จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 560 ทุบร้าน
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
หลิวเต๋อหวางเอ่ยถามขึ้น “คุณเป็นใครกันแน่?”
“ผมชื่อเจียงชื่อ เป็นแค่ผู้มาปกป้องสิทธิ์ทั่วไปเท่านั้น”
“เจียงชื่อ?”
หลิวเต๋อหวางครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ทันใดนั้นดวงตาก็เบิกกว้าง ชื่อนี้ทั้งคุ้นเคยและแปลกหู
ในฐานะผู้อำนวยการแผนก เขาได้รับหนังสือแจ้งเมื่อไม่นานมานี้ ส่วนใหญ่อธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของเครื่องประดับดาวฤกษ์ ตำแหน่งเจ้าบ้านจะถูกส่งต่อไปยังลูกชายคนโตจากท่านหญิง
ยังมีส่วนเสริมอีกสองสามประโยคในตอนท้ายของประกาศ บอกว่าจะละเมิดกฎให้ชายชื่อ ‘เจียงชื่อ’ ได้เข้าร่วมคณะกรรมการบริหาร และได้รับหุ้นของบริษัท 30%
เจียงชื่อ เจียงชื่อ เจียงชื่อคนนี้นี่เอง!
เพราะเคยได้ยินแต่ชื่อแต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง หลิวเต๋อหวางจึงไม่รู้จักเจียงชื่อเลย แน่นอน เขาคิดไม่ถึงว่าจะโชคร้ายแบบนั้น สมรู้ร่วมคิดกับหลานชายเพื่อหลอกลวงคนอื่น แต่ดันไปหลอกแม่ยายของเจียงชื่อเข้า
นี่คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของบริษัท ใครที่ล่วงเกินเขาจะถูกไล่ออกได้ทุกเมื่อ
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมหวางเจี้ยนไหลจึงไล่เขาออกโดยไม่สนใจอะไรเลย และเหตุใดสำนักงานใหญ่จึงอนุมัติคำขอของหวางเจี้ยนไหลโดยไม่ลังเล
ไปล่วงเกินผู้ถือหุ้นอันดับสองของบริษัท ยังคิดจะอยู่อีกหรือ?
ฮ่าฮ่า!
หลิวเต๋อหวางร้องไห้โดยที่ไม่มีน้ำตา ทำร้ายคนอื่นสุดท้ายก็ทำร้ายตัวเอง ถ้าเขายอมคืนเงินคนอื่นดีๆ ตั้งแต่แรก ก็จะไม่จบลงแบบนี้ แม้แต่งานก็ไม่มีแล้ว
เขาสู้มากว่ายี่สิบปีกว่าจะได้นั่งในตำแหน่งนี้ ยังไม่ทันจะได้ทำเงินก็ถูกไล่ออกแล้ว
ชีวิตแสนโหดร้าย!!!
หลังจากได้รู้ความจริงทุกอย่างแล้ว หลิวเต๋อหวางก็ร้องไห้ฟูมฟาย ผู้จัดการเฉาที่อยู่ข้างๆ ทำอะไรไม่ถูก เขาไม่รู้จักหรือเคยได้ยินชื่อเจียงชื่อมาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าทำไมลุงของเขาถึงร้องไห้ขนาดนี้
ไม่มีใครสนใจพวกเขา
หวางเจี้ยนไหลสั่งการเลขาของสาขา “แจ้งแผนกบัญชีให้ทำเรื่องคืนสินค้าทั้งหมดให้พวกคุณลุงคุณป้าทันที คืนให้หมดทุกอย่าง ไม่ให้ขาดไปแม้แต่เฟินเดียว!”
“รับทราบค่ะ”
เลขารีบออกไป
จากนั้น เสียงปรบมืออันอบอุ่นก็ดังขึ้นในที่นี้ ทุกคนยิ้มออกมาได้ วันนี้เป็นวันที่อับจนหมดหนทาง แต่จู่ๆ ก็ได้มองเห็นแสงสว่างอยู่ปลายอุโมงค์จริงๆ
ทุกคนชื่นชมหวางเจี้ยนไหลที่มีความยุติธรรมและไม่เห็นแก่ตัวจริงๆ
ส่วนหวางเจี้ยนไหลก็มองเจียงชื่ออย่างเงียบๆ ทุกอย่างที่เขาทำ ก็แค่ทำตามความต้องการของเจียงชื่อเท่านั้น ไม่ใช่ความคิดของเขาเลย
แต่เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้
เจียงชื่อพูดกับแม่ยายว่า “แม่ครับ แม่เอาค้อนมาหรือเปล่า?”
“เอ่อ เอามา”
ซูฉินเอาค้อนออกมา “ชื่อ นายให้ฉันเอาสิ่งนี้มาทำไม?”
เจียงชื่อกระแอมไอ ชี้ไปที่ร้านสาขาแล้วพูดว่า “ทุบมัน!”
“หา? ทุบ?”
“ถูกต้อง ร้านค้าหลอกลวงต้มตุ๋นแบบนี้ สมควรทุบทิ้ง!”
“แบบนี้ไม่ดีล่ะมั้ง?” ซูฉินถือค้อนอยู่ในมือ ไม่กล้าลงมือ
ล้อเล่นหรือเปล่า นี่คือเครื่องประดับดาวฤกษ์นะ ถ้านายทุบร้านเขา แล้วเขาฟ้องนาย นายจะชดเชยไหวเหรอ?
แต่ทว่า หวางเจี้ยนไหลในฐานะรองประธานสาขาไม่เพียงแต่ไม่คัดค้าน แต่ยังสนับสนุนด้วย “คุณผู้ชายท่านนี้พูดถูกครับ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเครื่องประดับดาวฤกษ์ของเราคือคำว่า ‘ชื่อเสียง’ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้คือความอับอายของพวกเรา จำเป็นต้องทำลายมันเสีย ร้านแบบนี้ ไม่สมควรมีอยู่อีกต่อไป!”
“ดังนั้น ทุกท่านไม่ต้องกังวล ทุกท่านไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมด!”
เมื่อมีคำพูดของหวางเจี้ยนไหล ทุกคนก็มีความมั่นใจขึ้นมา
ซูฉินอดทนอดกลั้นอยู่สองวัน ในที่สุดก็มีโอกาสได้ระบายความโกรธที่สุมอยู่ในอกออกมาเสียที ทุบ ทุบให้แรงๆ!
เพล้ง!!!
ซูฉินเอาค้อนทุบกระจกเคาน์เตอร์แตกละเอียด รู้สึกสบายใจขึ้นมากในทันที
“สะใจ สะใจ!”