จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 751 ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ
ฉีเจิ้นกับเจียงชื่อล้วนหวังดีทั้งนั้น แต่น่าเสียดาย ที่ในสายตาของหยวนหยาเหว่ยกลับไม่คิดอย่างนั้น
เขาคิดว่า นี่เป็นการเหยียดหยามเขา
เขาเหมือนหมาจนตรอกตัวหนึ่ง ที่ต้องพึ่งพาคนอื่นถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
น่าอับอาย
น่าอับอายสิ้นดี!
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ฉีเจิ้นได้เสนอขึ้นมาว่า “หมอเทวดาเจียงทำให้ผมเซอร์ไพรส์มากจริงๆ พอดีทางนี้มีตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อว่างอยู่ ผมคิดว่าจะให้หมอเทวดาเจียงมาทำแล้วกัน”
นี่……
หยวนหยาเหว่ยทั้งร้อนใจทั้งโมโห
ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อว่างมาตลอดก็จริง นั่นเป็นเพราะหยวนหยาเหว่ยทำตำแหน่งนี้ควบคู่ไปด้วยมาตลอด
ต้องบอกว่า ในทุกๆ บริษัท ฝ่ายจัดซื้อเป็นแผนกที่หาเงินได้มากที่สุดแผนกหนึ่ง
ในแผนกนี้มีช่องทางให้กอบโกยมากมาย
หลายปีมานี้ หยวนหยาเหว่ยอาศัยตำแหน่งนี้กอบโกยเงินได้ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
ตอนนี้จะเอาตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อให้เจียงชื่อ ก็เท่ากับตัดเนื้อเขา!
เขาอยากต่อต้าน แต่จะเอ่ยปากยังไงล่ะ?
ไม่มีทางพูดได้เลย
วันนี้ท่าทีของเขาและเจียงชื่อต่างอยู่ในสายตาของฉีเจิ้น ซึ่งเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจียงชื่ออยู่ในบอร์ดบริหารด้วย อีกทั้งถือหุ้นอยู่ 30% ให้ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเขาไปก็ไม่มากมายอะไรเลย
หยวนหยาเหว่ยไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก แต่จะพูดอะไรได้ล่ะ?
ความคับแค้นใจนี้ไม่อยากทนก็ต้องทน
เขาจ้องเขม็งเจียงชื่อ ในใจได้หั่นเจียงชื่อเป็นพันๆ ครั้งแล้ว แต่สีหน้ายังคงฝืนยิ้มออกมา แล้วพูดอย่างฝืนใจว่า “ยินดีกับหมอเทวดาเจียงด้วยนะครับ ตอนนี้น่าจะเรียกคุรว่าผู้จัดการเจียงถึงจะถูก”
เจียงชื่อเพียงแค่ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เขาเข้าใจความโกรธที่อยู่ในใจของหยวนหยาเหว่ยดี
ใครได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ต่างนั่งไม่เป็นสุขทั้งนั้น เพราะตำแหน่งนี้จะกลายเป็นตำแหน่งที่หยวนหยาเหว่ยคอยจ้องเล่นงานแน่นอน
แต่เจียงชื่อไม่สนใจ
ผู้จัดการบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง ถ้าเจียงชื่อทำไม่ได้ จะต่อกรกับพวกยอดฝีมืออย่างเหวยซือและติงหงเหย้าได้ยังไงล่ะ?
ดังนั้น ระหว่างที่พูดคุยกัน เรื่องนี้ก็ได้ตกลงกันตามนี้
ทั้งสามคนไม่ได้เดินเล่นกันต่อ เลือกที่จะกลับกันทันที
เพราะไม่ได้ไปทางเดียวกัน เจียงชื่อจึงเรียกแท็กซี่มาคันหนึ่งเพื่อนั่งกลับบ้าน
ระหว่างทาง เจียงชื่อมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่นั่งผ่าน ในใจก็ครุ่นคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ มีเรื่องทุกข์เรื่องเศร้า
ตระกูลติงเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ต้องเผชิญหน้ากับคนประหลาดอย่างติงหงเหย้า
ฉีเจิ้นต้องการขยายกิจการมาที่เขตเจียงหนาน แต่ถูกศัตรูโจมตีทั้งด้านหน้าด้านหลัง ไหนจะต้องเผชิญกับศัตรูภายนอกอย่างเหวยซือ ไหนจะต้องรับมือกับคนในอย่างหยวนหยาเหว่ย
พูดได้ว่า ความท้าทายที่รอเจียงชื่ออยู่นั้นมีเยอะมาก
จัดการได้ยากจริงๆ
ถ้าเป็นคนทั่วไป คงหัวหมุนเพราะสถานการณ์วุ่นวายแบบนี้ไปนานแล้ว ถึงขั้นอาจหลบหนีเลยด้วยซ้ำ
แต่เจียงชื่อต่างออกไป
เขาเกิดมาเพื่อสถานการณ์ที่ยิ่งใหญ่
ศัตรูยิ่งแข็งแกร่ง ก็ยิ่งกระตุ้นความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะต่อสู้ของเขามากขึ้น
“ติงหงเหย้า เหวยซือ หยวนหยาเหว่ย”
“เหอะเหอะ ฉันรอพวกแกอยู่!”
รถวิ่งเข้ามาซอย แล้วค่อยๆ ลดความเร็วลง คนขับรถผิวปากพลางหมุนพวงมาลัยรถไปพลาง
ขับได้ไม่นาน ก็เห็นข้างทางมีรถยนต์คันเล็กหนึ่งคันกับรถมอเตอร์ไซค์อีกสองสามคันจอดอยู่
รถยนต์คันเล็กนั้นถูกรถมอเตอร์ไซค์ขวางทางอยู่
ตอนที่รถแท็กซี่ขับผ่าน เจียงชื่อรู้สึกได้ว่า ในรถยนต์คันเล็กนั้นมีผู้หญิงหนึ่งคนกับเด็กหนึ่งคนนั่งอยู่ เหมือนกับว่า……ถูกควบคุมอยู่
หืม?
เจียงชื่อขมวดคิ้ว รู้สึกว่าผิดปกติ
เป็นอย่างที่คิดไว้ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นร้องตะโกนมาทางเขา “ช่วยด้วย~~”
ผู้ชายที่อยู่บนรถรีบเอามือปิดปากผู้หญิงคนนั้นทันที
“ผิดปกติแล้ว คุณครับ จอดรถ”
คนขับรถเห็นว่าผิดปกติเหมือนกัน จึงค่อยๆ จอดรถ แล้วหันกลับไปมอง เห็นชายร่างกำยำห้าหกคนอยู่ด้านหลัง
คนขับรถพูดว่า “อย่าไปยุ่งเรื่องพวกนี้เลย คนพวกนั้นดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี อย่าเอาตัวพวกเราเข้าไปเกี่ยวด้วยเลย”
เจียงชื่อไม่ได้ฟังเลยสักนิด เขาผลักประตูลงจากรถไปทันที
คนขับรถด่าออกมาคำหนึ่ง “งี่เง่า” แล้วขับรถหนีทันที ไม่กล้าอยู่ต่อ คนที่ขับรถยามค่ำคืนเป็นประจำอย่างเขารู้ดีว่าคนประเภทนี้จะไปมีเรื่องด้วยไม่ได้เด็ดขาด
เจียงชื่อเดินไปทางชายร่างกำยำพวกนั้น คนพวกนั้นมองเห็นเจียงชื่อแล้วเหมือนกัน
ไม่รอให้เจียงชื่อเข้ามาใกล้ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปขวางเจียงชื่อเอาไว้
เขาจงใจหยิบมีดด้ามเล็กๆ ออกมาตวัดไปมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่ใช่เรื่องของแก ไสหัวไปซะ”
ถึงแม้เสียงจะเบา แต่ทุกคำนั้นชัดเจน
ในค่ำคืนที่หนาวเหน็บเช่นนี้ ถูกนักเลงคนหนึ่งกวัดแกว่งมีดสั้นข่มขู่ ด้านหลังยังมีชายร่างกำยำอีกสี่ห้าคน หากเป็นคนทั่วไปไม่มีทางอยู่ต่อไปได้แน่นอน
แต่เจียงชื่อจะเป็นคนทั่วไปได้ยังไงล่ะ?
เขาเอ่ยถามอย่างสงบนิ่งมาก “ฉันเหมือนได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือจากในรถ”
ผู้ชายคนนั้นมองเจียงชื่ออย่างเย็นชา “แกตั้งใจหาเรื่องใช่ไหม?”
เจียงชื่อยิ้ม “ถ้าใช่แล้วยังไงล่ะ?”
“รนหาที่ตาย!”
ผู้ชายคนนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลง ยกแขนขึ้นมา ฟาดไปที่หัวใจของเจียงชื่อ ลงมือโหดเหี้ยมและรวดเร็ว ความใกล้ระดับนี้ และความเร็วขนาดนี้ คนปกติไม่มีทางหลบได้ทันแน่นอน
แต่เจียงชื่อกลับเหมือนปีศาจไม่มีผิด ไม่เห็นท่าทางใดๆ แต่กลับหลบมีดสั้นของอีกฝ่ายได้อย่างสบายๆ จากนั้นยื่นมือคว้าคอผู้ชายคนนั้นจากด้านหลัง
“แกใจร้อนเกินไปแล้ว สงบสติหน่อยสิ”
เมื่อสิ้นเสียง เจียงชื่อได้ออกแรงกดผู้ชายคนนั้นลงไปที่พื้น จนหน้าแนบชิดติดกับพื้น แล้วหมดสติไปทันที
ทักษะของเจียงชื่อดึงดูดความสนใจจากคนอื่นๆ ที่เหลือ
พวกเขาค่อยๆ หยิบอาวุธเดินเข้ามา
เจียงชื่อเดินเข้าไปหาโดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
หนึ่ง สอง สาม
สามวินาที ชายร่างกำยำทั้งห้าคนล้มลงไปนอนกับพื้น หมดสติกันหมด