จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 473 หัวหน้าพนักงานขบวนรถไฟ
ทุกคนที่อยู่ในโบกี้รถไฟต่างก็มองอย่างตกตะลึง ผู้ชายคนนี้เป็นใคร หน่วยพิเศษเหรอ พลังการต่อสู้แม่งช่างน่ากลัวจริงๆ
พนักงานให้บริการก็มองจนอ้าปากตาค้าง
ที่แท้ ปัญหาสามารถแก้ไขได้ง่ายๆอย่างนี้เองเหรอ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ
ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรก เขาก็คงไม่ต้องมาพูดบลาๆยาวเป็นสิบนาที พูดจนปากคอแห้งไปหมด
ซินยุ่นเดินเข้าไป พูดอย่างรู้สึกตกใจอยู่บ้างว่า “เจียงชื่อ คุณกลายเป็นคนร้ายกาจอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
เจียงชื่อยิ้ม “คุณลืมไปแล้วเหรอว่าผมกำเนิดมาจากอาชีพอะไร หลายปีก่อนผมก็เหมือนกับพี่ชายคุณ เป็นทหารอยู่ที่เวสเตอร์แลนด์ ใช้ชีวิตในดงกระสุนและระเบิดทุกวัน ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก ฉะนั้น เผชิญคนพวกนี้ไม่ใช่แค่เรื่องง่ายๆเหรอ ”
เมื่อพูดเช่นนี้ ซินยุ่นก็เข้าใจขึ้นมาแล้วว่าทำไมเจียงชื่อถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้
ถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก เธอก็ไม่ต้องเป็นห่วง พอขึ้นรถไฟมาก็ให้เจียงชื่อตะเพิดคนพวกนี้ไปก็พอ
ทั้งสองกำลังคุยกัน ประตูของโบกี้ถูกเปิดออก หัวหน้าพนักงานบนรถไฟเดินเข้ามา ด้านหลังยังพาตำรวจรถไฟมาด้วยอีกกลุ่มหนึ่ง
หัวหน้าพนักงานรถไฟมองกลุ่มคนที่กองอยู่กับพื้น แล้วก็มองซานเชียวที่อยู่บนชั้นวางสัมภาระ จึงถามด้วยน้ำเสียงที่โมโหว่า “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
พนักงานบริการตกใจจนรีบโยนความผิดทันที
“หัวหน้า ที่นั่งของคุณผู้ชายคนนี้ถูกแย่งไป ฉะนั้นเขาก็เลยสั่งสอนที่มาแย่งที่นั่งไปหนึ่งยก”
เรื่องมันเป็นอย่างนี้เหรอ
ฟังแล้วเหมือนจะเป็นอย่างนี้ แต่ความเป็นมาเป็นไปของเรื่องราวไม่เหมือนเลยสักนิด
ซินยุ่นพูดอย่างรู้สึกโกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่ “ที่จริงคนพวกนี้แย่งที่นั่งเราไปไม่ยอมลุก พูดอยู่ครึ่งค่อนวันแล้วก็ไม่ตอบสนองเลยสักนิด พนักงานบริการยังจะให้เขาย้ายที่นั่ง ไปที่นั่งชั้นสอง พวกเราทนไม่ไหวแล้วจริงๆเลยลงมือ อีกอย่าง คนที่ลงมือก่อนก็คือพวกเขา พวกเขากรูกันเข้ามาหาเรื่องก่อน ”
แม้ว่าความจริงจะเป็นอย่างนี้ แต่ ……
หัวหน้าพนักงานรถไฟมองคนเหล่านั้นที่ถูกสั่งสอนจนสะบักสะบอม ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ผมไม่สนความพวกคุณจะมีเหตุผลมากแค่ไหน การต่อสู้ทำร้ายร่างกายกันบนรถไฟนั้นทำไม่ได้ ”
“นี่มันเป็นเรื่องผิดกฎหมายพวกคุณไม่รู้เหรอ”
เขาชี้ไปที่เจียงชื่อ “คุณเป็นคนลงมือใช่ไหม ไปกับผมเดี๋ยวนี้ สถานีหน้า จะมีตำรวจมาพาตัวคุณไป เตรียมตัวไปติดคุกสักครึ่งเดือนได้เลย”
ได้ยินคำพูดนี้ ซินยุ่นทั้งร้อนใจทั้งโมโห
เธอเป็นฝ่ายเสียหายแท้ๆ เจียงชื่อก็แค่ออกหน้าแทนเธอเท่านั้น ทำไมสุดท้ายแล้วคนที่เป็นผู้เสียหายต้องเป็นฝ่ายได้รับโทษตามกฎหมายแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่พวกที่แย่งที่นั่งกลับสามารถลอยนวลอยู่นอกกฎหมาย
ยังมีความยุติธรรมอยู่หรือเปล่า
ซินยุ่นร้อนใจ พูดอย่างตำหนิว่า “พวกคุณไม่มีเหตุผลเอาซะเลย มีตำรวจรถไฟอยู่เยอะแยะ เมื่อครู่เข้ามาบังคับพาตัวพวกที่มาแย่งที่นั่งออกไปก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องรอให้เรื่องมันบานปลายแล้วพวกคุณค่อยเข้ามา อีกอย่าง ยังเล่นงานเฉพาะผู้เสียหายอย่างพวกเราฝ่ายเดียวด้วย”
คำพูดนี้ได้รับการเห็นด้วยจากคนอื่นๆที่อยู่ในขบวนรถไฟ
ใช่แล้ว นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย
หัวหน้าพนักงานรถไฟขมวดคิ้ว เขายื่นมือออกไปชี้หน้าซินยุ่น “ระวังคำพูดของคุณด้วย ถ้าหากคุณยังขืนไม่ให้เกียรติผม ไม่ให้เกียรติตำรวจรถไฟอีกละก็ ถ้าอย่างนั้นก็มีความผิดในข้อหาหมิ่นประมาท ผมจะพาคุณไปด้วยเหมือนกัน ”
“คุณ!!!”
ซินยุ่นโตมาจนป่านนี้ เป็นครั้งแรกที่พบเจอความไม่ยุติธรรมอย่างนี้
เธออยากจะอธิบายด้วยเหตุผลต่อ แต่ถูกเจียงชื่อขัดขวางเอาไว้
เจียงชื่อพูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า “คุณพักผ่อนอยู่ที่นี่ไปก่อน ผมไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ”
ไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ
ทุกคนต่างก็มองเจียงชื่อเหมือนกับมองคนปัญญาอ่อน
การทะเลาะวิวาทต่อยตีกันบนรถไฟ หัวหน้าพนักงานรถไฟพาตำรวจรถไฟมาจับเขาเอง สถานีหน้าก็จะส่งต่อให้กับสำนักงานสันติบาลแล้ว ยังจะบอกว่าไปเดี๋ยวเดียวก็กลับมา
ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว