จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 558 ไล่ออก
หลิวเต๋อหวางมองเจียงชื่อราวกับว่ากำลังมองคนปัญญาอ่อน “ฮ่าฮ่า เอาอะไรมาคิด? คุณนึกว่าคุณเป็นต้าโหลเทียนเซียนเหรอ?”
ยังพูดไม่ทันจบ รถBMWสีเงินคันหนึ่งก็ค่อยๆ เข้ามาจอดข้างถนน
จากนั้น ชายชราคนหนึ่งก็ลงมาจากรถ
ทันทีที่เห็นบุคคลนี้ ทั้งหลิวเต๋อหวางและผู้จัดการเฉาก็สะดุ้งตกใจพร้อมกัน ชายทั้งสองรีบทิ้งก้นบุหรี่ แล้วลุกขึ้นยืนด้วยความเคารพ
บุคคลนี้คือ รองประธานเครื่องประดับดาวฤกษ์เขตสาขาเจียงหนาน…หวางเจี้ยนไหล!
“ท่านหวาง ท่านมาได้ยังไงครับ?” หลิวเต๋อหวางเอ่ยถามอย่างสุภาพ
หวางเจี้ยนไหลเดินเข้าไปอย่างเงียบ ๆ พลางพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าสาขาที่เปิดใหม่แห่งนี้ เอาชื่อเสียงเครื่องประดับดาวฤกษ์ของเราไปแอบอ้างหลอกลวงต้มตุ๋น ดังนั้นจึงตั้งใจมาดูโดยเฉพาะ”
หลิวเต๋อหวางยิ้มเจื่อนๆ “แหะๆ ท่านหวางไม่ต้องห่วง ผมได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ร้านของเราไม่ได้ไปหลอกใคร แต่คนไร้เหตุผลเหล่านี้ต้องการขู่กรรโชกพวกเรา! นึกว่าพวกเราเป็นร้านเปิดใหม่รังแกง่าย เลยเอาสินค้าปลอมกับใบเสร็จปลอมมาขอคืนสินค้า ฮ่าฮ่า เรื่องไร้สาระน่ะครับ”
ผู้จัดการเฉากล่าวเสริมว่า “ใช่ครับ คนเลวพวกนี้น่ารังเกียจจริงๆ ท่านหวาง ที่นี่พวกเราสามารถจัดการได้ ท่านกลับไปเถอะครับ เดี๋ยวลมแรงจะทำให้ท่านเป็นหวัด”
“อืม” หวางเจี้ยนไหลพยักหน้า แล้วหันกลับมามองเจียงชื่อ
แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็รู้ความคิดกันเป็นอย่างดี
เมื่อแรกเริ่มตอนที่ยังอยู่ในมิลาน หวางเจี้ยนไหลได้เห็นอำนาจที่น่าเกรงขาม ทักษะทางการแพทย์ มือเทพ บุคลิกประจำตัว และความรู้ของเจียงชื่อนั้นอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก นั่นคือเหตุผลที่เขาได้รับความสำคัญจากท่านหญิง เธอได้แหกกฎให้เจียงชื่อเข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารและได้รับหุ้น 30%
อาจกล่าวได้ว่า ในปัจจุบันเครื่องประดับดาวฤกษ์ นอกจากเจ้าบ้านแล้ว ตำแหน่งของเจียงชื่อนั้นสูงที่สุด
ขอเพียงเจียงชื่อเปิดเผยตัวตนของเขา เขาก็สามารถไล่ผู้จัดการเฉาและหลิวเต๋อหวางออกได้ทุกเมื่อ แต่เจียงชื่อไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่กลับเรียกหวางเจี้ยนไหลมาแทน นั่นก็หมายความว่าเจียงชื่อไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน
หวางเจี้ยนไหลที่ใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตจนเกือบจะได้เป็นยอดคน ก็ย่อมไม่ ‘เปิดโปง’ เจียงชื่ออยู่แล้ว
เขาเอามือทั้งสองไพล่หลัง พลางถามอย่างเฉยเมย “หลิวเต๋อหวาง เมื่อกี้คุณบอกว่าสินค้าที่คนเหล่านี้นำมาล้วนเป็นของปลอมงั้นหรือ?”
หลิวเต๋อหวางเหงื่อออกเย็นเฉียบ
“ใช่ครับ สินค้าเป็นของปลอม แต่ว่า…”
หวางเจี้ยนไหลยกมือขึ้น แสดงออกว่าเขาไม่จำเป็นต้องพูดต่อ “ในเมื่อสินค้าเป็นของปลอม ถ้าอย่างนั้นก็คืนเงินให้พวกเขาสิ”
อะไรนะ?!
ทั้งหลิวเต๋อหวางและผู้จัดการเฉาตะลึงงัน อะไรคือการคืนสินค้า?
ผู้จัดการเฉาพูดขึ้นว่า “ท่านหวาง เมื่อกี้ท่านไม่ได้ยินเหรอครับ? ถึงแม้ว่าสินค้าจะเป็นของปลอม แต่ใบแจ้งหนี้และใบเสร็จของพวกเขาก็ปลอมด้วย หมายความว่าสินค้าไม่ได้ซื้อไปจากเราเลย!”
“แล้วทำไมพวกเราต้องคืนสินค้าด้วย?”
“ท่านหวาง จะทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ”
หวางเจี้ยนไหลขมวดคิ้วไม่พอใจ แล้วตำหนิว่า “กล้ามาก! ผมจะทำอะไร คุณมีสิทธิ์มาวิจารณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เสียงดุด่าทำให้ผู้จัดการเฉากลัวจนรีบคุกเข่าลง “ท่านหวาง ผมไม่ได้ตั้งใจ ท่านอย่าโกรธเลย”
“ฮ่า กับคนที่ไม่รู้จักสัมมาคารวะอย่างคุณ พวกเราเครื่องประดับดาวฤกษ์จะเก็บเอาไว้ทำไม?” หวางเจี้ยนไหลลูบเครา แล้วพูดบางอย่างที่สร้างความประหลาดใจต่อหน้าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ “ผมขอประกาศว่า ขอยกเลิกภาระหน้าที่ทั้งหมดของผู้จัดการเฉา จากนี้ไปคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครื่องประดับดาวฤกษ์ ไปรับเงินที่แผนกการเงินแล้วออกไปซะ!”
ใบหน้าของผู้จัดการเฉาซีดเผือด
เขาเงยหน้ามองหวางเจี้ยนไหลอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ล้อเล่นหรือเปล่า? พูดผิดไปประโยคเดียวก็จะตกงานเลยเหรอ?
หวางเจี้ยนไหลคิดอะไรอยู่?