จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 371 สุนัขกัดกันเองบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย
พูดไม่ทันจบ
เห็นเพียงลมที่หนาวเย็นพัดผ่าน ก็ไม่เห็นเจียงชื่อมีการเคลื่อนไหวใดๆ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งห้าคนกุมท้องแล้วคุกเข่าอยู่กับพื้น ด้วยท่าทีที่เจ็บปวด
ซึ่งหมายความถึงสมรรถภาพทางกายของพวกเขาแข็งแรงมาก ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไปละก็ คงสลบไปนานแล้ว
หมัดของเจียงชื่อ ไม่ใช่จะล่วงเกินได้ง่ายๆ นะ
สือควนแอบหวาดกลัวในใจ รู้เพียงว่าทักษะทางการแพทย์ของเจียงชื่อนั้นสูงส่ง แต่คาดไม่ถึงว่าฝีมือทักษะของเขาจะยอดเยี่ยมได้ขนาดนี้
ในขณะนี้ ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเจียงชื่อโกรธสุดขีดจนสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง
“สือควน คุณกล้าเนรคุณ ใช้ไม้แข็งกับฉันเหรอ?”
“ดี ในเมื่อคุณใจร้าย ก็อย่าโทษฉันไร้คุณธรรม!”
เธอหันตัวกลับมาทางคุณหมอทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์และพูดเสียงดังว่า “ขอบอกกับทุกคนเรื่องหนึ่ง ที่พวกคุณคิดว่าสือควน——สือเหวินปิ่งเป็นสุภาพบุรุษที่ซื่อสัตย์ จริงๆ แล้วเป็นคนหน้าซื่อใจคด !”
“ลูกชายของฉันแท้จริงแล้วไม่ได้ป่วยเลย เพียงแต่ฉันรับเงินของพวกเขาห้าหมื่นสัญญาว่าจะร่วมมือกับพวกเขาเพื่อแสดงละคร”
“ดังนั้น จึงให้ลูกชายของฉันแกล้งป่วยทั้งๆ ที่ไม่ได้ป่วย และจงใจทำให้หมอซินซินยุ่นลำบากใจ เพื่อให้ตระกูลซินกลายเป็นตัวตลก ถูกทุกคนหัวเราะเยาะเย้ย”
“จากนั้นสือเหวินปิ่งเพียงแค่หาอะไรให้ลูกชายฉันดื่มนิดๆ หน่อยๆ หรือกระทั่งเป็นแค่น้ำต้มเปล่าๆ ก็สามารถ ‘รักษา’ อาการป่วยของลูกชายฉันได้ แบบนี้เขาก็สามารถเหยียบตระกูลซินขึ้นสู่ตำแหน่ง ทำให้สือเหวินปิ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง!”
ฉากนี้ถูกเปิดโปงได้โหดร้ายจริงๆ
พ่อลูกตระกูลสือถูกเปิดเผยแผนชั่วจนหมดจด จนไม่เหลืออะไรเลย
หน้าซื่อใจคดประโยคนี้ ถูกฝังลึกเข้าไปในกระดูกสันหลังของพ่อลูกตระกูลสือ และตลอดชีวิตนี้ก็จะถูกผู้คนประณาม !
ทุกคนต่างก็ตาสว่างสักที
“ที่แท้เรื่องเป็นอย่างนี้เหรอ?”
“ฉันว่าแล้ว ฮัวโต๋หญิงหมอซิน ทำไมถึงไม่พบอาการแม้แต่น้อย มันผิดปกติเกินไป ที่แท้ไม่ได้ป่วยแต่แกล้งป่วย ถ้างั้นใครจะดูออกล่ะ?”
“ยังมีสือเหวินปิ่ง โรคที่กูรักษาไม่ได้ เขาสามารถรักษาได้? ผมเกือบจะเชื่อแล้ว”
“สือควน สือเหวินปิ่งเป็นคนหน้าซื่อใจคด ต่ำทรามจริงๆ !”
พ่อลูกตระกูลสือถูกประณามต่อหน้าผู้คน ชื่อเสียงที่ทุ่มแรงกายแรงใจมาหลายปี ก็ถูกโค่นล้มในชั่วข้ามคืน
เดิมทีต้องการทำลายชื่อเสียงซินยุ่นให้ป่นปี้ ทำให้ชื่อเสียงเกียรติภูมิของตระกูลซินที่สั่งสมมาทั้งหมดประสบกับความล้มเหลวอย่างถึงที่สุด
สุดท้ายกลายเป็นการทำร้ายตัวเอง กลับทำให้ตระกูลสือกลายเป็นผู้ได้รับการกระทบที่สุด
ฮ่าฮ่า มีเรื่องให้เยาะเย้ยจริงๆ !
สือควนโกรธ และชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นและพูดว่า ” ทุกคนสงบก่อน ผมสาบานว่าผมไม่เคยทำเรื่องต่ำทรามไร้ยางอายเช่นนี้ ทั้งหมดนี้เธอเป็นคนกู่เรื่องขึ้นมาเอง!”
สือควนหัวเราะอย่างเย็นชา “ผมรู้แล้ว คุณต้องเป็นซินยุ่นกับเจียงชื่อที่วางแผนให้มาร่วมมือกันแสดงละคร เพื่อใส่ร้ายตระกูลสือของเรา ”
“ฮ่าฮ่า พวกคุณเพ้อเจ้อ!!!”
สือควนตัวดี
ถึงขั้นนี้แล้วในเวลานี้ ยังสามารถย้อนมาเล่นงานฝ่ายตรงข้าม สติปัญญาแบบนี้ ความเฉลียวฉลาดนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีได้
ผู้ชมในเหตุการณ์ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน
ควรเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นดีกว่าหรือควรเชื่อในสือควนดี?
ขณะนี้ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะออกมาดังๆ
“สือควน ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าคุณจะต้องไม่ยอมรับแน่”
พูดจบ เธอหยิบเครื่องบันทึกเสียงออกมาจากกระเป๋า “คุณคิดว่าฉันไม่ได้เตรียมพร้อมเหรอ? เดิมที ฉันกังวลว่าทำธุระเสร็จคุณจะไม่จ่ายเงิน ฉันเลยแอบบันทึกไว้ ตอนนี้ พอดีได้ใช้มันจริงๆ ”
“ทุกคน มาฟังสือควน——สุภาพบุรุษผู้ซื่อสัตย์ในใจของพวกคุณพร้อมกัน ตกลงกับฉันยังไงบ้าง!”
สีหน้าสือควนดำคล้ำน่าเกลียดยิ่งกว่าตับหมู
“อย่า อย่าเปิดนะ!”
สายไปแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นกดปุ่มเล่น ยกเครื่องบันทึกขึ้นไปในอากาศ และปรับเสียงให้ดังที่สุด
คำพูดที่เธอกับเขาตกลงกัน แว่วผ่านไปยังหูของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างชัดเจน