จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 512 เป็นเพื่อนกันไม่ได้
เมื่อเจ้าของร้านเห็นว่าเจียงชื่อหน้าตาคล้ายกับคนต่างถิ่น และฟังจากน้ำเสียงก็เหมือนกับคนต่างถิ่นอีกด้วย ทันใดนั้นความคิดไม่ดีก็ผุดขึ้นในหัวของเขา
“โอ้ คุณผู้ชายตาดีนะครับ นี่คือสมบัติที่มีค่าที่สุดในร้านเราเลยนะ มันเป็นเครื่องเคลือบโบราณที่ตกทอดมาจากสมัยเฉียนหลง เล่ากันว่ามันเป็นถ้วยที่จักรพรรดิเฉียนหลงใช้ดื่มชาทุกคืน เพราะฉะนั้นประเมินค่ามันไม่ได้นะครับ!”
ฟังดูก็รู้ว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเอง
แม้แต่ซินยุ่นที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังดูออกว่าชามใบนี้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพ และยังเป็นของลอกเลียนอีกด้วย
แต่เจียงชื่อกลับดูเหมือนคน ‘ปัญญาอ่อน’ ขึ้นมาทันที เขาพูดด้วยความประหลาดใจว่า “เป็นชามที่จักรพรรดิเฉียนหลงใช้ดื่มชาทุกคืนเลยเหรอครับ? โห เป็นของดีเลยนะครับ ผมต้องเก็บไว้ซะแล้ว ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่ครับเถ้าแก่?”
เจ้าของร้านชูนิ้วขึ้นมาอย่างมีเลศนัย
“หนึ่งล้าน? โอ้ ถูกมากเลยนะครับ! ” เจียงชื่อพูดด้วยความตื่นเต้น
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนต่างก็ตะลึงงันไปหมด
ที่จริงแล้วเจ้าของร้านแค่จะบอกว่า 1 พันหยวนเท่านั้น แต่แน่นอนว่าถ้าต่อราคาอีก คงได้มันไปในราคาสองร้อยหยวนแน่ แต่ไม่คิดเลยว่าลูกค้ากลับเสนอราคา 1 ล้านหยวนเอง แล้วยังจะต่ออะไรอีก?!
ซึ่งก็ทำให้เจ้าของร้านดีใจจนหาที่เปรียบไม่ได้แล้ว
แต่แน่นอนว่ามันก็ทำให้เหยาฮังเจ็บใจจนหาที่เปรียบไม่ได้เหมือนกัน ชามกระจอกแบบนั้นราคา 1 ล้านหยวนจริงหรือ? เล่นตลกอะไรกันอยู่? อย่าว่าแต่ 1 ล้านหยวนเลย 1 ร้อยหยวนก็ยังไม่คุ้มด้วยซ้ำ!
เจียงชื่อไม่เพียงแต่ไม่คิดจะวางชามนั้นลง แต่ยังพูดจาเห่อเหิมกับเหยาฮังว่า “คุณเหยา คุณน่าจะไม่รู้ว่าผมชอบสะสมของโบราณพวกนี้มาก บ้านผมมีของพวกนี้เต็มไปหมดเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นกาน้ำชาของเฉียนหลง เก้าอี้ของจูหยวนจาง แท่นฝนหมึกของมหากวีซูตุงพอ หรือดาบของหลี่ไป๋ ของพวกนี้บ้านผมมีเต็มไปหมดเลยล่ะ!”
“ถ้าว่างเมื่อไหร่ ต้องพาคุณไปเที่ยวชมของมีค่ามากมายที่บ้านผมหน่อยแล้ว”
แม้เหยาฮังจะยิ้มออกมา แต่ในใจก็เต็มไปด้วยคำด่าที่สาดเสียเทเสียต่อเจียงชื่อ ซื่อทื่อมะลื่อแบบนี้ ที่บ้านคงมีแต่วัตถุโบราณจากเศษขยะที่ซื้อมาจากข้างถนนแน่
เจียงชื่อทำปากแบะกับเหยาฮังแล้วพูดว่า “ต้องขอโทษด้วยนะครับ วันนี้ต้องทำให้คุณเสียเงินอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับๆ แค่นี้สบายมาก”
เหยาฮังแทบจะกระอักเลือด และแล้วเขาก็ต้องเสียเงินไปอีกหนึ่งล้าน!
และในขณะนั้น ในที่สุดซินยุ่นก็เห็นถึงความผิดปกติ เพราะเจียงชื่อไม่ได้โง่ขนาดนั้นอยู่แล้ว ที่ทำแบบนั้นเขาต้องจงใจแกล้งเหยาฮังอย่างแน่นอน
แต่ทำไมต้องแกล้งเพื่อนใหม่อย่างนี้ด้วย?
เจียงชื่อไม่ใช่คนต่ำทรามแบบนั้นแน่นอน การที่เขาทำแบบนี้ เขาต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่
ถึงแม้ยังไม่รู้จุดประสงค์ของเจียงชื่อ แต่ซินยุ่นก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และยังตามเจียงชื่ออย่างใกล้ชิด
“โห! คุณเหยาครับ คุณดูสิ พัดชิ้นนั้น ดูเหมือนจะมีตัวหนังสือของถังไป่หู่เขียนอยู่ด้วย ไป เราไปดูกัน!”
“ยัง ยังจะดูอีกเหรอ?”
เหยาฮังอยากจะปฏิเสธ แต่ก็กลัวจะทำให้เจียงชื่อไม่พอใจ และทำให้แผนการของตนล้มเหลว
ไม่มีทางเลือกอื่น เขาได้แต่ตามเจียงชื่อต่อไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เจียงชื่อเล่นเอาเป็นเอาตาย ไม่ว่าจะเป็นพัดของถังไป่หู่ โคลงกลอนของเจิ้งป่านเฉียว เสื่อฤดูร้อนของตู้ฝู่ และตราประทับหยกของจูตี้ อะไรที่ว่า ‘ดี’ เขาก็ซื้อหมด
และยิ่งไปกว่านั้น ไม่ได้ซื้อของที่ใช่ แต่ซื้อของที่แพงไว้ก่อน
เงินล้านสองล้านแรกยังเป็นแค่เศษเงินเท่านั้น เมื่อไปถึงช่วงหลัง ของแต่ละชิ้นล้วนไม่ต่ำกว่าสิบยี่สิบล้าน!
เหยาฮังอดทนกับความเจ็บใจ พร้อมกับจ่ายเงินให้กับเจียงชื่อไปด้วย แต่ในใจก็ยังนินทาอย่างไม่หยุด ‘ไอ้สารเลวมึงรอกูไว้ ถึงคราวกูแล้ว กูจะเอาสินทรัพย์เป็นหมื่นล้านของมึงมา เงินที่จ่ายไปในวันนี้ กูถือว่าเป็นการลงทุนไปก็แล้วกัน!’
การช้อปปิ้งวันนี้ เหมือนเป็นการซื้อความสุขให้กับเจียงชื่อเท่านั้น
ส่วนเหยาฮังก็ทุกข์ใจจนหาที่เปรียบไม่ได้อีก
และในตอนท้าย หลังจากที่ท้องฟ้ามืดสนิด เจียงชื่อก็ทิ้งทุกอย่างลงบนถนน และพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหยาฮังต่อหน้าทุกคนว่า
“เหยาฮัง ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันไม่ได้”