จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 386 เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า
วันรุ่งขึ้น เจียงชื่อเดินทางไปที่อาคารสำนักงานของตระกูลติงพร้อมกับติงเมิ่งเหยนเพื่อเตรียมร่วมเป็นพยานในความสำเร็จของโครงการนี้ร่วมกัน
ทันทีที่เข้าไปในสำนักงาน ผู้คนมากมายก็เข้ามาแสดงความยินดีกับติงเมิ่งเหยน
วันนี้เป็นวันที่ติงเมิ่งเหยนเข้าใจถึงคำว่า ‘ความสำเร็จ’ มากที่สุด เธอรับคำชื่นชมของผู้คนไปตลอดทั้งทางเดิน ทุกคนต่างยกย่องในความสามารถของเธอ เพราะเธอสามารถรับมือกับหมู่บ้านตี้เหา หมู่บ้านที่เข้าหาได้ยากที่สุด
เพียงระยะทางสั้นๆ จากหน้าประตูสำนักงานไปถึงออฟฟิศ เธอก็ใช้เวลามากกว่าสิบนาทีแล้ว
หลังจากเดิน ‘ข้ามน้ำข้ามภูเขา’ มา ในที่สุดติงเมิ่งเหยนก็ได้มาถึงออฟฟิศของเธอ จากนั้นเธอวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะด้วยความเหน็ดเหนื่อย ซึ่งยังไม่ทันได้เริ่มงานเลยเธอก็เหนื่อยจนแทบจะหมดแรงแล้ว
เจียงชื่อยิ้มพูด “ดูเหมือนว่าคุณจะกลายเป็นคนดังไปแล้วนะ ใครเห็นก็ต้องเรียกคุณว่าท่านรองประธานติงอย่างเคารพด้วย”
ติงเมิ่งเหยนกลอกตาใส่ “ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว คุณยังมาล้อเลียนฉันอีก”
ในขณะที่ทั้งสองคุยกันอยู่ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เชิญค่ะ”
ประตูถูกเปิดออก เลขาของติงเมิ่งเหยนเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารในมือแล้วยื่นให้กับเธอ
“ท่านรองประธานติงคะ นี่คือแผนพัฒนาหมู่บ้านตี้เหาที่ท่านประธานเร่งดำเนินการให้ในเมื่อคืนนี้ค่ะ แล้วก็ข้อมูลที่เกี่ยวกับพื้นที่ในการสร้างสุสานก็ระบุไว้ในเอกสารนี้อย่างชัดเจนแล้วนะคะ”
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
เลขาก็หันเดินออกไป
ติงเมิ่งเหยนแกว่งแฟ้มเอกสารแผนพัฒนาในมือแล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “แล้ว คุณจะตอบแทนฉันยังไงดี?”
เจียงชื่อแสร้งไอแล้วครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นพูดว่า “จริงจังนะ คืนนี้ผมจะทำอาหารเย็นสุดหรูให้กับคุณ คุณอยากทานอะไรก็เลือกได้ตามต้องการเลย เป็นยังไงล่ะ?”
ติงเมิ่งเหยนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อื้ม ค่อยยังชั่ว”
เมื่อพูดจบ เธอก็เปิดแผนพัฒนาดูทีละหน้า ในตอนแรกใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่เธอยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ จากนั้นสีหน้าของเธอก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป
คิ้วของเธอเริ่มขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วในการพลิกเอกสารก็เร็วขึ้น และการหายใจก็เร็วขึ้นอย่างไม่หยุด
“ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริง!”
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?”
เมื่อเห็นสีหน้าของติงเมิ่งเหยน เจียงชื่อก็รู้สึกใจไม่ดี
ด้วยนิสัยของติงจ้ง เขาจะสนองความปรารถนาของคนอื่นง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไร? และถ้าหากทุกอย่างราบรื่นอย่างไร้ที่ติ เจียงชื่อกลับรู้สึกว่ามันผิดปกติมากกว่า
เขาจึงถามอย่างใจเย็นว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
ติงเมิ่งเหยนฟาดแผนพัฒนาลงบนโต๊ะด้วยความกังวลและความโกรธ
“คุณปู่เขา……”
“เขาจะปรับหมู่บ้านตี้เหาให้เป็นสวนสาธารณะที่มีค่าเข้าชม!”
“ส่วนแผนการสร้างสุสานจะถูกย้ายไปที่ห่างไกลความเจริญ สภาพแวดล้อมคงไม่ต้องพูดถึง พื้นที่แคบมาก ฮวงจุ้ยยิ่งแย่กว่าที่คิดอีก”
เหอะๆ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากแบ่งพื้นที่ดีๆ ให้กับเจียงชื่อไปใช้
ติงเมิ่งเหยนกัดฟันพูดว่า “กลั่นแกล้งกันชัดๆ! คุยกันแล้วว่าถ้าฉันเจรจาได้สำเร็จ พื้นที่ของหมู่บ้านตี้เหาก็จะให้มาใช้ในการสร้างสุสาน แล้วจะเปลี่ยนกะทันหันแบบนี้ได้ไง?!”
เจียงชื่อส่ายหัวด้วยรอยยิ้มจางๆ
ไม่ใช่วันแรกที่รู้จักติงจ้ง หัวใจของคุณปู่คนนั้นมันแคบยิ่งกว่ารูเข็มด้วยซ้ำ ฉะนั้นเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมันก็ปกติไม่ใช่หรือ? ความจริงแล้วมันไม่น่าแปลกใจเลยด้วยซ้ำ
ติงเมิ่งเหยนตบโต๊ะแรงๆ แล้วพูดว่า “ไม่ได้ ฉันจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้!”
โดยที่ไม่รอให้เจียงชื่อพูด ติงเมิ่งเหยนก็หยิบแผนการพัฒนาแล้วเดินออกไปทันที
ผลงานที่เธอสร้างมาด้วยความยากลำบาก แล้วจะปล่อยให้คนอื่นพรากไปง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไร?
อีกอย่างเธออวดผลงานให้กับเจียงชื่อมาขนาดนี้แล้ว ถ้าหากล้มเหลวแล้วเธอจะสู้หน้าเจียงชื่อได้อย่างไร?