จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 641 มีสิทธิ์ในการใช้งานเพิ่มขึ้นอีกสิทธิ์
บริษัทติงหรง อาคารสำนักงาน
ติงจ้งนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องทำงาน โซฟาด้านซ้ายของเขาคือติงเฟิงเฉิงกับติงจื่อยวี่ ด้านล่างมีเจียงชื่อ ติงเมิ่งเหยนยืนไว้
ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ชอบขี้หน้ากันและกัน ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว แต่เพราะเรื่องเขตสุสานที่วางแผน ทำให้พวกเขาต้องอยู่ภายในห้องเดียวกันอีกครั้ง
หลังจากฟังคำขอร้องของจิงเมิ่งเหยน ภายในใจของติงจ้งรู้สึกเย้ยหยัน
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เรื่องเล็กแค่นี้เขาตอบตกลงได้ทันที แต่พอเป็นเจียงชื่อ ไม่ได้เด็ดขาด
เขาถูกเจียวชื่อหลอกมาแล้วกี่ครั้ง?
ความแค้นในอดีตยังไม่ทันได้แก้แค้น เจียงชื่อยังมีหน้ามาขอสิทธิ์ในการใช้หลุมฝังศพหนึ่งผืน หึๆ เล่นตลกอะไรกัน?
ถ้ายอมยกให้เจียงชื่อจริงๆ ติงจ้งยังจะอยู่ในสังคมต่อไปไหม?
ติงเมิ่งเหยนเองก็รู้ดีว่าติงจ้งกำลังคิดอะไรอยู่ จึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน: “คุณปู่คะ หนูรู้ค่ะว่าก่อนหน้านี้คุณปู่กับเจียงชื่อมีเรื่องบาดหมางกันนิดหน่อย แต่คนตายสำคัญที่สุด การตายของคุณลุงเฉิง กระทบกระเทือนจิตใจเจียงชื่อมาก อยากให้คุณปู่เมตตา ทำให้ความปรารถนาเล็กๆ ของเจียงชื่อเป็นจริงได้ไหมคะ?”
“ควรยกเว้นความแค้นไม่ใช่พันผูกให้มากขึ้น อีกอย่าง เจียงชื่อก็เป็นหลานเขยของคุณปู่ อาศัยโอกาสนี้เพื่อปรับความสัมพันธ์ของทุกคนไม่ใช่เรื่องที่ดีเหรอคะ?”
ถึงแม้จะพูดถูก แต่ว่าคนฟังจะรับฟังหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ติงจ้งยังไม่ทันได้พูด ติงเฟิงเฉิงก็พูดขึ้นก่อน: “น้องสาม น้องพูดอะไร? ถ้าพวกน้องมาขอโทษจริงๆ ทำไมต้องมามือเปล่า? เห็นชัดว่าพวกน้องไม่มีความจริงใจ”
จิงจื่อยวี่พูดเสริม: “จริงด้วย ถอยหนึ่งก้าวแล้วมาพูดกัน สิทธิ์ในการใช้ก็ไม่ใช่ของพวกเรา เป็นสิทธิ์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง พวกน้องมาทำให้คุณปู่ลำบากใจถึงห้องทำงาน คิดจะทำอะไรกันแน่?”
เห็นได้ชัด อีกฝ่ายไม่คิดจะช่วยเจียงชื่อ
สีหน้าของติงเมิ่งเหยนไม่สู้ดีเท่าไหร่
เธอรู้ดี ถึงแม้สิทธิ์ในการใช้จะเป็นของกรมโยธาธิการและผังเมือง แต่สิทธิ์ในเขตสุสานที่วางแผน ยกให้บริษัทติงหรงแล้ว พวกเขาอยากจะให้ใครใช้ แค่บอกกับเบื้องบนก็พอแล้ว
ดังนั้น ขอแค่ติงจ้งพยักหน้า ก็ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย
แต่ถ้าติงจ้งไม่พยักหน้าตกลง นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว
ติงเมิ่งเหยนขอร้องอ้อนวอนอีกครั้ง: “คุณปู่คะ ก่อนหน้านี้เจียงชื่อจะทำความผิดมากแค่ไหน หนู’ขอโทษ’คุณปู่แทนเขาด้วยนะคะ ครั้งนี้คุณปู่ช่วยพวกเราได้ไหมคะ?”
ท่าทีอ่อนน้อมมากพอแล้ว
เจียงชื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ ปวดใจอย่างมาก ให้ผู้หญิงของตนเองขอร้องติงจ้งด้วยความอ่อนน้อมแบบนี้ เขารู้สึกเสียใจมาก
แต่สิ่งที่น่าตลกยิ่งกว่าก็คือ การอ้อนวอนไม่มีประโยชน์!
ติงจ้งหัวเราะในลำคอ มองเจียงชื่อคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “เจียงชื่อ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมช่วยแก แต่ว่าเรื่องก็เป็นอย่างที่จื่อยวี่บอก สิทธิ์ในการใช้เป็นของกรมโยธาธิการและผังเมือง ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ”
ติงเมิ่งเหยนรีบพูด: “ถ้าอย่างนั้นคุณปู่ก็ช่วยพวกเราพูดกับกรมโยธาธิการและผังเมืองหน่อยสิคะ ต้องการอะไรก็เสนอมาได้เลยค่ะ ต้องการเงินหรือว่าอะไร ก็ได้ทั้งนั้น”
เงิน?
นี่ไม่ใช่เรื่องของเงิน!
ติงจ้งครุ่นคิด ยิ้มร้ายกาจ: “ทำได้ทุกอย่างใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น เจียงชื่อ แกคุกเข่าตรงหน้าฉัน ขอโทษฉัน ฉันจะไปคุยกับหัวหน้ากรมโยธาธิการและผังเมือง ดูสิว่าจะให้สิทธิ์ในการใช้กับแกสักที่ได้ไหม”
พูดแบบนี้ แต่ความเป็นจริงติงจ้งไม่คิดจะช่วยเจียงชื่อ
เขาแค่อยากให้เจียงชื่อคุกเข่าคำนับให้ตนเท่านั้น
หลังจากคำนับแล้ว ติงจ้งก็ไม่คิดจะช่วย
เจียงชื่อที่เข้าใจโลกจะไม่รู้ได้ยังไง?
อีกอย่าง เข่าของผู้ชายมีค่าดั่งทอง เขาจะคุกเข่าให้ติงจ้งได้ยังไง?