จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 395 สุนัขที่ดีย่อมไม่ขวางทาง
ในเวลานี้ ประตูของแลมโบร์กินีเปิดออก ชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาและเอาไหล่พิงที่ประตูรถแล้วพูดอย่างสบายใจว่า “สุนัขดีจะไม่ขวางทางหรอก ใครให้คุณมาจอดรถบนถนนล่ะ?”
ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันแล้วรู้สึกตกตะลึง
ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าเจียนจือซัง เป็นนักขับ F1 มืออาชีพ
ซึ่งรถเฟอร์รารี่เป็นรถที่อยู่แนวหน้าสุดของวงการแข่งรถ F1มาตลอด แต่หลังจากที่แชมป์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสองปีก่อน ทีมรถจึงตกอยู่ในสถานะไม่มั่นคง
นี่จึงเป็นเหตุและโอกาสที่ทำให้ทีมอื่นตามทัน
หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นทีมรถลัมโบร์กีนีที่อยู่ในจ่าฝูงกับทีมอื่นๆ และยังเป็นคู่แข่งที่สูสีกับรถเฟอร์รารี่มาก
โดยเฉพาะลัมโบร์กินีได้เซ็นสัญญากับนักซิ่งซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งด้วยราคาสูง ดังนั้นในการแข่งขันรายบุคคล ลัมโบร์กีนีจึงได้แชมป์ติดต่อกันมาหลายสมัย
เฟอร์รารี่เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ
และโลกมันก็ช่างกลมจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกับนักแข่ง F1 อย่างเป็นทางการของรถลัมโบร์กีนีในที่แบบนี้
หลินเจียหรงพูดอย่างดูถูกว่า “เด็กๆ วัยรุ่นอย่ามาทำตัวกร่างแถวนี้ อย่าคิดว่ามีแค่รถกระจอกๆ คันหนึ่งแล้วจะเก่งไปถึงไหนล่ะ”
ในเวลานี้ เสียงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้ดังออกมาจากด้านในรถลัมโบร์กีนี
“ถึงรถผมจะกระจอก แต่ก็ดีกว่ารถคุณนะ?”
ชายอีกคนก้าวลงมาจากรถ
เขาเป็นตัวแทนหลักของรถยี่ห้อลัมโบร์กีนีในประเทศ มีชื่อว่าจู้เฟิง
หลินเจียหรงกับจู้เฟิงเป็นคู่แข่งบนเวทีใหญ่มาตลอด ฉะนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงค่อนข้างแย่ และวันนี้ยังบังเอิญมาเจอกันในสถานที่แบบนี้อีกด้วย
จู้เฟิงเหลือบมองรถใหม่ของเจียงชื่อแล้วพูดอย่างดูถูกว่า “เฟอร์รารี่ เศษขยะที่ล้าสมัย ไม่อายเหรอที่ขับรถแบบนี้?”
หลินเจียหรงตอบกลับทันที “ยังไงก็ดีกว่าลัมโบร์กีนีมือสองอายุหมื่นปีไม่ใช่เหรอ?”
ผู้คนรอบข้างต่างตกตะลึง เฟอร์รารี่ ลัมโบร์กีนี เหอะๆ ไม่ว่าคันไหนก็เป็นรถในฝันของพวกเขา แล้วจะเป็นเศษขยะได้อย่างไร?
แต่แน่นอนว่าเป็นการดูถูกกันของทั้งคู่เท่านั้น
ในเวลานี้ เจียงชื่อเอื้อมมือออกไปปัดฝุ่นบนรถแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “เรื่องของพวกคุณผมไม่ยุ่งด้วยหรอกนะ แต่คุณทำรถผมเปื้อน เรื่องนี้ผมต้องยุ่งด้วย”
จู้เฟิงถึงกับหัวเราะออกมา “ยุ่ง? เองจะเอาอะไรมายุ่ง? เองเป็นใครมาจากไหนวะ?”
เจียงชื่อมองไปที่จู้เฟิงด้วยสายตาที่เฉียบคม
“มอง? มองอะไรนักหนา? มองไปมันก็เปลี่ยนคุณภาพของรถขยะของเองไม่ได้หรอก”
“พวกกุ๊ยขยะ ขับรถขยะ เหมาะสมกันที่สุด”
จู้เฟิงกลับไปที่รถอีกครั้งแล้วกวักมือเรียกเจียนจือซัง “ไปกันเถอะ”
“ครับ!”
เจียนจือซังรีบขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์และออกตัว
เจียงชื่อไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น เขาขึ้นรถและสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที
หลินเจียหรงถึงกับตะลึง “หมอเทวดาเจียง คุณจะทำอะไรครับ?”
เจียงชื่อกลัวมือเรียกเขา “ขึ้นรถ”
หลินเจียหรงก็ขึ้นไปบนรถอย่างงุนงง เขาเห็นเพียงเจียงชื่อเหยียบคันเร่งและรถก็พุ่งออกไปจนตามอยู่ด้านหลังของรถลัมโบร์กีนี ดูเหมือนว่าเขากำลังจะไล่ตามไปขอคำอธิบายจากพวกเขา?
“หมอเทวดาเจียง คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”
“ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
“ว่าไงนะ?”
“พวกเขาทำอะไรกับรถผม ผมก็จะทำอย่างนั้นกับพวกเขา”
รถอันเป็นที่รักถูก ‘ดูถูก’ แบบนี้ เจียงชื่อจะไม่มีวันยอมปล่อยไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
“แต่ว่า หมอเทวดาเจียง พวกมันเป็นนักขับ F1 มืออาชีพและกำลังขับซูเปอร์คาร์อยู่นะ แล้วคุณจะไล่พวกเขาทันได้ยังไง? ผมว่าช่างมันเถอะน่า วันหลังค่อย……”
โดยที่ไม่รอให้หลินเจียหรงพูดจบ เจียงชื่อก็เพิ่มคันเร่งและไล่พวกเขาจนทัน
พวกเขาขับซูเปอร์คาร์ แล้วรถที่เจียงชื่อขับไม่ใช่ซูเปอร์คาร์เหรอ?
ประสิทธิภาพของรถไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ที่ต้องวัดกันคือฝีมือ นักซิ่ง F1 มืออาชีพแล้วยังไง? เจียงชื่อยังคงมั่นใจว่าจะชนะได้!