จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 430 ระบบ
ไอ้บอดสงนั้นอยู่ในวงการต่อสู้มาเป็นเวลานาน พบเจอคนที่เก่งกาจมาก็ไม่น้อย แต่ยังไม่เคยพบเจอใครที่เก่งกาจแบบเจียงชื่อมาก่อน มันสามารถใช้คำว่า’วิปริต’มาอธิบายให้เห็นภาพได้เลย
หนึ่งคนสู้กับ…ห้าหกสิบคน?
ประเด็นที่สำคัญเลยก็คือทั้งห้าหกสิบคนนี้ล้วนแต่มีอาวุธทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาเลย แม้แต่ไทสันมาเองก็ยังจบเห่
ชายที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นคนหรือผีกันแน่?แข็งแกร่งอย่างไร้ซึ่งเหตุผล
มันเหมือนกับสิ่งที่เจียงชื่อกล่าวในตอนต้น
สามนาทีก็สามารถจัดการทุกอย่างได้
อันที่จริงใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีด้วยซ้ำ คนห้าหกสิบคนที่ไอ้บอดสงนั้นนำมาต่างนอนจมกองเลือดไปแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่นั้นมือเท้าขาดกันหมด ชีวิตนี้ถูกกำหนดให้เป็นคนพิการไปตลอดแล้ว
การต่อสู้กับเจียงชื่อนั้นบอกได้คำเดียวว่า อนาถ!
เจียงชื่อถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อีกทั้งยังรู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก เป็นความสุขที่ได้ปลดปล่อยออกมาหลังจากถูกรั้งเป็นเวลานาน
นับตั้งแต่ที่ออกจากเวสเตอร์แลนด์ ความปรารถนาในการต่อสู้ของเขานั้นถูกรั้งเอาไว้
วันนี้ การต่อสู้อย่างต่อเนื่องทำให้เขาสามารถระบายมันออกได้ พลังงานที่ถูกระงับในร่างกายของเขาถูกปลดปล่อยออกมาในระดับสูง
คำว่าความสุขนี้จะไปเพียงพอที่จะอธิบายความรู้สึกนี้ได้อย่างไรกัน?
เขาวางมีดในมือของเขาจากนั้นหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกง จุดไฟและสูบมัน
ค่อยเงยหน้ามองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน เจียงชื่อพ่นควันออกมายาวๆ ลอยล่องขึ้นไปในอากาศ
เวลานั้นดูเหมือนจะหยุดลง
นี่เป็นครั้งแรกในหลายๆ ปีที่ไอ้บอดสงนั้นเฝ้าดูชายอีกคนสูบบุหรี่อย่างเงียบๆ เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น
ความรู้สึกเหมือนโดนครูประจำชั้นลงโทษตอนเด็กๆ
ท้ายที่สุด บุหรี่ก็ถูกสูบไปจนหมดมวน
เจียงชื่อค่อยๆ เดินไปหาไอ้บอดสง ‘เจตนาฆ่า’ในดวงตาของเขานั้นจางลงไปอย่างมาก แต่ถึงกระนั้น ในขณะที่จ้องมองไปที่ไอ้บอดสงนั้น ก็ยังทำให้ไอ้บอดสงนั้นตกใจกลัวจนขาอ่อนปวกเปียกลงไปคุกเข่ากับพื้น
ชายร่างสูงเกือบสองเมตรที่นั่งอยู่ต่อหน้าเจียงชื่อนั้นอ่อนแอพอๆ กับเด็กอายุสามขวบ
เจียงชื่อมองเขาพร้อมกับพูดเบาๆ ว่า “ตอนนี้นายยังอยากให้ฉันเป็นลูกน้องอีกไหม?”
ไอ้บอดสงนั้นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
นี่ล้อเล่นอะไรกัน?
ชายคนที่อยู่ข้างหน้าเขามาจากเทพสงครามชูร่า จะเอาเขามาเป็นลูกน้องงั้นเหรอ?เหอะๆ เช่นนั้นไอ้บอดสงจะยังมีชีวิตให้ใช้อีกเท่าไหร่กัน?
“ไม่ ไม่ครับพี่ ผมผิดไปแล้ว”
“ผมมีตาหามีแววไม่ ผมไม่ควรเป็นศัตรูกับคุณ”
เจียงชื่อยิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันไม่ฆ่านายหรอก”
เขาชี้ไปที่ลำต้นของต้นไม้ใหญ่บนถนน “ทำถนนให้เรียบร้อยซะ ฉันรีบร้อนต้องเดินทางแล้ว”
“อืม ครับ”
ไอ้บอดสงนั้นไม่รอช้า เขารีบเรียกคนที่ยังพอเคลื่อนไหวได้ให้รีบลุกขึ้นในทันทีและช่วยกันทำความสะอาดสิ่งกีดขวางบนท้องถนน จากนั้นยืนก้มศีรษะทำความเคารพอยู่ข้างถนน
เจียงชื่อไม่ได้พูดอะไร เขาหันหลังกลับและขึ้นรถ เหยียบคันเร่งพร้อมกับขับออกจากที่เกิดเหตุ
เขาไม่ได้ทำอะไรไอ้บอดสง
ไม่ใช่ว่าไม่กล้า เพียงแต่มันไม่จำเป็น
หลงหยันหยวนในตอนนี้นั้นเป็นโลกของไอ้บอดสง สภาพค่อนข้างมั่นคงแต่ไม่แข็งแรง
แต่หากฆ่าไอ้บอดสงนี่ล่ะก็ สภาพที่มั่นคงนี้คงพังทลายลงมาเป็นแน่
เมื่อถึงเวลานั้น ระบบของหลงหยันหยวนก็คงจะพังทลายลงมาด้วย
เรือที่ขาดหางเสือ ก็จะมีแต่ผู้คนฝักใฝ่อยากจะเป็นผู้นำ การสมรู้ร่วมคิดและการหลอกลวงเงินคงเป็นเรื่องที่ยากที่จะปราบปราม อยู่เหนือการควบคุม
ดังนั้น การปรับเปลี่ยนอย่างเป็นทางการของเจียงชื่อ ก่อนการปรับปรุงหลงหยันหยวนครั้งใหญ่ เขาจำเป็นต้องใช้ไอ้บอดสงเพื่อรักษาสมดุลเพื่อไม่ให้ระบบของหลงหยันหยวนล่มสลายไป
การมีระบบนั้นดีกว่าการเสียการควบคุม แม้ว่าระบบที่ว่านี้จะไม่แข็งแรงเลยก็ตาม