีจึงเกิดขึ้นในใจ
ขณะที่เธอกำลังรู้สึกหวาดกลัวอยู่นั้น มือของเธอก็เผลอไปบีบแขนของเจียงชื่ออย่างแน่น เมื่อต้องเผชิญกับอันตราย ผู้หญิงมักจะแสวงหาความคุ้มครองจากผู้ชายโดยไม่รู้ตัว
เจียงชื่อนั้นไม่ได้สนใจอะไร แต่เขากลับก้าวไปที่ด้านหน้าของโต๊ะเพื่อป้องกันไม่ให้สือเหวินปิ่งเดินเข้ามา
สือเหวินปิ่งทำเสียงเหอะด้วยความเย็นชา พร้อมกับสร้างรอยยิ้มขึ้นมาและพูดว่า “หมอซิน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ เป็นยังไงบ้าง?”
ซินยุ่นมองบนใส่เขา “มีเรื่องอะไรก็พูดมา”
“หมอซินนี่เป็นคนปากไวใจถึงจริงๆ นะครับเนี่ย” สือเหวินปิ่งส่งจดหมายให้ “วันนี้ตอนสองทุ่ม ที่แกลเลอรี่ก่อกัง พ่อของผมจะมีการประชุมแลกเปลี่ยนทางการแพทย์ ผมหวังว่าคุณจะมาเข้าร่วมได้ นี่คือจดหมายเชิญครับ”
การประชุมแลกเปลี่ยนทางการแพทย์ที่จัดขึ้นโดยตระกูลสืองั้นเหรอ?
ซินยุ่นรับจดหมายเชิญมาด้วยใบหน้าที่สงบ “ความสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลเรา คุณคงทราบดี การประชุมแลกเปลี่ยนในทุกๆ ปี ตระกูลสือไม่เคยแม้แต่จะชวนตระกูลซินเลยสักครั้ง ทำไมครั้งนี้ถึงได้เปลี่ยนใจซะแล้วล่ะ?”
สือเหวินปิ่งกล่าว “แม้ว่าตระกูลสือและตระกูลซินจะมีความขัดแย้งต่อกัน แต่พวกเราต่างก็อยู่ในวงการการแพทย์ จึงควรที่จะร่วมมือร่วมใจเพื่อสายอาชีพทางการแพทย์ด้วยกัน ดังนั้น พ่อของฉันเองก็ยินดีที่จะยอมอ่อนข้อให้ โดยหวังว่าจะใช้การประชุมแลกเปลี่ยนนี้เป็นโอกาสในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง”
สีหน้าของซินยุ่นนั้นแสดงความประทับใจออกมาเล็กน้อย
เธอไม่เชื่อเรื่องไร้สาระของสือเหวินปิ่ง แต่สนใจเรื่องการแลกเปลี่ยนทางการแพทย์มากกว่า
ตั้งแต่ซินจื่อหมินก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำ การประชุมแลกเปลี่ยนก็มีตระกูลสือเป็นเจ้าภาพเสมอมาและก็เป็นเวลานานมากแล้วที่ตระกูลซินนั้นไม่ได้เข้าร่วม
ต้องรู้ว่าการประชุมแลกเปลี่ยนทุกครั้งจะนำผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากทั่วทุกมุมโลกมารวมกัน
ทุกคนสื่อสารและแบ่งปันประสบการณ์
ทุกๆ ครั้งที่ไป ก็มักจะได้อะไรกลับมาเสมอ ตระกูลซินเองก็พลาดไปหลายครั้ง นั่นจึงทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาลดลง นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างตระกูลสือขึ้น
ตอนนี้มีโอกาสเข้าร่วมแล้ว ต้องรีบคว้าไว้
แต่…
ตระกูลสือใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ?
ขณะที่ซินยุ่นนั้นลังเล สือเหวินปิ่งก็ได้ยิ้มและพูดขึ้นมาว่า “หมอซิน คุณคงไม่ได้กลัวหรอกใช่ไหม?”
กลัว?
กลัวอะไร?””
แม้รู้อยู่แล้วว่ามันคือวิธีการหลอกล่อ แต่ซินยุ่นก็ตอบไปอย่างไม่ลังเล “ไม่ต้องกังวล ตระกูลซินนั้นยินดีที่จะไปร่วมงาน คืนนี้สองทุ่มจะไปให้ตรงเวลาเลย”
“งั้นผมก็จะให้เกียรติรอการมาของหมอซินเลยนะครับ”
หลังจากพูดจบ สือเหวินปิ่งก็สะบัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเดินจากไป
เมื่อดูจดหมายเชิญ ซินยุ่นก็รู้สึกประหม่า ด้านหนึ่งก็ต้องการแบ่งปันประสบการณ์กับแพทย์คนอื่นๆ ส่วนอีกด้านก็กังวลว่าตนจะถูกวางอยู่ในแผนของคนตระกูลสือ
ลังเลและไม่แน่ใจเลยจริงๆ
“ฉันจะไปกับเธอเอง”
“ห๊ะ?”
ซินยุ่นมองไปที่เจียงชื่อด้วยความงุนงง
เจียงชื่อยิ้มพร้อมกับพูดอย่างผ่อนคลาย “เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวไปสถานที่แบบนั้น มันคงจะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ ฉันจะไปกับเธอและคอยดูแลเอง”
เจียงชื่อนั้นมองเห็นถึงจิตใจของซินยุ่น เขาเอ่ยปากพูดให้การช่วยเหลืออีกฝ่ายขึ้นมาเอง
รอยยิ้มที่มีความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซินยุ่น “อืม!!”