จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 716 ชายคนนั้นกลับมาแล้ว
ติงจ้งอึ้งไปพักหนึ่ง เด็กผู้หญิงคนนี้ออกตัวมาอย่างถูกจังหวะเพื่อจะพูดอะไรกัน?
แต่เนื่องจากติงจื่อยวี่ตลอดทั้งปีมานี้ก็ได้ช่วยตัวเองคิดแผนการต่าง ๆและเป็นพรรคพวกเดียวกันกับตัวเองติงจ้งเลยไม่ได้สงสัยอะไร
เขาถามไปงั้น ๆ ว่า “จื่อยวี่ เธออยากจะพูดอะไร?”
นี่จะว่าไปแล้วก็พอเอาเรื่องอยู่ ติงจื่อยวี่ได้แสดงตนข่มขู่ติงจ้งโดยทันที
เธอยิ้มออกมาอย่างประหลาด
“คุณปู่ ฉันคิดว่าท่านอายุมากเกินไปแล้วค่ะถึงแม้ว่าสติสัมปชัญญะของท่านยังดีอยู่แต่ว่าร่างกายคงยากที่จะไปต่อแล้วยิ่งไปกว่านั้นหลาย ๆ ความคิดของท่านก็ตามไม่ทันยุคสมัยแล้วละ”
“ทุกวันนี้ที่ตระกูลติงถดถอยลงเรื่อย ๆ นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วละ”
“ดังนั้นส่วนตัวฉันคิดว่าถ้าควรสละตำแหน่งก็ควรสละตำแหน่งซะให้คนที่ร่างกายแข็งแรงกว่า แนวคิดทันสมัยกว่ามารับช่วงต่อถึงจะเป็นการกระทำที่ชาญฉลาดและยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตระกูลติงของพวกเราด้วย”
ทันทีที่พูดเสร็จ ทั่วสารทิศต่างก็พากันตกตะลึง!
ทุกคนในห้องต่างก็พากันทำหน้าตะลึง ขนาดติงฉี่ซานที่เอ้อระเหยลอยชายอยู่ ก็ใจเย็นไม่อยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ที่เขาพูดว่าอยากเป็นเจ้าบ้านเขาก็แค่เล่น ๆ เท่านั้น
แต่ติงจื่อยวี่นั้นไม่เหมือนกัน
เธอไม่ได้ก่อเรื่องเล่น ๆ เธอเอาจริง!
ติงฉี่ซานหัวเราะ“โห จื่อยวี่เธอไม่ได้เป็นพวกเดียวกันกับคุณปู่หรอกเหรอ?ทำไมถึงมาเลื่อยขาเก้าอี้คุณปู่ละ?”
ติงจื่อยวี่ยิ้มย่อง “อาสามฉันไม่ได้เป็นพวกเดียวกับใครทั้งนั้น แล้วก็ไม่ได้จะเลื่อยขาเก้าอี้คุณปู่ด้วยก็แค่พิจารณาไปตามสภาพความเป็นจริง แล้วคำนึงถึงอนาคตของตระกูลติงด้วย”
พูดได้อย่างสง่าผ่าเผยมาก
ติงจ้งโกรธจนหน้าเขียว ทำไมเขาถึงไม่คาดคิดว่าติงจื่อยวี่ที่ตลอดมาถูกตัวเองใช้เป็นเบี้ยต้องมีสักวันที่จะออกตัวมาพูดแบบนี้กับตัวเองโดยไม่ทันได้คาดคิด
เธอจะโต้ตอบหรือ?!
“จื่อยวี่ที่เธอพูดมีเหตุผลกี่อย่างละ”
“ถ้างั้นคุณปู่ฉันอยากฟังดูสักหน่อย ท่านแนะนำให้ฉันยกตำแหน่งให้คนที่มีความสามารถงั้นฉันควรจะยกตำแหน่งให้ใครกันล่ะ?”
ตอนที่พูดประโยคนี้แววตาของติงจ้งกำลังมองไปที่ติงเฟิงเฉิง
ในมุมของติงจ้งแล้ว ต้องเป็นเพราะติงเฟิงเฉิงกับติงจื่อยวี่สมรู้ร่วมคิดกันมาแล้วแน่ ๆ ในการช่วงชิงตำแหน่งก็มีแต่ติงเฟิงเฉิงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการสืบทอด
อย่างไรก็ตามติงเฟิงเฉิงเองก็ทำหน้ามึนงง เขาเองก็ไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไรได้แต่ส่ายหัวไปมา
“คุณปู่ไม่เกี่ยวกับผมนะครับ”
ติงจ้งถอนหายใจหันกลับไปมองติงจื่อยวี่ใหม่อีกครั้ง
ถ้าไม่ใช่ติงเฟิงเฉิงแล้วจะเป็นใครกัน? ยังเป็นใครกัน?
ติงจื่อยวี่จะมารับช่วงต่องั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้เธอเป็นแค่ผู้หญิงเองแท้ ๆ ตระกูลติงไม่ยอมที่จะให้ผู้หญิงมาเป็นอย่างแน่นอน
แต่ผู้ชายในหมู่คนรุ่นหลังก็มีแค่……
เจียงชื่อ?
ติงจ้งส่ายหัวอีกครั้งเป็นไปไม่ได้แน่นอน เจียงชื่อคือคนนอกและไม่ถูกกับติงจื่อยวี่ราวกับน้ำกับไฟเป็นไปไม่ได้ว่าจะเสนอเจียงชื่อให้มารับช่วงเจ้าบ้านต่อได้
งั้นจะใครอีกละ?
ติงจ้งจ้องไปที่ติงจื่อยวี่รอฟังคำตอบของเธอ
ใบหน้าของติงจื่อยวี่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม มองไปที่ประตูของห้องประชุมต่อหน้าทุกคน ในน้ำเสียงมีความตื่นเต้นเล็กน้อย
“พี่ชายถึงเวลาที่พี่ออกโรงแล้ว”
พี่ชาย?
พี่ชายของติงจื่อยวี่?
ชั่วครู่เดียวใบหน้าของติงจ้งกลายเป็นตื่นตกใจ ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว เขารู้แล้วว่าเป้าหมายของติงจื่อยวี่คืออะไร รู้แล้วว่าคนที่เธอจะเสนอคือใคร
ประตูของห้องประชุมเปิดออก แววตาของทุกคนมองออกไปอย่างพร้อมเพรียง
แค่เพียงเห็นชายที่ดูมืดมนเล็กน้อยในชุดสูทและรองเท้าหนังกำลังก้าวเท้าเข้ามา ขณะเดียวกันนั้น ตระกูลติงทุกคนต่างก็ประหลาดใจจนอ้าปากค้างติงจ้งที่ยิ่งประหลาดใจจนต้องลุกขึ้นมา
กลับมาแล้ว
ชายคนที่ทำให้ติงจ้งฝันร้ายอยู่ทุกคืนได้กลับมาแล้ว
“ติง……หงเหย้า?”
“ใช่ครับคุณปู่ผมกลับมาแล้ว”
ติงหงเหย้ายืนอย่างภาคภูมิใจต่อหน้าทุกคน สายตาอันเย็นชาจ้องไปที่ติงจ้งราวกับผู้ที่เหลือบมองลงไปเบื้องล่างด้วยท่าทีโอหัง