จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 719 ชิงตระกูลติงกลับคืน
ตระกูลติง ห้องโถงบรรพบุรุษ
ติงจ้งราวกับว่าเป็นเด็กนักเรียนที่ทำความผิดเช่นนั้น คุกเข่าอยู่หน้าป้ายบรรพบุรุษ โศกเศร้าเหงาหงอย
เขาเอาทั้งชีวิตอุทิศให้กับตระกูลติง ต้องการพัฒนาตระกูลติง แต่ว่าที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ แก่ชราแล้ว แก่ชราแล้ว ทั้งยังถูกหลานชายแท้ๆวางแผนใส่อีกด้วย
หลานชายคนหนึ่งไม่ซื่อสัตย์ หลานชายอีกคนเป็นโคลนเหลวใช้การไม่ได้
ตระกูลติง ต้องจบสิ้น
ติงจ้งคุกเข่าสารภาพบาป ย้อนคิดถึงการกระทำทั้งหมดในชีวิตนี้ ทั้งเสียใจทั้งจนปัญญา
ตึกๆ เสียงฝีเท้าดังขึ้นติดกัน
ติงเมิ่งเหยนและเจียงชื่อเดินเข้ามา
“คุณปู่ นี่ไม่ใช่ความผิดของท่านเลย ไม่ต้องทำเช่นนี้ให้ลำบากตนเอง” ติงเมิ่งเหยนเอ่ย
“เหอะๆ”
ติงจ้งถอนหายใจยาว เขาพูดช้าๆว่า “เมิ่งเหยนเอ๊ย จริงๆแล้วปู่ไม่ได้โง่ ตลอดมาฉันล้วนรู้ดี เธอเป็นเด็กสาวที่บริสุทธิ์จิตใจดีคนหนึ่ง”
“ปู่ลงมือกับเธออย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า เธอกลับอดทนแล้วก็อดทน ถ้าเปลี่ยนเป็นติงหงเหย้า ติงจื่อยวี่ ไม่รู้ว่าจะทำร้ายฉันจนตายไปกี่ครั้งแล้ว”
ติงเมิ่งเหยนขบริมฝีปาก ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ติงจ้งเอ่ยต่อไป “ที่จริงแล้วฉันโกรธเคืองเธอ หลักๆก็เป็นเพราะว่าเธอลังเลไม่ยินยอมที่จะมอบหุ้น10% ออกมา ความสามารถของเจียงชื่อนั้นไกลเกินกว่าเจ้าสวะติงเฟิงเฉิงนั่น ฉันกังวลใจจริงๆว่าสักวัน พวกเธอจะใช้หุ้น 10% นี้เพื่อใช้มันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางของตนเอง ให้เจียงชื่อมาเป็นเจ้าบ้านของตระกูลติงเรา”
“เช่นนั้นล่ะก็ ตระกูลติงของพวกเราก็จบสิ้นจริงๆแล้ว ทรัพย์สินครอบครัวที่สืบทอดมาร้อยปีจะต้องถูกส่งต่อให้ผู้อื่น”
“แต่ว่าใครจะคาดคิด ป้องกันไปมา หลังบ้านไฟไหม้ ติงจื่อยวี่หญิงสารเลวคนนั้นชิงที่จะลงมือก่อนแล้ว! ทำให้คนโมโห ทำให้คนโมโหจริงๆ”
ติงเมิ่งเหยนถอนหายใจ
“คุณปู่ ฉันและเจียงชื่อไม่เคยคิดมุ่งหวังต่อตำแหน่งเจ้าบ้านนี้เลย”
“ไม่มีหรือ? เหอะๆ ใครจะรู้เล่า ตอนนี้พูดสิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เจ้าบ้านเป็นติงหงเหย้าคนนั้นแล้ว”
น้ำเสียงของติงจ้งโศกเศร้ามาก
เห็นเขาเป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน เห็นท่าทางเช่นนี้ของคุณปู่ ในใจของติงเมิ่งเหยนก็ทุกข์ใจไม่ต่างกัน
แต่เธอก็ช่วยอะไรไม่ได้
เธอในตอนนี้ ไม่เพียงแค่ไม่มีหุ้น10% สุดท้าย ทั้งยังลาออกจากตำแหน่งรองประธานกรรมการของตระกูลติง พูดได้ว่า นอกจากความสัมพันธ์สายเลือด เธอและตระกูลติงก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอื่นใดอีก
คิดอยากจะช่วยแต่ก็ช่วยไม่ได้
มีใจแต่ไร้กำลัง
เห็นติงเมิ่งเหยนโศกเศร้าทุกข์ใจเช่นนี้ เจียงชื่อที่นิ่งเงียบมานานในที่สุดก็เปิดปากเอ่ยว่า “เมิ่งเหยน คุณอยากชิงตระกูลติงกลับคืนมาไหม?”
หืม?
ติงเมิ่งเหยนและติงจ้งมีชีวิตชีวาขึ้นมาในเวลาเดียวกัน พากันมองไปทางเจียงชื่อ
“ต้องการไหม?” เจียงชื่อถามขึ้นอีกครั้ง
ติงเมิ่งเหยนยิ้มขมขื่น “ฉันอยากแล้วมีประโยชน์หรือ?”
“ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถช่วยเธอชิงกลับคืนมา”
“ที่รัก คุณอย่าล้อเล่นเลย”
“ผม เคยล้อเล่นกับคุณหรือ?”
อารมณ์ที่แสดงออกของติงเมิ่งเหยนเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา ใช่แล้ว ขอเพียงเป็นเรื่องที่เจียงชื่อเคยพูดไว้ ก็จะต้องทำได้สำเร็จ
ไม่เคยผิดสัญญา
แต่ว่าคำพูดครั้งนี้อาจจะพูดเกินไปสักหน่อย ชิงตระกูลติงกลับคืน? เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยนะ!
“เมิ่งเหยน คุณยังเชื่อผมอยู่ไหม?”
ติงเมิ่งเหยนไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี พูดตามตรง ในใจของเธอไม่เชื่อเป็นพันเป็นหมื่น เรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ เปลี่ยนเป็นใครก็ไม่มีทางเชื่อ
แต่…..
จากความเชื่อใจ ติงเมิ่งเหยนยังคงพยักหน้าเอ่ยว่า “ได้ ฉันเชื่อคุณ!”
ติงจ้งที่คุกเข่าอยู่ด้านนั้นหัวเราะเสียงดัง “เจียงชื่อเอ๊ยเจียงชื่อ นายก็ไม่กลัวว่าพูดยิ่งใหญ่เกินจริงทำไม่ได้ อวดตัวเองโดยไม่นึกถึงผลลัพธ์ นายคิดว่านายเป็นใครกัน? ชิงตระกูลติงกลับมา นายเอาอะไรมาชิง?”
ไม่ทิ้งไมตรีจิตให้สักนิด