จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 670 โครงการที่เป็นไปไม่ได้
หนิงคุนหัวเราะเบาๆ “คุณติงครับ กลอุบายของคุณนี่มันต่ำช้าจริงๆ หากผมช่วยคุณทำเรื่องนี้ ผมคงจะอายุสั้นแน่เลย ผมเป็นผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา บอกตามตรง แค่ผลประโยชน์ราคาต้นทุนอันน้อยนิดไม่เพียงพอที่จะให้ผมช่วยคุณจัดการเรื่องนี้หรอกครับ”
ศรัทธาในพระพุทธศาสนางั้นเหรอ?
ไร้สาระ! ติงจ้งรู้อย่างชัดเจนว่าราคาที่เขาให้ไปไม่เป็นไปตามความคาดหวังของอีกฝ่าย
ดังนั้น ติงจ้งจึงถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านประธานหนิงครับ คุณต้องการอะไรก็พูดมาตามตรงได้เลย เราร่วมมือกันมาหลายครั้งแล้วเราไม่ใช่คนนอก ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมหรอกครับ”
หนิงคุนยกนิ้วโป้งให้เขา “คุณติงช่างเป็นคนที่พูดจาตรงไปตรงมาจริงๆ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ผมต้องการหุ้นของโรงงานผลิตติงหรงของคุณ และผมไม่เอาฟรีๆ แน่นอน ผมจะเข้าซื้อหุ้น10% ของโรงงานผลิตติงหรงในราคาพันล้านหยวน นอกจากนี้แล้วผมจะไม่ซื้อสินค้าชุดนี้ในราคาต้นทุนแต่ผมจะซื้อในราคาเดิม”
“คุณ!!!”
ติงจ้งเริ่มรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อย แผนการของอีกฝ่ายช่างโหดเหี้ยมจริงๆ
“หนิงคุน คุณขอมากไปแล้วนะ”
“มากไปตรงไหน? เมื่อเทียบกับเหลี่ยมเล่ห์ของคุณติงแล้ว อย่างผมไม่ใช่อะไรเลย? ถ้าคุณไม่ยอมก็ไม่เป็นไร ผมจะถือว่าวันนี้เราไม่เคยได้พบปะกัน อ้อจริงสิ ผมจะกลับไปบอกให้ผู้จัดการแผนกของผมรับซื้อสินค้าจำนวนจากหลานสาวของคุณ”
มันคือการคุกคาม มันคือการคุกคามชัดๆ!
ตอนนี้ถึงตาของติงจ้งที่ต้องรู้สึกกระดากใจแล้ว
เขากัดฟันและจ้องไปที่ติงจื่อยวี่ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความคิดแย่ๆ ของเธอเพียงคนเดียว ทำให้เขาดูแย่ในสายตาของคนภายในและภายนอก
ติงจ้งกล่าวอย่างไม่มีทางเลือกว่า “ย่อมมีบุคคลที่มีความสามารถพิเศษปรากฏในทุกยุคทุกสมัย หนิงคุน คุณแน่มาก! เข้าซื้อหุ้น 10% ในราคาหนึ่งพันล้าน ตกลงตามนั้น! นอกจากนี้ผมจะขายสินค้าให้คุณในราคาเดิม”
หนิงคุน พยักหน้า “ไม่มีปัญหาครับ”
หลังจากที่ทั้งสองได้สรุปรายละเอียดแล้ว พวกเขาเซ็นสัญญาเชิงพาณิชย์ทันที และเรื่องนี้ก็ถือว่าตกลงเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนั้น หนิงคุนก็ออกจากตระกูลติง
ติงจ้งนั่งบนเก้าอี้ด้วยความไม่พอใจ “ไอ้หนิงคุนสารเลวเอีย บังอาจมาแอบแทงข้างหลังกู ไม่ช้าก็เร็ว กูจะฆ่ามัน!”
ติงจื่อยวี่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณปู่ค่ะ คุณจะโกรธทำไมค่ะ แม้ว่าเราจะแบ่งหุ้นส่วน 10% ให้กับหนิงคุน แต่เราก็ไม่ขาดทุนนี่นา”
“คุณปู่ลองคิดดูสิคะ อันดับแรก เราทำเงินได้พันล้าน ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก เกินมูลค่าหุ้น 10% นั้นไม่รู้ตั้งกี่เท่า นอกจากนี้ เรายังขายสินค้าจำนวนมากได้ในราคาเดิมอีกด้วย ซึ่งก็ทำเงินได้มากเช่นกัน ที่สำคัญคือ เรายังสามารถนำหุ้น 10% ของเมิ่งเหยนกลับคืนมาและขับไล่เธอออกไปได้ด้วย!”
“จากมุมมองโดยรวมแล้ว เท่ากับว่าเราโอนหุ้น 10% ของเมิ่งเหยนไปให้หนิงคุน จากนั้นเราก็ทำเงินได้เป็นพันล้าน แถมยังได้กำไรมหาศาลจากการขายสินค้าอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้นคือ เรายังสามารถขับไล่เมิ่งเหยนออกไปจากครอบครัวด้วย มีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น!”
หลังจากการวิเคราะห์ดังกล่าวแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ติงจ้งรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้สูญเสียอะไรเลย แต่กลับทำเงินได้พันล้านอย่างง่ายดายและยังสามารถขับไล่ติงเมิ่งเหยนออกไปอีกด้วย
อันที่จริง มันเทียบเท่ากับการขายหุ้น 10% ของติงเมิ่งเหยนทิ้งเท่านั้น
เมื่อคิดเช่นนี้ ติงจ้งก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ติงจื่อยวี่ยังคงเกลี้ยกล่อมต่อ “อีกอย่าง ในอนาคต เรายังมีโอกาสกู้คืนหุ้น 10% จากหนิงคุน ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกค่ะ”
“สิ่งที่เธอพูดมาก็สมเหตุสมผลดีเนาะ” ติงจ้งยิ้มอย่างเบิกบานใจ “จื่อยวี่เอ๊ย หัวสมองของเธอช่างฉลาดเสียจริง เธอไปเอาความคิดยอดเยี่ยมนี้มาจากไหนเนี่ย?”
สีหน้าของติงจื่อยวี่ตกตะลึงไปชั่วคราว แต่ไม่ช้าก็กลับมาสงบอีกครั้ง “คุณปู่ชมเกินไปแล้วค่ะ ฉันก็ไม่ได้ฉลาดอะไรหรอกค่ะ ฉันก็แค่อยากจะแบ่งเบาภาระของคุณปู่บ้างก็เท่านั้นเอง”
“ฮะๆ พูดได้ดีมาก”
เวลานี้ ติงจ้งไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาในเรื่องนี้เลย ยิ่งมองไม่เห็นออร่าสังหารที่รั่วไหลออกมาจากดวงตาของติงจื่อยวี่
ดูจากภายนอกแล้วเหมือนจะประนีประนอมอย่างมาก แต่จริงๆ แล้วมีเจตนาฆ่าแอบแฝงอยู่ในนั้น
แน่นอนว่า ความคิดนี้ไม่ใช่ความคิดของติงจื่อยวี่ แต่เป็นความคิดของพี่ชายเธอติงหงเหย้า
ติงจื่อยวี่จ้องไปที่ติงจ้ง และเยาะเย้ยในใจ: ไอ้แก่ ฉันจะปล่อยให้แกได้ใจไปก่อน สักวันหนึ่งฉันจะลากตัวแกลงมาจากตำแหน่งเจ้าบ้านให้ได้ และพี่ชายฉันควรได้นั่งตำแหน่งนี้!
ติงจ้งไม่รู้ถึงอันตรายรอบตัวเขาเลยแม้แต่น้อย และไอ้คนไร้สมองอย่างติงเฟิงเฉิงยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เวลานี้ติงเฟิงเฉิงยังคงจินตนาการถึงเรื่องที่เขาจะไปจีบสาวๆ ในค่ำคืนนี้อยู่ และไม่มีความคิดเห็นใดกับกลยุทธ์ของติงจื่อยวี่เลย และแม้ว่าเขาจะมีความคิดเห็นใดเขาก็ไม่สามารถคิดมากมายขนาดนั้นได้หรอก
ด้านนอกอาคารสำนักงาน
หนิงคุนเข้าไปในรถของเขาและสั่งให้คนขับออกไปทันที
จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาผู้จัดการแผนกเจี่ยงเหอหลง
“เหอหลง ธุระทางนี้จัดการเสร็จแล้ว นายเริ่มปฏิบัติการได้เลย”
“เข้าใจแล้วครับ ผมสั่งไวน์และอาหารเต็มโต๊ะแล้ว แค่ต้องรอให้ติงเมิ่งเหยนติดกับดัก!”
“อืม ระวังตัวด้วย”
“รับทราบครับ!”