จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 388 มีผมอยู่ทั้งคน
ในขณะที่คนของติงจ้งทั้งสามกำลังได้ใจ และในขณะที่ติงเมิ่งเหยนกำลังรู้สึกโกรธอยู่นั้น เสียงฝีเท้าที่คมชัดก็ดังขึ้น
ตามด้วยชายคนหนึ่งที่ติงจ้งเกลียดที่สุดก็ได้ปรากฏตัว
เจียงชื่อ!
เขายืนอยู่ข้างติงเมิ่งเหยนด้วยสีหน้าอันนิ่งสงบที่ไม่เคยเปลี่ยน จากนั้นเอื้อมมือออกไปเพื่อจับมือที่เย็นจนสั่นของติงเมิ่งเหยน
“สวัสดีตอนเช้าครับคุณปู่”
ติงจ้งตวาดอย่างเย็นชา “ไม่เช้าแล้ว ตอนนี้สิบโมงกว่าแล้ว”
เจียงชื่อยิ้มอ่อนๆ แล้วพูดคำพูดที่ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาด
“คุณปู่ ขอบคุณมากนะครับที่ใจดีกับน้องชายผม ถึงกับเตรียมพื้นที่ในการสร้างสุสานถึงสองที่เลย”
สองที่?
ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างงงวย
ติงเฟิงเฉิงยิ้มพูดอย่างเย้ยหยันว่า “เจียงชื่อ นี่แกเพ้ออะไรอยู่?”
“ไม่ใช่เหรอครับ” เจียงชื่อแกล้งพูดย่างไม่เข้าใจ “จะสร้างหมู่บ้านตี้เหาให้เป็นสุสานก็ที่หนึ่งแล้ว และตอนนี้ยังยกที่ดินอีกที่ให้ผมด้วย มันก็สองที่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
ติงจ้งหัวเราะอย่างเสียงดัง
“เจียงชื่อ สมองแกมีปัญหาเหรอ?”
“นั้นมันที่ดินสองผืนเหรอ?”
“นั้นมันที่ดินด้านหลังที่มาแทนหมู่บ้านตี้เหามากกว่านะ เข้าใจไหม?”
เจียงชื่อขมวดคิ้ว “แต่ในใบเสนอโครงการไม่ได้เขียนอย่างนั้นนะครับ เพราะตอนที่สมาชิกของหมู่บ้านตี้เหาเซ็นชื่อ พวกเขาต่างก็รู้แล้วว่าพื้นที่นี้จะปรับให้เป็นสุสาน ถ้าคุณเปลี่ยนเนื้อหาข้อเสนอโครงการตามใจชอบ ไม่ทำตามแผนการ แล้วคนเขาจะยอมเหรอครับ?”
เหอะๆ
แน่นอนว่าติงจ้งต้องรู้ทันในเรื่องนี้อยู่แล้ว
โดยปกติแล้ว ข้อเสนอโครงการเขียนอย่างไรก็ต้องทำตามเช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหลังจากทำการลงนามไปแล้ว
แต่ครั้งนี้มันต่างกัน
เพราะครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนที่พักอาศัยให้เป็นสุสาน
แล้วถ้าหากเปลี่ยนจากสุสานให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามล่ะ
อีกอย่างยังเป็นประโยชน์ต่อผู้พักอาศัยอีกด้วย
เรื่องดีๆ แบบนี้ใครเขาจะปฏิเสธ?
ใครอยากยกบ้านตัวเองให้เป็นสุสานของคนอื่นล่ะ? เว้นแต่สมองของคนเหล่านั้นจะมีปัญหาเหมือนเจียงชื่อ
ติงจ้งพูดเบาๆ ว่า “เรื่องนี้แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”
เจียงชื่อยักไหล่ “ตามใจนะครับ แต่ผมกับเมิ่งเหยนยังมีธุระ ต้องขอตัวก่อนนะครับ”
เขาจุงมือติงเมิ่งเหยนและกำลังจะออกไป “อ้อ จริงด้วยสิ เราจะกลับไปเตรียมแผนโครงการในการสร้างสุสานนะครับ ถ้าคุณปู่อยากรู้อะไรก็มาหาเราได้ทุกเมื่อเลยนะครับ”
ติงจ้งหัวเราะดังๆ และมองเจียงชื่อเหมือนเด็กเอ๋อคนหนึ่ง
“แกยังไม่เข้าใจเหรอ?”
“ฉันจะไม่ปรับหมู่บ้านตี้เหาให้เป็นอย่างที่แกคิดหรอก!”
“แกควรตายใจได้แล้วล่ะ”
เจียงชื่อยิ้มเบาๆ “อย่าเพิ่งมั่นใจไปนะครับ คุณปู่ ผมมีลางสังหรณ์ว่าแผนการปรับให้เป็นสวนสาธารณะของคุณปู่มันจะไม่สำเร็จนะครับ”
จากนั้นเขากับติงเมิ่งเหยนก็ออกไป
ติงจ้งหัวเราะคิกคัก “เจ้าโง่เอ๋ย มีแต่เรื่องโง่ๆ ในสมองถึงได้พูดแบบนี้ไง”
จากนั้นเขานั่งลงและมองไปที่ติงเฟิงเฉิง “เรื่องต่อจากนี้สำคัญมากเลยนะ เฟิงเฉิง หลานต้องไปร่างข้อเสนอขึ้นมาใหม่ด่วนเลย ระวังการเขียนข้อเสนอให้เหมาะสม ใช้วาจาที่ทำให้โดนใจผู้คน แล้วทำให้หัวหน้าหมู่บ้านตี้เหาเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงแผนการสร้างของพวกเราให้ได้นะ”
แม้ติงจ้งจะมั่นใจว่าหัวหน้าหมู่บ้านตี้เหาจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของเขา
เขาไม่กลัวเรื่องที่แน่นอน แต่ก็กลัวเหตุไม่คาดฝัน
“ครับคุณปู่ ผมไปจัดการตอนนี้เลยครับ”
ติงเฟิงเฉิงลุกขึ้นแล้วออกไปเตรียมเอกสารทันที
ติงจ้งยกถ้วยน้ำชาของเขาขึ้นมาแล้วจิบอย่างพึงพอใจ จากนั้นยิ้มพูดกับติงจื่อยวี่ว่า “ในฐานะหลานสาวเหมือนกัน จื่อยวี่ มีแต่หลานเท่านั้นที่เชื่อฟังปู่ ไม่เหมือนกับเมิ่งเหยนคนนั้นที่ทำให้ปู่ต้องโมโหตลอด!”