จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 689 แผนที่เดินหน้าไปอีกขั้น
เรือนจำ ห้องเยี่ยมนักโทษ
สองพี่น้องติงจื่อยวี่กับติงหงเหย้ากำลังนั่งคุยกันผ่านโทรศัพท์ โดยมีกระจกคั่นอยู่ระหว่างกลาง
ติงจื่อยวี่ได้พูดไปก่อนสามพยางค์ว่า “ยินดีด้วย”
มุมปากของติงหงเหย้าได้ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ดูท่าเรื่องมันคงจะสำเร็จแล้วสินะ?”
“ใช่ค่ะ ไอ้แก่ติงจ้งนั่นมันโง่มาก จนถึงตอนนี้มันยังอยู่ในกะลาอยู่เลย และยังไม่ได้สงสัยอะไรในตัวฉันเลย ส่วนไอ้หน้าโง่ติงเฟิงเฉิงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย”
ติงผูกพันเหย้าพยักหน้า” จื่อยวี่ ข้อได้เปรียบที่สุดของเธอก็คือการได้รับความไว้วางใจจากพวกมันอย่างมาก เธอต้องใช้ความได้เปรียบนี้ ค่อยๆ เปลี่ยนความได้เปรียบของพวกมันให้มาเป็นของเรา
วิธีนี้ มันก็เป็นวิธีเดียวกับที่ติงหงเหย้าใช้กับติงจ้งเมื่อตอนนั้น
ติงหงเหย้าในตอนนั้นถือเป็นคนที่เก่งเกินกว่าใคร ได้ถูกคาดหวังเอาไว้มาก ถ้าแผนไม่ถูกเปิดโปงซะก่อน มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะสามารถถีบติงจ้งลงจากตำแหน่งอย่างลับๆ ได้
ในครั้งนี้มันก็แค่เปลี่ยนเป็นน้องสาวมาดำเนินตามแผนที่ยังไม่บรรลุของเขาเมื่อหลายปีก่อนเท่านั้น
“พี่คะ แผนต่อไปคืออะไรคะ?”
สายตาขอติงหงเหย้าเป็นประกาย “ก้าวต่อไป ก็คือคิวของติงเฟิงเฉิงแล้ว”
ทั้งสองพูดคุยถึงแผนการอย่างละเอียด ติงจื่อยวี่ยิ่งฟังยิ่งตื่นเต้น เธอไม่เคยรู้สึกว่าถูก ‘กรอกความรู้เข้าหัว’ เหมือนตอนนี้มาก่อนเลย สิ่งที่เธอคาดหวังนั้นเป็นจริง พี่ชายของเธอนั้นเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลกจริงๆ
“ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว พี่คะ พี่รอฉันก่อนนะคะ ฉันต้องทำให้ความต้องการของพี่เป็นจริงให้ได้”
“อืม”
ติงจื่อยวี่วางสาย หันหลังแล้วเดินจากไป
ติงหงเหย้ามองดูแผ่นหลังของน้องสาวที่เดินจากไป แล้วพูดกับตัวเองว่า “ติงจ้ง สิ่งที่แกเอาไปจากฉันเมื่อตอนนั้น ตอนนี้ฉันจะค่อยๆ แย่งมันกลับมา เทรนด์หลักมันสวนกันไม่ได้ แกแก่แล้ว ก็ควรลงจากตำแหน่งได้แล้ว!”
……
หมู่บ้านอพาร์ทเม้นหมิงเยี่ยนเลขที่33 วิลล่าหลงเดี่ยว
หลังจากที่เจียงชื่อจอดรถจนสนิทแล้ว เขาก็เดินเข้าประตูไป ก็เห็นพ่อตาติงฉี่ซานกับแม่ยายซูฉินได้เตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะแล้ว
ติงเมิ่งเหยนภรรยาของเขาก็พูดขึ้นว่า “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ? วันนี้พ่อเขาไม่ทำงาน เลยตั้งใจเตรียมอาหารไว้อย่างดีเลย รอแค่ให้คุณกลับมาลองชิมเท่านั้น รีบมาเถอะค่ะ”
“ครับ”
มีเพียงเวลาที่กลับถึงบ้านเท่านั้น เจียงชื่อจึงจะยิ้มออกมาได้อย่างจริงใจ
ในขณะที่กำลังเดินเข้าไป จู่ๆ ก็มีรถอีกคันขับมาจอดที่ลานหน้าบ้าน ชายหญิงคู่หนึ่งเดินลงจากรถ ซึ่งทั้งสองก็คือพี่สาวคนโตติงจื่อยวี่กับพี่รองติงเฟิงเฉิงนั่นเอง
พอเห็นสองคนนั้น ทุกคนในครอบครัวของติงเมิ่งเหยนก็รู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาทันที
ถึงแม้ทุกคนจะเป็นญาติกัน แต่ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกันคนที่เป็นศัตรูกัน ติงเมิ่งเหยนเคยถูกสองคนนี้ทำร้ายมานักต่อนักจนตอนนี้ก็แทบจะไม่ได้ทำงานที่บริษัทแล้ว
ความผูกพันทางเครือญาตินี้แทบไม่มีอยู่เลย
“สองคนนั้นมาที่นี่ทำไม?” ติงฉี่ซานไม่ชอบใจมาก
แม้แต่คนที่โอบอ้อมอารีอย่างซูฉินยังไม่อยากที่จะสนใจพวกนั้นเลย แต่ติงจื่อยวี่กับติงเฟิงเฉิงนั้นกลับทำตัวสนิทสนมพอเดินเข้าประตูมา ติงเฟิงเฉิงก็พูดอย่างร่าเริงว่า “ว้าว อาหารเต็มโต๊ะเลย อาสามครับ กับข้าวที่บ้านอานี่ใช้ได้เลยนะครับ”
ติงฉี่ซานมองบนใส่เขา “น่าแปลกจริงๆ ทำไมอยู่ๆ ถึงได้ยินเสียงหมาเห่านะ?”
บรรยากาศในบ้านรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
ถ้าเป็นเมื่อก่อนติงเฟิงเฉิงจะต้องด่าทอออกมาแล้ว แต่ติงเฟิงเฉิงในตอนนี้กลับดูปกติดี เกิดสีหน้าที่ไม่พอใจขึ้นแวบเดียว จากนั้นก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิม
“อาสามครับ อานี่ยังชอบพูดเล่นไม่เคยเปลี่ยนเลยนะครับ”
หืม?
ทุกคนในบ้านต่างก็แปลกใจ ผู้ชายที่นิสัยเสียคนนี้ ทำไมวันนี้ถึงเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยนะ?
สิ่งที่มันไม่ปกติมันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน
ถ้าไม่ใช่มาของร้องให้ช่วยทำอะไร ก็ต้องมีแผนร้ายอยุ่ในใจแน่นอน