จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 419 ใครบ้างไม่อยากหนี
นี่เป็นการล้มล้างโลกทัศน์ของพวกคนงาน
ความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นในจิตใจของทุกคน
จนถึงตอนนี้ พวกเขาถึงเพิ่งรู้ว่าได้ไปยั่วยุชายหนุ่มที่ไม่ควรยั่วยุเข้าให้แล้ว
แต่เพิ่งมารู้ตอนนี้ มันก็สายไปเสียแล้ว ความปรารถนาในการต่อสู้ของเจียงชื่อนั้นถูกกระตุ้นอย่างเต็มที่แล้ว สิงโตถูกปล่อยออกจากกรง เป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่ชดใช้
“พวกเราไม่สู้แล้ว ไม่สู้แล้ว”
“ไว้ชีวิตพวกเราเถอะ พวกเรารู้ความผิดแล้ว”
“พวกเราไม่กล้าแตะต้องผู้หญิงของคุณอีกแล้ว คุณไปเถอะ อย่าทำร้ายพวกเราอีกเลยนะได้ไหม”
สายไปแล้ว!
เห็นเจียงชื่อพุ่งราวพายุเข้าไปในหมู่คนงาน หมัดคู่กระแทกเหวี่ยง
กร๊อบๆ กร๊อบๆ มีคนถูกหักกระดูกอย่างต่อเนื่อง คนหนึ่งย่ำแย่ที่สุด ถูกเจียงชื่อบิดแขน แขนทั้งท่อนฉีกขาด!
เลือดสาดพุ่ง สยดสยองเกินกว่าจะทนมอง
ฉากโศกนาฏกรรมของผู้คนกำลังเกิดขึ้น คนงานทุกคนต่างร้องโหยหวนเหมือนหมาป่าสุนัขจิ้งจอกเห่าหอน ล่าถอยวิ่งหนี
แต่พวกเขาจะหนีไปไหนได้
เสียงกรีดร้องสยดสยองดังไม่รู้จบ การโรมรันถูกย้อมด้วยสีเลือด ดวงตาของเจียงชื่อเป็นสีแดงสังหาร
ติงเมิ่งเหยนเป็นเกล็ดมังกรของเขา วันนี้คนพวกนี้มาแตะต้องเกล็ดมังกรของเขา จุดจบก็ต้องเป็นโศกนาฏกรรมเท่านั้น
ตอนที่เจียงชื่อกำลังฆ่าอย่างหนักหน่วง ชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งก็เดินเข้ามาตะโกนเสียงดังลั่น “หยุด!”
เจียงชื่อหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นเท้าข้างหนึ่งก็กระทืบท้องคนงานคนหนึ่ง บดขยี้ไต
เขาหันหน้าไปมองชายกำยำเล็กน้อย
ชายกำยำสูงเกือบสองเมตร ปกติชอบอวดพลังความสามารถ ไม่ว่าใครก็ดูถูก แต่เพียงแค่ถูกเจียงชื่อเหลือบมอง ก็พลันรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งกาย
และก็เห็นอีกด้วยว่าในบริเวณนั้นมีมือเท้าขาดตกอยู่มากมาย หวาดกลัวจนแม้แต่เสียงพูดยังเบามาก
เขาพูดว่า “ผม ผมเป็นหัวหน้าคนงาน—-ฉื่อหู่ คุณ คุณมาลงสนามเหรอ”
เจียงชื่อตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ผมมาเจรจาธุรกิจ”
“เจรจาธุรกิจ?”
ฉื่อหู่พูดไม่ออก มีเจรจาธุรกิจแบบนี้ด้วยเหรอ แม้ชีวิตของคนพวกนี้จะไร้ค่า แต่การลงมือขนาดนี้มันโหดเหี้ยมเกินไปหรือเปล่า
ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของยิ่งเจรจาธุรกิจ ฮ่าฮ่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึง!
ฉื่อหู่เพิ่งคิดจะบอกปฏิเสธ ปรากฏว่าหลังจากเห็นสายตาของเจียงชื่อ คำพูดที่อยู่ตรงริมฝีปากก็ถูกบังคับให้กลืนลงไป เพราะเขาสัมผัสได้ว่าถ้าตนปฏิเสธอีกฝ่าย มีความเป็นไปได้มากว่าจะกลายเป็นหนึ่งในพวกคนที่นอนอยู่บนพื้นนั่น
เจียงชื่อพูดว่า “เรามาจากโรงงานผลิตติงหรง เมื่อวานนี้เจ้านายของเรามีการติดต่อกับไอ้หนวดเซา”
ฉื่อหู่กลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ “ได้ พวกคุณตามผมมาครับ”
ติงเมิ่งเหยนรีบวิ่งไปหาเจียงชื่อ จับมือของเจียงชื่อ เดินตามฉื่อหู่ไปยังทิศทางของอาคารสำนักงาน
ตลอดทาง ติงเมิ่งเหยนอยู่กับอาการขวัญหนีดีฝ่อ
พวกสายตาสีเขียวราวหมาป่าในโรงงาน จับจ้องมายังเธอเป็นครั้งคราว ทำให้เธอหวาดกลัวจนหดตัวหลบหลังเจียงชื่อ
ตลอดทางไร้คำพูดจา ไม่นาน ทุกคนก็เดินเข้าถึงตัวอาคารสำนักงาน
ที่แปลกก็คือ ฉื่อหู่ไม่ได้พาพวกเขาขึ้นไปข้างบน แต่ลงลิฟต์ไปที่ชั้นใต้ดิน
หลังจากที่ประตูลิฟต์เปิดออก ภาพตรงหน้าก็ทำให้ติงเหมิ่งเหยนจะลืมไม่ลงไปชั่วชีวิต
เห็นทั่วทั้งฮอลล์ใหญ่มีคนปะปนอยู่มากมาย ชายหญิงแต่งตัวฉูดฉาด
ตรงศูนย์กลางเป็นเหมือนสังเวียนประลอง บนสังเวียนประลอง ชายกำยำสองคนกำลังต่อสู้กัน
คนรอบข้างกรีดร้องและตะโกน ปรบมือเชียร์ฝ่ายที่ตนสนับสนุน
ติงเมิ่งเหยนมองดู
เห็นบนสังเวียนประลอง ชายผมยาวสยายออกหมัดหนัก ต่อยหน้าคู่ต่อสู้ กระแทกใบหน้าของอีกฝ่ายจนยุบ
ชายผมยาวยกคู่ต่อสู้ของเขา แล้วทุ่มออกจากสังเวียนประลองอย่างหนักหน่วง เลือดสาดกระจัดกระจาย
ติงเมิ่งเหยนยิ่งหวาดกลัว ตัวสั่นหลบหลังเจียงชื่อ
ที่นี่เป็นโรงงานผลิตเหล็กจริงเหรอ