จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 515 พังยับเยิน
ด้วยความโลภที่ถูกดึงดูดด้วยค่าเงิน คนทั้งหมดบนถนนคนเดินจึงกระโจนเข้าไปเหมือนสัตว์เดรัจฉานที่หิวโหย
และเหยาฮังกับลูกน้องของเขาก็เหมือนลูกแกะที่กำลังจะถูกเชือด ได้แต่มองดูฝูงหมาป่าและไม่มีทางที่จะหนีได้ แม้แต่จะลุกขึ้นสู้ก็ยังไม่ไหว
คนเหล่านี้คุ้นชินกับการกลั่นแกล้งผู้อื่น แต่ไม่เคยชินกับการที่ถูกคนอื่นกลั่นแกล้งมาก่อนเลย
การกลั่นแกล้งผู้อื่นจึงเป็นคติประจำใจของพวกเขาไปแล้ว
ในเวลานี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนมากมายที่เหมือนกับกระแสน้ำขนาดใหญ่ที่ซัดเข้ามา ลูกน้องแต่ละคนต่างก็พากันคุกเข่าลงและก้มหัวขอความเมตตา
แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกัน?
ตอนนี้พวกเขาก็เหมือนเงินทอง แล้วยังมีคนที่ไม่ต้องการเงินทองอยู่อีกเหรอ? โดยเฉพาะเมืองหนานเฉิง ที่ที่มีแต่ความรุนแรง และการลงมือก็ย่อมรุนแรงด้วยเช่นกัน
เหยาฮังมองไปรอบๆ อย่างสิ้นหวัง เขานึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องมันจะบานปลายแบบนี้
และสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันได้พิสูจน์คำพูดที่ว่า ‘มีเงินแล้ว ไม่มีเรื่องใดที่เป็นไปไม่ได้’
จากที่กำลังเสียเปรียบอยู่ แต่เจียงชื่อกลับใช้เงินเพื่อพลิกตาลปัตรสถานการณ์เรื่องนี้ และยังทำให้เหยาฮังรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของเงินได้
“ไป เราไปหาที่นั่งดูละครกัน”
เจียงชื่อยืนขวางซินยุ่นกับซินจื่อหมินแล้วถอยห่างออกไป จากนั้นทั้งสามก็เข้าไปในโรงน้ำชาร้านหนึ่งแล้วนั่งดูเหยาฮังกับคนของเขาที่กำลังจะถูกรุมทำร้าย
ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีแค่ไหนแล้วที่ถูกรุมทำร้ายเท่านั้น
มีลูกน้องหลายๆ คนถูกจับตัวไว้ จากนั้นถูกงัดปากแล้วใช้คีมหักฟันออกมาทีละซี่!
เลือดมากมายไหลนองในที่เกิดเหตุ
แล้วที่นี่ยังใช่ถนนคนเดินอยู่หรือ? มันเป็นเหมือนโรงฆ่าสัตว์มากกว่า
ซินยุ่นรู้สึกเจ็บปวดใจมาก เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นถึงความบ้าคลั่งของมนุษย์
คนพวกนี้ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหม?
นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ
ด้วยแรงดึงดูดของเงิน ทำให้พวกเขาทั้งหมดสูญเสียความเป็นคนไปหมดแล้ว ต่างคนต่างกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่หิวโหยเงินกันหมด
ซินยุ่นหันมองไปและรู้สึกทนดูไม่ไหวแล้ว เพราะความดีของเธอทำให้เธอทนดูกับสถานการณ์แบบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ อีกอย่างตอนนี้เธอก็เริ่มสงสัยในอาชีพหมอของเธอแล้ว
เพราะเธอเรียนอย่างหนักเพื่อจะมาเป็นหมอในการช่วยเหลือผู้คน แต่ทำไมผู้คนที่เธอช่วยนั้นกลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เห็นแก่เงินทั้งนั้น?
แล้วจะให้เธอเป็นแพทย์ต่อหรือ?
เจียงชื่อดูออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงพูดกับเธอเบาๆ ว่า “มันน่าสะอิดสะเอียนใช่ไหม?”
“ตอนอยู่เวสเตอร์แลนด์ พวกเราก็ใช้ชีวิตแบบนี้แทบทุกวัน โดยเฉพาะการนองเลือดกัน หรือว่าเป็นฝ่ายที่ลงมือกับศัตรู ทุกอย่างมันไม่เหมือนกับการนั่งดูเงียบๆ แบบนี้หรอกนะ”
ซินยุ่นถามว่า “แล้วพี่ชายของฉัน……เขาก็เป็นแบบนี้เหมือนกันเหรอ?”
“เขาเป็นหมอ มือไม่ได้เปื้อนเลือดแบบนี้หรอก แต่เขาจะเจอสถานการณ์แบบนี้ตลอด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดความตั้งใจในการช่วยเหลือผู้คนหรอกนะ ไม่เพียงแต่ไม่ได้หยุดความตั้งใจของเขา แต่มันกลับทำให้เขาพัฒนาทักษะทางการแพทย์ของเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก”
“ทำไมกันล่ะ? มันคุ้มแล้วเหรอกับการช่วยคนเหล่านี้?”
“การรักษาคนมันง่าย แต่รักษาจิตใจคนมันยาก ลองเรียนรู้ที่จะช่วยชีวิตคนก่อน ส่วนเรื่องการรักษาจิตใจค่อยว่ากันทีหลัง ถ้าคนตายกันไปหมด แล้วจะเอาอะไรมารักษาจิตใจของพวกเขาล่ะ? ความปรารถนาสูงสุดในชีวิตของพี่ชายคุณก็คือการที่ได้เห็นโลกนี้อยู่ในความสงบสุข การที่ไม่มีสงครามในโลกใบนี้อีก และนั้นก็เป็นความปรารถนาของผมด้วยเช่นกัน”
ความหวังเป็นสิ่งสวยงาม แต่ความจริงมันก็ช่างโหดร้ายเสมอ
สงครามอาจจะหมดไป แต่ ‘ความขัดแย้ง’ ระหว่างมนุษย์มันไม่มีวันหายไปจากโลกนี้
ที่ใดมีผลประโยชน์ ที่นั่นก็ย่อมเกิดความขัดแย้ง
และที่ใดมีความขัดแย้ง ที่นั่นก็ย่อมมีการต่อสู้
ซินยุ่นมองไปที่ผู้คนที่กำลังต่อสู้อย่างไร้มนุษยธรรม เธอรู้สึกหมดหวังอีกครั้ง เธอเองก็ไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถช่วยเหลือมนุษย์โลกด้วยความหวังอย่างพี่ชายเธอได้หรือไม่
กระทั่งในเวลานี้ เธอจึงจะเข้าใจถึงความกดดันที่พี่ชายแบกรับมาตลอดว่ามันหนักหนาแค่ไหน
เสียงกรีดร้องโหยหวน เสียงความเจ็บปวด เสียงของการปะทะกัน ดังขึ้นอย่างไม่รู้จักจบสิ้น และไม่นานหลังจากนั้น เหยาฮังกับลูกน้องของเขาก็ถูกผู้คนทำร้ายจนนอนกองอยู่กับพื้น