จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 715 การประชุมสิทธิในหุ้นครั้งใหญ่
เวลาผ่านไปเร็วมาก แค่พริบตาเดียววันประชุมสิทธิในหุ้นครั้งใหญ่ของตระกูลติงก็ได้มาถึง
วันนี้คนของตระกูลติงทั้งหมดต่างก็มาร่วมประชุม
ไม่ใช่แค่คนที่มีหุ้นในครอบครองอย่างพวกติงจื่อยวี่ แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลติงมานานแล้วอย่างติงฉี่ซานก็มาเข้าร่วมประชุมสิทธิในหุ้นครั้งใหญ่นี้ด้วย
ในห้องประชุมขนาดใหญ่เก้าอี้กว่ากี่สิบตัว แต่ละคนก็นั่งชิดกันและกันจนเต็มทั้งห้องประชุม
บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด
ดูเผิน ๆ นี่ก็เป็นพิธีธรรมดา ๆ ของตระกูลพิธีหนึ่งเป็นพิธีที่แต่ละปีจะต้องจัดขึ้นหนึ่งครั้งจัดขึ้นให้พอเป็นพิธีแต่ความเป็นจริงแล้วคลื่นใต้น้ำแห่งนี้กำลังโหมกระหน่ำ
ติงฉี่ซานอ้าปากหาวแล้วพึมพำว่า:“จัดประชุมสิทธิในหุ้นครั้งใหญ่บ้าบออะไรกัน ไม่ใช่ว่าจะแบ่งสิทธิในหุ้นให้ฉันสักหน่อย ตำแหน่งเจ้าบ้านก็ไม่ยอมให้ฉัน เชอะ แค่ทำไปพอเป็นพิธีเท่านั้นไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรเลย?”
ติงจ้งที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะประชุมถลึงตาใส่ติงฉี่ซานอย่างไม่ค่อยพอใจ
“เงียบ!”
ติงจ้งตะโกนเสียงดังลั่นคนทั้งหอประชุมต่างก็พากันหุบปาก หอประชุมที่แต่เดิมเสียงดังเอะอะก็เงียบลงในชั่วพริบตาเดียว
เขามองไปรอบ ๆ พูดด้วยเสียงดังกังวานว่า “วันนี้เป็นวันประชุมสิทธิในหุ้นครั้งใหญ่ที่จะจัดขึ้นปีละครั้งของตระกูลติงของพวกเรา เหมือนอย่างทุกทีพวกเรา……”
ติงจ้งกล่าวเป็นชุดใหญ่ทุก ๆ คนต่างก็มองไปด้วยแววตาที่ว่างเปล่า
น่าเบื่อมาก
คำพูดพวกนี้ทุกปีต้องพูดสักครั้งสุดท้ายแล้วก็ไม่จุดไหนที่เปลี่ยนไปเลยสักนิด?
หลังจากพูดไปได้ 20 นาทีก็มาถึงประเด็นสำคัญแล้ว——การเปลี่ยนเจ้าบ้าน
ติงจ้งกระแอมเพื่อเป็นการเตือนทุกคนว่าควรตั้งใจฟังได้แล้ว
เขาถามไปว่า:“เรื่องที่สำคัญอันดับแรกของการประชุมครั้งใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงสิทธิในหุ้นในวันนี้ก็เกี่ยวกับการเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าบ้านของตระกูลติง ไม่แน่ใจว่าพนักงานของตระกูลติงทุกคนที่มีสิทธิในหุ้นอยู่จะสนับสนุนให้ฉันดำรงตำแหน่งต่อไหมหรือว่าจะเลือกให้คนอื่นมารับตำแหน่งเจ้าบ้านแทน?”
“ทุกคนสามารถพูดได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น”
ทุกคนต่างมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรเลย
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปดูเหมือนว่าตำแหน่งเจ้าบ้านในปีนี้ก็คงไม่เปลี่ยนแปลง
ติงฉี่ซานหัวเราะ “ให้ผมพูดอะไรละ?มีบ้าอะไรเปลี่ยนไปด้วยเหรอ? คุณปู่ท่านก็อายุมากขนาดนั้นแล้ว ยังจะรับตำแหน่งบ้าบออะไรอยู่ไม่ละอายหน่อยเหรอ?”
ติงเมิ่งเหยนดึงแขนเสื้อของติงฉี่ซาน “พ่อ พูดให้มันน้อย ๆ หน่อย”
ติงจ้งขมวดคิ้วถลึงตาใส่ติงฉี่ซาน “เจ้าสาม แกมีความเห็นอะไรก็พูดให้ชัดเจนอย่าทำเหมือนกับว่ามีอะไรอัดอั้นตันใจไปหน่อยเลย”
ติงฉี่ซานยักไหล่ “ผมพูดอะไรได้บ้างละ? ถ้าผมบอกไปว่าให้ผมได้รับตำแหน่งเจ้าบ้านได้ไหมล่ะ ท่านจะให้ผมพูดเหรอ?”
ติงจ้งหัวเราะเยาะ
แค่สิทธิในหุ้นสักหุ้นแกยังไม่มีเลย ยังอยากจะเป็นเจ้าบ้าน?
ติงจ้งพูดอย่างใจเย็นว่า “พูดได้สิตราบใดที่แกสามารถเกลี้ยกล่อมผู้มีสิทธิในหุ้นของตระกูลติงให้สนับสนุนแกได้ จะให้แกรับตำแหน่งเจ้าบ้านก็ย่อมได้ ฉันเองก็คัดค้านไม่ได้หรอก”
ติงฉี่ซานมองบนใส่เขาทีนึง “พูดอะไรไร้สาระไปได้ มีคนสนับสนุนผมสิแปลก”
ติงจ้งตัดสินใจไม่พูดเรื่อยเปื่อยกับเขาอีกต่อไปแต่กลับมองไปที่คนอื่น ๆ แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “มีใครมีความคิดเห็นอื่นอีกไหม?”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน
จะไปมีความเห็นอื่นได้ยังไง?
ปัจจุบันผู้ถือหุ้นมากที่สุดก็คือติงจ้ง รองลงมาก็คือติงเฟิงเฉิง ถ้าติงจ้งไม่ดำรงตำแหน่งต่อก็ส่งต่อตำแหน่งให้ติงเฟิงเฉิง อย่างไรก็ตามติงเฟิงเฉิงก็เป็นคนที่ติงจ้งแต่งตั้งให้เป็นผู้รับช่วงต่อในอนาคต
แต่สำหรับตอนนี้ติงเฟิงเฉิงที่งี่เง่าแบบนั้นจะมาชี้นำตระกูลติงได้ยังไงกัน?
เพราะฉะนั้นการที่ติงจ้งได้รับตำแหน่งต่อไปนั้นเป็นเรื่องที่รู้กันดีอยู่แล้ว
พอเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรติงจ้งก็พยักหน้า“อืมดูเหมือนว่าไม่มีความคิดเห็นอะไรแล้วละนะ”
พูดไม่ทันขาดคำติงจื่อยวี่ยกมือขึ้น“คุณปู่ ฉันมีอะไรจะพูดสักหน่อย”
“หืม?”