จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 693 แบบนี้ก็ทิ้งลงด้วยเหรอ?
ติงเฟิงเฉิงพูดเยาะเย้ยออกมาเล็กน้อย “นี่น้องเล็ก ทำไมเธอถึงทำหน้าเสียดายขนาดนั้นล่ะ? ไหนให้ฉันดูไพ่หน่อยซิ”
เขายื่นไปหยิบไพ่ที่ทิ้งอยู่ในกองขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นห้าหกเจ็ด ติงเฟิงเฉิงกับคนอื่นที่อยู่ตรงนั้นต่างอึ้งไปตามๆ กัน
ติงเฟิงเฉิงพูดออกมาด้วยความตกใจว่า “นี่ ไพ่แบบนี้เธอทิ้งลงได้ยังไง?”
ติงเมิ่งเหยนก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี พูดตามตรง ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทิ้งไพ่แบบนี้เลย แต่เจียงชื่อบอกให้ทิ้ง เธอจึงต้องทิ้ง
ติงเฟิงเฉิงหันมองไปที่เจียงชื่อ “นี่น้องเขย ฉันละอยากถามนายจริงๆ เลย ว่านายเล่นไพ่สามใบเป็นมั้ย? นายรู้รึเปล่าว่าไพ่ชุดนี้มันใหญ่ขนาดไหน?”
เจียงชื่อตอบไปอย่างเรียบเฉยว่า “ตานี้มีคนที่มีไพ่ใหญ่กว่าไพ่ชุดนี้อีก มันชนะไม่ได้หรอก”
“โอ้ว นี่นายมีตาที่สามารถมองทะลุได้ด้วยเหรอ? ไม่อย่างนั้นจะรู้ได้ยังไงว่ามีคนที่ถือไพ่ที่เหนือกว่าแบบนี้?”
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่”
“หึ เจียงชื่อ ความขี้โม้ของนายนี่มันร้ายกาจจริงๆ ”
ติงเฟิงเฉิงยกมือขึ้นมาดูไพ่ของตัวเอง kสองใบกับเก้าหนึ่งใบ เป็นไพ่ที่ไม่ได้ดีไม่ได้แย่
เขาแอบเก็บไพ่เอาไว้ “ฉันน่ะ ไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนใครบางคน ตานี้ฉันต้องชนะแน่นอน ตาแรก ยังไม่ต้องเยอะ ลงไปก่อนสองแสนให้ตกใจเล่น”
“ยอม”
“ยอม”
“ตาม สี่แสน”
มีคนตาม ติงเฟิงเฉิงเลียริมฝีปาก “ไอ้ผมแดง นี่คุณยังกล้าตามไพ่ของผมด้วยเหรอ?”
ไอ้ผมแดงยิ้ม “ไพ่ของผมมันใหญ่ใช่เล่นเลย ไม่แน่มันอาจจะชนะคุณก็ได้”
“ฮึๆ ลองดูแล้วกัน” ติงเฟิงเฉิงโยนเหรียญลงไปหนึ่งล้าน “ตาม หนึ่งล้าน!”
ไอ้ผมแดงไม่แม้แต่จะกะพริบตา “ตาม ล้านสอง”
เจียงชื่อพูดเตือนสติว่า “ติงเฟิงเฉิง ยอมแพ้เถอะครับ”
“หุบปาก!”
บนโต๊ะไพ่ สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดก็คือคำว่า ‘ยอม’ นี่แหละ ทำเอาเสียกำลังใจหมด
ติงเฟิงเฉิงกัดฟันแน่น “สองล้านสี่ สองเท่า เปิดไพ่!”
ไอ้ผมแดงเปิดไพ่ในมือออก สอง j kโพแดงทึบ หรือก็คือฟลัชนั่นเอง และยังเรียกว่า ฟลัชอีกด้วย
ติงเฟิงเฉิงถึงกับอึ้งไปเลย kสองใบในมือเขาจะไปชนะฟลัชของคนอื่นได้ยังไง? ตานี้เขาถือว่าแพ้อย่างราบคาบ
“เยี่ยมเลยไอ้หนู ดวงในการเล่นไพ่ถือว่าดีใช้ได้เลย”
ติงเฟิงเฉิงได้โยนไพ่เข้าไปในกองที่ทิ้งแล้ว ตาเดียวก็เสียไปสามล้านหกถ้าแพ้สักเจ็ดแปดตา เขาคงเสียจนไม่เหลือแน่
มาถึงก็อกสั่นขวัญหายเลย
“คุณชายติง เกรงใจเกินไปแล้ว” ไอ้ผมแดงเก็บเหรียญชิปไปด้วยความดีอกดีใจ
ติงเฟิงเฉิงถลึงตาใส่เจียงชื่ออย่างไม่ชอบใจ ในใจรู้สึกไม่ชอบใจ และยังมีรู้สึกเสียใจนิดๆ ถ้าเมื่อกี้ยอมฟังที่เจียงชื่อพูด ก็คงไม่ต้องเสียมากขนาดนี้แล้ว
ในทางกลับกัน ติงเมิ่งเหยนกลับโล่งอกไปที “ยังดีที่ฉันทิ้งไพ่ เลยเสียแค่เงินกองกลาง ไม่อย่างนั้นตานี้สองล้านของฉันก็คงจะรักษาไว้ไม่ได้”
ตาที่สอง ดำเนินต่อไป
พนักงานแจกไพ่หยิบไพ่สำรับใหม่ออกมา แล้วล้างไพ่ต่อหน้าทุกคน จากนั้นก็แจกไพ่ไปทีละใบละใบ
ครั้งนี้ติงเฟิงเฉิงได้มองไปที่เจียงชื่อ แล้วถามไปอย่างกวนๆ ว่า “นี่เทพแห่งการคำนวณ ไหนนายลองพูดมาสิว่าตานี้ใครจะเป็นผู้ชนะ?”
เจียงชื่อตอบอย่างเรียบเฉยว่า “ตานี้ เมิ่งเหยนต้องชนะแน่นอน”
“โอ้ว ครั้งนี้ไม่ทิ้งไพ่แล้วเหรอ?”
“ในเมื่อสามารถชนะได้ แล้วจะทิ้งไพ่ไปทำไมล่ะครับ?”
“นายพูดเองนะ ห้ามมาเปลี่ยนใจกลางคันเด็ดขาดเลยนะ”
ติงเฟิงเฉิงไม่แม้แต่จะดูไพ่ ก็ตามไปเลยสองแสน ติงเมิ่งเหยนที่กำลังจะดูไพ่ กลับถูกเจียงชื่อห้ามเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องดู ตามไปเลยครับ”
ถ้ายังไม่ดูไพ่ก็สามารถตามได้เลย แต่ถ้าดูแล้ว อย่างน้อยก็ต้องตามสองเท่า
ติงเมิ่งเหยนเลือกที่จะเชื่อใจเจียงชื่อ ตามไปสองแสน
“พวกคุณไม่แม้แต่จะดูไพ่ เดี๋ยวผมดูเอง” ไอ้ผมแดงมองไปทีหนึ่ง “โอ้ว ดีที่ฉันดูไพ่ก่อน ไพ่ในมือใหญ่สุดก็แค่เก้ายอม”
“ผมเองก็ยอม”
“ยอม”