จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 707 เสว่เจวี๋ย
แม้ว่าคนจะน้อยกว่าเมื่อเทียบเป็นจำนวนคน ทว่าหัวล้านหลงก็ไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย
โบกมือขึ้นครั้งเดียว กลุ่มของหัวล้านหลงก็พร้อมในเวลาเดียวกัน
“ลุย!”
ขณะที่ทั้งสองกลุ่มกำลังจะปะทะกัน ทันในนั้นเอง ก็มีกลุ่มคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาในสนามด้วย ทุกคนล้วนใส่เสื้อหนังแบบคาวบอย เจาะหู ดูแล้วพังก์มาก
“โย่ โย่ โย่ พี่หลง พี่ตะบอง ทำไมถึงมาตีกันเองได้ล่ะ?”
คนที่มาครั้งนี้ ก็เป็นกลุ่มนักเลงหัวไม้กลุ่มเล็ก ๆแถวๆนี้เช่นกัน
หัวหน้ากลุ่มมีฉายาว่า “เสว่เจวี๋ย”
หัวล้านหลงขมวดคิ้ว คนมาคิดไม่ดีถ้าคิดดีก็คงไม่มา ดูจากการตีกันแบบนี้ เสว่เจวี๋ยเองก็คงมาร่วมชิงตัวด้วย
ที่แท้ก็เป็นความจริง
เสว่เจวี๋ยล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วก็เริ่มเดิน “ทุกคนก็เป็นพี่น้องกันหมด ทะเลาะกันทำไม? พี่หลง ผมได้ยินเรื่องมาแล้ว ปล่อยพวกเขาไปเถอะ ทำไมต้องเล่นกันให้ตายด้วย ไม่เหมาะสมเลยว่าไหม?”
ไอหัวตะบอง เสว่เจวี๋ย ทั้งสองคนนี้ต่างก็ไร้ความเมตตา
พวกเขาทั้งหมดล้วนพาคนมาด้วย ถ้าหากแข็งข้อ หัวล้านหลงก็ไม่มีทางชนะ
หรือว่าจะต้องปล่อยจูหยุนเฉียงกับเหยียนไคเหวินไปจริง ๆ ?
หัวล้านหลงกำมัดแน่นพร้อมกับคำราม “สองคนนี้ต้องถูกพาตัวกลับไปจริง ๆ พวกนายอย่าทำให้เป็นปัญหาเลย พวกนายช่วยทั้งสองคนนี้ไม่ได้หรอก เรื่องราวมันเป็นปัญหามากพอแล้ว แม้กระทั่งพวกนายทั้งสองก็อาจจะโดนกำจัดด้วยซ้ำ”
“กำจัดฉัน?” เสว่เจวี๋ยหัวเราะ “พี่หลง นายวางใจเถอะ เสว่เจวี๋ยไม่ถูกฆ่าง่ายๆอย่างนั้นหรอก วันนี้ไม่ว่าจะพูดยังไงฉันก็ต้องช่วยชีวิตจูหยุนเฉียงให้ได้ พี่หลง ยอมแพ้เถอะ”
ดูจากสถานการณ์แล้วน่าจะไม่มีช่องทางให้พลิกกลับได้
ในช่วงเวลาที่ถึงทางตัน พวกคนบนถนนก็ฆ่าพวกเขาทีละคน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนสิบกว่าคนมาจากทั้งข้างหน้าและข้างหลังถนน เพิ่มขึ้นรวมๆแล้วสองสามร้อยคน
การต่อสู้ขนาดใหญ่แบบนี้ แม้ว่าหัวล้านหลงจะพยายามเอาคนออกไปอย่างไรแต่มันก็ไม่สามารถเป็นไปได้
“น่ารังเกียจ!”
หัวล้านหลงเหงื่อตก วันนี้ถ้าเขาเอาคนออกไปไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้เจียงชื่อจะว่าอย่างไรเมื่อเขากลับไป
จูหยุนเฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้ามีเงินก็ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ หัวล้านหลง นายยอมแพ้เถอะ วันนี้ฉันยังถูกเอาตัวไปไม่ได้ พวกคุณสิบคนจะสู้กับคนสามร้อยคนไหวเหรอ? หนึ่งต่อสามสิบงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า”
เขายิ้มอย่างจองหอง ท่าทางวันนี้คงไม่ตายแน่ๆ
ไม่รอให้มีความสุขนาน เรื่องราวต่างๆมันก็เปลี่ยนไป
ครืนๆ
ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับเกิดแผ่นดินไหว
“เกิดอะไรขึ้น?”
“แผ่นดินไหว?”
“พวกเราอยู่บนที่ราบ แผ่นดินไหวกับผีสิ”
ตอนนี้ทั้งสามร้อยกว่าคนมองไปรอบๆ เห็นเพียงชิ้นส่วนดำทะมึนจากระยะไกล ตอนแรกก็ยังมองไม่ชัด ทว่ารอจนสิ่งนั้นเข้ามาใกล้ถึงได้เห็นว่ามันเป็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังมา
คนเหล่านี้สวมชุดสีดำเหมือนกัน แต่ละคนติดดอกไม้อยู่ไว้
ลักษณะแบบนั้นเหมือนจะไปร่วมงานศพ
แต่ที่น่ากลัวที่สุด มีร่องรอยของการล้างบาปจากสงครามอยู่บนใบหน้าของคนพวกนั้น ร่างกายให้อารมณ์เฉพาะตัวของทหาร แน่วแน่และกระหายเลือด
เมื่อตัวช่วยกลุ่มนี้มา พวกของเสว่เจวี๋ยและหัวตะบองก็ดูไม่เพียงพอไปเลย
เหมือนช้างกับมด
พวกอันธพาลตัวน้อยไม่มีทางได้อยู่บนเวที พวกเขาดูอ่อนแอเมื่อเทียบกับทหารที่เจนสนามรบตรงหน้าเหล่านี้