จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 520 ยังไงก็ไม่ยอม
เจียงชื่อพูดอย่างเย็นชาว่า “ผมถึงที่จอดรถที่นี่ก่อนนะครับ อีกอย่างผมเข้าไปจอดก่อนด้วย แล้วเป็นที่จอดของคุณได้ยังไงครับ? ถ้าคุณเก่งพอ ทำไมคุณไม่จอดเข้าไปก่อนผมล่ะครับ”
ชายฉกรรจ์ถึงกับตกใจ
อันที่จริงแล้วทักษะการขับรถของชายฉกรรจ์คนนี้ก็ดีอยู่แล้ว ยิ่งสถานการณ์การแย่งที่จอดรถก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องที่เขาถนัดด้วยซ้ำ
แต่ไม่คิดเลยว่าฝีมือของเจียงชื่อจะดีกว่าเขา และทำการจอดรถเข้าไปได้ก่อน
คนที่ฝีมือด้อยกว่า ก็ต้องแพ้ไป
ชายฉกรรจ์เงียบไปสักพัก ในขณะนั้น ผู้หญิงที่แต่งตัวเซ็กซี่คนหนึ่งเดินลงมาจากรถและกระทืบเท้าพูดว่า “งานใกล้จะเริ่มแล้ว นี่คุณยังทำอะไรอยู่? ตกลงหาที่จอดรถได้มั้ยเนี่ย?”
ชายฉกรรจ์รีบพูดเกลี้ยกล่อมว่า “รอแป๊บนะที่รัก เดี๋ยวผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”
จากนั้นเขาหันมาแล้วพูดกับเจียงชื่อด้วยความโกรธว่า “ผมไม่มีเวลามาเล่นกับคนบ้านนอกอย่างคุณหรอกนะ ผมจะถามคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณจะถอยหรือไม่ถอย?”
เจียงชื่อตอบสั้นๆ ว่า
“ไม่ถอย”
“ได้ ไอ้หนุ่ม เดี๋ยวมึงจะได้รู้ซึ้งว่าคนที่ทำให้กูไม่พอใจนั้น มันจะต้องเจอกับชะตากรรมยังไง!”
ชายฉกรรจ์ไม่ได้ลงมือทันที แต่เขากลับไปที่รถ จากนั้นเอารถของเขามาจอดขวางหน้ารถของเจียงชื่อต่อหน้าเจียงชื่อ และขวางทางออกของเจียงชื่อไว้!
ตราบใดที่รถของอีกฝ่ายไม่ขยับ รถของเจียงชื่อก็ไม่สามารถขับออกไปไหนได้
ชายฉกรรจ์ดับเครื่องยนต์แล้วเดินออกมา จากนั้นหัวเราะและพูดว่า “กูมีเงิน รถแค่คันเดียวมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับกูหรอก กูแค่อยากให้มึงจำไว้ว่า อยู่ในสังคม ถ้าไม่มีปัญญาจริงอย่าทำตัวกร่างกับคนอื่น!”
“รถคันนี้ กูก็จะจอดมันไว้ตรงนี้ กูจะไม่ขับมันไปไหนอีก”
“แล้วก็ชาตินี้ อย่าหวังว่ารถอของมึงจะได้ขับออกไปอีก!”
ช่างเป็นพฤติกรรมที่ไร้เหตุผลจริงๆ
สาวเซ็กซี่คนนั้นเข้ามาโอบเอวของชายฉกรรจ์แล้วหัวเราะคิกคักและพูดว่า “สมน้ำหน้า!”
ในขณะที่พวกเขากำลังจะเดินออกไป เจียงชื่อก็เรียกพวกเขาไว้
“รอก่อนสิครับ”
ชายฉกรรจ์หันกลับมามองแล้วถามว่า “ว่าไง ตอนนี้มึงรู้สึกผิดแล้วใช่ไหม? คิดจะเปลี่ยนใจงั้นเหรอ? กูจะบอกให้รู้เอาไว้นะ มันสายไปแล้ว!”
“แต่กูนั้นเป็นคนใจกว้าง กูจะให้โอกาสมึงอีกสักครั้ง ขอแค่มึงคุกเข่าต่อหน้ากู แล้วเรียกกูสั้นๆ คำเดียวว่า ‘คุณพ่อที่แสนดี’ จากนั้นถอยรถมึงออกไป แล้วกูจะปล่อยมึงไป”
“ฟังเข้าใจไหม?”
เจียงชื่อได้แต่แสดงสีหน้าเฉยเมย
เศษสวะในโลกใบนี้มันช่างเยอะจริงๆ ไปไหนก็ต้องเจอกับเศษขยะสังคมแบบนี้
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วมองหน้าคู่กรณีและพูดว่า “ผมให้เวลาคุณสามสิบวินาทีในการย้ายรถคุณออกไป”
ชายฉกรรจ์เริ่มหัวร้อนขึ้นมา
น้ำเสียงของเจียงชื่อไม่ได้เป็นการประนีประนอม แต่เป็นการข่มขู่มากกว่า ซึ่งชายฉกรรจ์คนนี้มีทั้งเงินและอำนาจ อีกทั้งร่างกายของเขายังแข็งแรงกำยำ และที่ผ่านมาเขาไม่เคยเสียเปรียบต่อใครเลยด้วยซ้ำ
ฉะนั้น เขาจะปล่อยให้เจียงชื่อข่มแบบนี้ได้ยังไงกัน?
ชายร่างกำยำมองหน้าเจียงชื่อแล้วพูดว่า “อะไร หรือมึงอยากลองดีกับกู? ลองตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาบ้างนะ มึงใช่คู่ต่อสู้ของกูไหม? ฟังนะ ตอนนี้ต่อให้มึงขอโทษกูก็ไร้ประโยชน์แล้ว รถคันนี้ กูไม่มีทางขยับให้มึงอย่างแน่นอน!”
เจียงชื่อยืนเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร
หลังจากรอสักครู่ เวลาสามสิบวินาทีก็ผ่านไป
เจียงชื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “หมดเวลา คุณ ต่อให้คุณอยากจะย้ายรถออกไปก็ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว”
ชายฉกรรจ์ถึงกับหัวเราะออกมา “ไอ้น้อง มึงปากดีไม่เบาเลยนะ? มาสิ เข้ามาเลย กูอยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะมีปัญญาทำอะไรกูได้?”
เจียงชื่อขยับขาเล็กน้อย เดินช้าๆ เพียงไม่กี่ก้าวก็ได้มาถึงตรงหน้ารถของคู่กรณี
“งั้น คุณก็ช่วยแหกตาดูดีๆ ละกันนะ”