จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 625 เฟิงเหนี่ยว
ทุกคนต่างสงสัย ผู้ชายคนนี้คือใคร? ถึงกล้าออกมาพูดตรงนี้
“ไอ้หนุ่ม แกเป็นใคร? ชื่ออะไร? แกมีสิทธิ์พูดที่นี่ด้วยหรือไง?
“คงจะเป็นพวกเหี้ยๆในทีมรถเฟอร์รารี่มั้ง?”
“หึๆ ชั้นต่ำเหมือนกัน”
จากนั้น แววตาของจู้หมิงเปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาเคล้าไปด้วยความดีใจ ความสุข ไม่สนใจหยางจุนเทียนอีกต่อไป เดินตรงไปหาเจียงชื่อ
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกต้องมา!”
เจียงชื่อสูบบุหรี่ พูดเสียงเรียบ:”ให้โอกาสฉันสักครั้ง ถ้าฉันสามารถเอาชนะเฟิงเหนี่ยวอย่างเปิดเผยและถูกต้อง ก็เลิกหาเรื่องทีมรถเฟอร์รารี่ ได้ไหม?”
จู้หมิงยังไม่ทันเอ่ยปาก เฟิงเหนี่ยวก็เดินเข้ามา
เขาจ้องมองเจียงชื่อหลายวินาที แล้วเอ่ยถาม:”คนที่เอาชนะจู้หมิงเมื่อคราวที่แล้ว คือแก?”
“ใช่ ฉันเอง”
“ได้ ฉันรอเจอแกเนี่ยแหละ เจียงชื่อ!” เฟิงเหนี่ยวพูดเสียงดัง:”เรามาแข่งกันสักรอบ ถ้าหากแกชนะฉันได้ พวกเราไม่เพียงแต่ไม่หาเรื่องทีมรถเฟอร์รารี่ แต่ยังยกสิทธิ์พูดให้พวกเขา ยอมรับว่าทีมรถเฟอร์รารี่คืออันดับหนึ่งในวงการ แต่ถ้าแกแพ้ ต้องขอโทษด้วย ทีมรถของพวกแกแยกย้ายได้แล้ว”
การแข่งขันตัดสินอนาคตของทีมรถ
เป็นการเดิมพันที่ใหญ่มาก
“กล้าไหม?” เฟิงเหนี่ยวเอ่ยถาม
เจียงชื่อหัวเราะ เทพแห่งสงครามชูร่าเคยกลัวสักที่ไหน?
เขาพูดเสียงเรียบ:”เดี๋ยวตอนแพ้ อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งล่ะ”
“ฮ่าๆ แกกำลังพูดถึงตัวเองรึเปล่า?”
ผู้ชายสองคนที่อยู่สูงสุดในวงการแข่งรถ หลังจากมองหน้ากันไม่กี่วินาที ก็แยกย้ายกันขึ้นรถ
รถที่เจียงชื่อขับ ยังคงเป็นเฟอร์รารี่458ที่ล้าสมัย ด้านสมรรถนะของรถยนต์ไม่สามารถเทียบกับซุปเปอร์คาร์ที่เฟิงเหนี่ยวแก้ไขดัดแปลงด้วยตนเอง
แค่มองรถทั้งสองคน บรรดาผู้ชมก็พากันส่ายหน้า
เฟอร์รารี่458?
เทียบได้เหรอ?
“ขับรถคุณปู่มาแข่ง ไม่เห็นเฟิงเหนี่ยวอยู่ในสายตาเกินไปรึเปล่า?”
“เฮ้อ ทีมรถเฟอร์รารี่เดินมาถึงวันนี้ได้ยังไง คนในทีมถ้าไม่ใช่คนชั้นต่ำ ก็คือคนบ้าที่ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา เหนื่อยจริงๆ”
ทุกคนส่ายหน้า ไม่มีใครคิดว่าเจียงชื่อจะเอาชนะได้
ท่ามกลางแรงกดดันที่มากขนาดนี้ รถของเจียงชื่อและรถลัมโบร์กีนีของเฟิงเหนี่ยวจอดที่จุดเริ่มต้นไล่เลี่ยกัน
ทุกอย่างเตรียมพร้อม เริ่ม!
รถทั้งสองคันพุ่งตัวออกไปตามๆกัน
ด้านสมรรถนะของรถเจียงชื่อไม่สามารถเทียบกับอีกฝ่ายได้ ช้าตั้งแต่เริ่มต้น ช้าตลอด ช้าตลอดๆ ไม่มีทีท่าจะตามทัน
ครั้งนี้เฟิงเหนี่ยวไม่ได้ประมาท เขาไม่ได้ออมแรงแม้แต่น้อย เอาความสามารถทั้งหมดออกมาใช้ ขับรถด้วยความเร็วสูงสุดตั้งแต่เริ่มต้น
สามารถทำให้เกิดระยะห่างมากเท่าไหร่ ก็ทำให้เกิดระยะห่างมากเท่านั้น
เขาไม่เพียงแต่ต้องเอาชนะ แต่จะต้องชนะอย่างถึงที่สุดอีกด้วย ชนะจนทำให้คู่แข่งรู้สึกหมดหวัง
คนที่กล้าเอาชนะจู้หมิง เขาจะยอมปล่อยผ่านได้ยังไง?
มองดูรถลัมโบร์กีนีขับไกลออกไปเรื่อยๆ แทบจะไม่เห็นไฟท้ายรถแล้ว บรรดาผู้ชมต่างพากันหัวเราะด้วยความเย้ยหยัน
“เป็นไปตามที่ฉันคิดเอาไว้ ขยะอย่าง458 ความเร็วช้าเหมือนหอยทาก จะแข่งบ้าอะไรกัน?”
“ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว ทุกคนกลับบ้านไปนอนเถอะ”
สมรรถนะรถเทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้ อีกทั้งเฟิงเหนี่ยวยังเป็นถึงนักแข่งรถอันดับหนึ่ง มากไปกว่านั้นแข่งด้วยความจริงจังและมีสติครบถ้วน อยากจะเอาชนะท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ คนโง่เพ้อฝันจริงๆ
หยางเมิ่นหยุนมองหน้าจอขนาดใหญ่ เป็นกังวลเหมือนถูกแผดเผา
ทั้งสนามมีคนเดียวที่ไม่เป็นกังวล เขาคนนั้นก็คือจู้หมิง
เขาที่เคยเห็นฝีมือของเจียงชื่อ รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีวันประมาท ทางตรงในตอนแรก สำหรับลัมโบร์กีนีที่รถมีสมรรถนะ การที่เป็นฝ่ายนำคือเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว