จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 697 จำนองหุ้นทั้งหมด
ยังจะแลกอีกเหรอ?
ทุกคนในห้องต่างก็ช็อกไปตามๆ กัน
โดยเฉพาะติงเมิ่งเหยน วันนี้เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเอาเงิน เธอมาที่นี่เพราะพี่ชายกับพี่สาว แต่พอได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันก็ค่อนข้างจะแตกต่างจากสิ่งที่คิดแล้ว
ติงเมิ่งเหยนพูดห้ามไปว่า “พี่รองคะ ช่างมันเถอะค่ะ ไม่ต้องแลกแล้ว พี่ว่าเอาแบบนี้ดีมั้ย? ฉันจะคืนเงินทั้งหมดที่เล่นได้ให้พี่ไป โดยที่ไม่เอาแม้แต่นิดเดียว”
“ฮึๆ นี่เธอกำลังสงสารใคร?”
” ฉันเหมือนคนที่ต้องให้เธอมาสงสารรึไง?”
“หลีกไป!”
หวังดีกลายเป็นประสงค์ร้าย ความหวังดีที่ติงเมิ่งเหยนมีให้ กลับถูกติงเฟิงเฉิงมองข้ามไป
ไม่นาน ผู้บริหารของเมืองเล่น——พี่ไห่ก็ได้เดินเข้ามา มือข้างหนึ่งของเขาถือไวน์แดงมาด้วยแก้วหนึ่ง และถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายติง คุณเรียกหาผมเหรอครับ?”
” ถูกต้อง ผมจะเอาหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของบริษัทมาจำนองกับคุณ เพื่อขอแลกเป็นเงินเพื่อเล่นไพ่ต่อ”
“คุณชายติง คุณคิดดีแล้วนะ”
” แน่นอน”
“งั้นก็ได้ ผมสามารถจำนองให้คุณได้ห้าร้อยล้าน”
ห้าร้อยล้าน?
ติงเฟิงเฉิงรู้สึกไม่ชอบใจแล้ว “นี่ พี่ไห่ แบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ คุณเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหุ้นของบริษัทเรานั้นมีมูลค่าแค่ไหน ก่อนหน้านี้หนิงคุนของบริษัทหงหยุ่นต้องใช้เงินกว่าพันล้านถึงจะสามารถซื้อหุ้นของเราได้สิบเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้คุณกลับจะใช้เงินแค่ห้ารอยล้านมาแลกกับหุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของผมเนี่ยนะ?”
พี่ไห่หรี่ตาแล้วพูดไปว่า “ที่นี่คือเมืองเล่น ไม่ใช่ตลาด ผมไม่ทำการค้าขาย ห้าร้อยล้าน คุณชายติง คุณจะชอบหรือไม่ก็แล้วแต่ ถ้าไม่ได้จริงๆ คุณก็สามารถไปหาหนิงคุนแล้วขายหุ้นของคุณให้เขาก็ได้นี่”
ไปหาหนิงคุณอย่างนั้นเหรอ?
จะไปมีเวลามากขนาดนั้นได้ไงเล่า! ตอนนี้ติงเฟิงเฉิงคันไม้คันมือจะแย่อยู่แล้ว อยากได้เงินคืนตั้งแต่ตอนนี้เลย
“ได้ๆๆ ห้าร้อยล้านก็ห้าร้อยล้าน ตกลงตามนี้”
“แลกเหรียญมาให้คุณชายติง”
ไม่นาน เหรียญชิปมากมายก็ถูกเบิกมา เป็นจำนวนห้าร้อยล้านพอดี
ติงเฟิงเฉิงพูดไปยิ้มไปว่า “พวกแกทุกคนห้ามใครหนีแม้แต่คนเดียว ได้เงินฉันไปแล้วอย่าคิดหนี กติกาเดิม ถ้าไม่ชนะฉันจนหมดตัว ก็ต้องให้ฉันถอนทุนคืนให้ได้!”
“เพียงแต่ ไพ่สามใบนี่เล่นไม่ได้แล้ว เราเปลี่ยนไปเล่นแบบอื่นกัน”
ทุกคนต่างหันมาสบตากัน
เคยเห็นคนที่บ้าพนันมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเจอใครที่บ้าได้ขนาดนี้มาก่อน
ติงเฟิงเฉิงในตอนนี้หน้ามืดตามัวไปหมดแล้ว แถมยังไม่ยอมฟังที่คนอื่นห้าม ไม่เพียงเท่านั้น ติงจื่อยวี่ที่อยู่ข้างๆ ยังมาราดน้ำมันใส่อีก บอกว่าจะต้องเอาคืนกลับมาได้แน่
ดูผิวเผินอาจจะเป็นการให้กำลังใจติงเฟิงเฉิง แต่ความจริงแล้วมันมีแต่จะทำให้ติงเฟิงเฉิงเสียสติยิ่งกว่าเดิม
“มา เรามาทอยเต๋ากัน!”
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ติงเฟิงเฉิงได้พาทุกคนไปเล่นรูปแบบการพนันที่มีอยู่บนชั้นสองจนครบ
ตั้งแต่ทอยลูกเต๋าไปจนถึงเล่นไพ่นกกระจอก ต่อด้วยโต้วตี้จู่แล้วไปบาคะร่าหรือแม้แต่แข่งกันใหญ่โดยไพ่เดี่ยวก็ยังเล่น
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปเล่นอะไร ก็ยังแพ้ทุกอย่าง
เล่นอะไรก็แพ้ไปหมด คนอื่นๆ ยังมีได้มีเสีย พอดูรวมๆ แล้ว คืนนี้มันเหมือนกับวันที่แปลกประหลาด นอกจากติงเฟิงเฉิงแล้ว คนอื่นๆ ก็ได้กันหมด
บางคนได้มาก บางคนได้น้อย มันต่างกันแค่นี้
แต่ในส่วนของติงเฟิงเฉิงนั้น ในเวลาหนึ่งชั่วโมงเขาก็เล่นจนเงินกว่าห้าร้อยล้านหมดจนไม่เหลือแม้แต่แดงเดียว หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ที่เอาไปจำนอง เอากลับมาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ในเวลากลางดึก ลมหนาวจากข้างนอกก็พัดเข้ามาจากทางหน้าต่าง ติงเฟิงเฉิงสะดุ้งไปทีหนึ่ง หัวสมองที่ร้อนผ่าวถึงได้เย็นลงมาบ้าง
“ฉัน……แพ้หมดเลยเหรอ?”
ติงจื่อยวี่ในตอนนี้ยังเดินเข้ามาให้กำลังใจว่า “นี่เฟิงเฉิง อย่าคิดมากไปเลย เงินทองมันเป็นแค่ของนอกกาย……”
ติงเฟิงเฉิงฟังที่ติงจื่อยวี่พูดไม่รู้เรื่องแล้ว
ตอนนี้ในหัวของเขา มันเละเป็นโจ๊กไปแล้ว
แล้วที่คุยกันว่าคืนนี้จะช่วยกันเล่นงานติงเมิ่งเหยนล่ะ? แล้วที่บอกว่าจะแย่งหุ้นของติงเมิ่งเหยนมาล่ะ? แต่พอมารู้ตัวอีกที ทำไมหุ้นของตัวเขาถึงแพ้จนไม่เหลือหลอเลยล่ะ?