จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 474 รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร
ซินยุ่นก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน เธอรู้ว่าเจียงชื่อกำลังปลอบใจเธออยู่
แต่เจียงชื่อพูดต่อท้ายประโยคขึ้นมาอีกสามคำว่า “เชื่อใจผม”
เชื่อใจ
ในสถานการณ์ที่คนนอกต่างก็ไม่เชื่อว่าเจียงชื่อจะกลับมาได้ สุดท้ายซินยุ่นก็เลือกที่จะเชื่อใจเจียงชื่อ
เพียงเพราะว่าผู้ชายคนนี้เคยสร้างเรื่องไม่คาดคิดมานักต่อนักแล้ว
อีกอย่าง ในใจส่วนลึกของซินยุ่นมีความรู้สึกที่ดีต่อเจียงชื่อแฝงอยู่ ทำให้เธอเชื่อคำพูดของเจียงชื่อทุกคำอย่างไม่มีข้อสงสัย
“ได้ ฉันเชื่อว่าคุณต้องกลับมาแน่ ”
หัวหน้าพนักงานรถไฟหัวเราะ”กลับมา หึหึ อย่าหวังเลย ถ้าผมปล่อยให้เขากลับมาได้ ผมขอเป็นหมู ไปเถอะ ”
ภายใต้การเฝ้าสังเกตการณ์อย่างเข้มงวดของตำรวจรถไฟ เจียงชื่อถูกควบคุมตัวเข้าไปอยู่ในโบกี้รถไฟขบวนหนึ่งที่ว่างเปล่า ที่นี่ใช้สำหรับคุมขังผู้กระทำผิดชั่วคราว
มาถึงที่นี่ ก็ไม่สามารถออกไปได้อีก
ปิดประตูโบกี้รถไฟ
หัวหน้าพนักงานรถไฟนั่งลง มองเจียงชื่ออย่างไม่พอใจ “กล้าหาเรื่องทะเลาะวิวาทกันบนรถไฟ หึหึ นายมันแน่จริงๆ รอเข้าคุกเถอะ”
เจียงชื่อพูดด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “ทะเลาะวิวาทกันพวกเขาเป็นคนลงมือก่อน จับผมแค่คนเดียวเหรอ”
หัวหน้าพนักงานรถไฟหัวเราะ “คนแพ้ก็ต้องส่งโรงพยาบาล คนที่ชนะก็ต้องเข้าไปอยู่ในคุก คุณไม่รู้หรือไง คุณซ้อมเขาคนมีสภาพแบบนั้นแล้ว ผมยังต้องจับตัวพวกเขาอีกเหรอ ”
ที่แท้ยังใช้วิธีการอธิบายอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ
เจียงชื่อส่ายหน้าเบาๆ พูดต่อไปว่า “ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่พวกเขาแย่งที่นั่งก็ไม่ต้องพูดถึงแล้วเหรอ”
“ยังมีอะไรให้ต้องพูดถึงอีก “หัวหน้าพนักงานรถไฟพูด “คุณต้องรู้ว่า ตอนนี้พวกเขาเป็นผู้เสียหาย ส่วนคุณเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง ถ้าหากคุณไม่ลงมือ คุณยังพอมีเหตุผลอยู่บ้าง ตอนนี้กลายเป็นว่าจากที่คุณมีเหตุผลก็ไร้เหตุผลไม่แล้ว รู้หรือเปล่า ”
เจียงชื่อระอาใจ
เขาถามคำถามสุดท้ายขึ้นมา “แล้วหัวหน้าพนักงานรถไฟความผิดของคุณจะว่ายังไง”
หัวหน้าพนักงานรถไฟอึ้งไป “ความผิดของผม ผมผิดอะไร ”
เจียงชื่อพูดว่า “รถไฟความเร็วสูง หนึ่งคนต่อหนึ่งที่นั่ง คนกับที่นั่งต้องทำการตรวจสอบให้สอดคล้องกัน คนที่เป็นถึงหัวหน้าพนักงานรถไฟกลับตรวจไม่ครบถ้วน ปล่อยให้พวกนั้นนั่งผิดที่ตามใจตัวเอง ยังไม่มีความผิดอีกเหรอ”
“อีกอย่าง เห็นได้ชัดว่าบนรถไฟได้จัดเตรียมตำรวจรถไฟไว้มากมาย แต่คุณกลับทำเป็นมองไม่เห็นพวกที่แย่งที่นั่ง ต้องให้เรื่องมันใหญ่โตแล้วคุณค่อยออกหน้า นี่ไม่ใช่คุณทำงานได้ไม่ดี บกพร่องต่อหน้าที่ตัวเองเหรอ ”
“คนที่ไม่รู้จักพลิกแพลงสถานการณ์อย่างคุณ ไม่สมควรจะได้เป็นหัวหน้าพนักงานรถไฟ”
สถานการณ์ค่อนข้างอึดอัดใจ
“บังอาจ!!!”
หัวหน้าพนักงานรถไฟตบโต๊ะยืนขึ้น ชี้ไปที่หน้าของเจียงชื่อและพูดว่า “นายรู้ฐานะของตัวเองหรือเปล่าว่าเป็นใคร จะบอกให้ ตอนนี้นายเป็นนักโทษ ”
“เป็นนักโทษ ยังกล้าใช้ถ้อยคำแบบนี้มาพูดกับฉัน ฉันสามารถทำให้โทษแกหนักขึ้นได้ ให้แกถูกขังนานขึ้นเชื่อหรือเปล่า ”
“นายต้องเข้าใจในตำแหน่งของตัวเองด้วย”
“นายไม่เข้าใจเหรอว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน นายมีสิทธิ์อะไรมาชี้แนะฉัน ยังว่าฉันไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าพนักงานรถไฟ หึหึ ฉันไม่เหมาะ แล้วแกเหมาะหรือไง ”
“นายคิดว่านายเป็นใคร นายเห็นฉันแล้วไม่พอใจใช่ไหม เอาสิ นายมีความสามารถก็ลองไล่ฉันออกสิ โธ่เอ๊ย!”
หัวหน้าพนักงานรถไฟไม่หลงเหลือความสงบนิ่งแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือมีความไร้เหตุผลมั่วไปหมด
เพราะว่าเจียงชื่อพูดแทงใจดำของเขาเต็มๆ
เจียงชื่อมองเขาด้วยสายตาโมโห คิดไม่ออกจริงๆว่า ทำไมยังมีผู้ปฏิบัติงานอย่างนี้อยู่ น่ารังเกียจจริงๆเลย
“มอง มองหาอะไร อีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะถึงสถานีหน้าแล้ว”
“พอไปถึงสถานีหน้า ฉันจะส่งแกออกไปทันทีเลย”
เจียงชื่อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “กลัวว่าพอถึงเวลา คนที่ถูกส่งออกไปจะเป็นคุณ “