จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 754 ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก
“คุณติง พวกเราได้รับแจ้งว่า บริษัทของคุณเป็นที่ต้องสงสัยในการหลบเลี่ยงภาษี ทำบัญชีปลอม ตอนนี้รบกวนคุณให้ความร่วมมือด้วยครับ เปิดประตูห้องการเงินด้วย ให้พวกเราตรวจสอบสมุดบัญชี”
ติงเฟิงเฉิงสับสนงุนงงทันที
บริษัทเป็นบริษัทที่ไม่ได้ดำเนินกิจการอะไร ถึงแม้จะมีการเดินบัญชีบ่อยครั้ง แต่ก็เป็นบัญชีที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะเป็นที่ต้องสงสัยว่าหลีกเลี่ยงภาษีได้ยังไงกัน? ยิ่งบัญชีปลอมยิ่งไม่มีทางทำ
เขาอยากถามอีกหลายคำถาม แต่ทางติงจื่อยวี่ได้พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าตกตะลึง “ไอหยา น้องสอง แกทำอะไรเนี่ย? ฉันเตือนแกกี่ครั้งแล้ว แล้วต้องซื่อสัตย์จริงใจ ทำไมถึงได้ทำเรื่องผิดกฎหมายเสียล่ะ?”
“แกทำอย่างนี้ บริษัทติงเหอไม่แย่เอาเหรอ?”
ได้ยินคำพูดของเธอ ก็รู้ได้ว่ามาแสดงความดีใจที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์
ติงจื่อยวี่แทบอยากให้บริษัทติงเหอล้มไปซะ ใครให้ติงเฟิงเฉิงมาแย่งโครงการของเธอไปล่ะ?
ตำรวจพูดต่อไปว่า “คุณติงครับ รบกวนคุณให้ความร่วมมือในการตรวจสอบตอนนี้ด้วย!”
น้ำเสียงเคร่งขรึมมาก
ติงเฟิงเฉิงไม่กล้าประมาท ล้วงเอากุญแจขึ้นมาหนึ่งดอก “พวกคุณตามผมมาครับ”
เขาพาตำรวจเดินไปยังห้องฝ่ายการเงินที่อยู่สุดทางเดิน แล้วไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป
ตอนนี้ เจียงชื่อที่อยู่ด้านหลังกำลังมองจ้าวซานเหออยู่ เขาเอ่ยถามด้วยท่าทีเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “คุณลุงจ้าว ทำไมตัวคุณถึงเหงื่อออกเยอะขนาดนั้นล่ะครับ?”
จ้าวซานเหอกลืนน้ำลายลงคอ “เปล่าครับ แค่ร้อนนิดหน่อยเท่านั้น”
“ร้อนนิดหน่อย? อ้อ จริงสิ คุณลุงจ้าว ปกติเวลานี้ภรรยาของคุณจะมารับคุณเลิกงานใช่ไหม? ทำไมวันนี้ยังไม่มาล่ะ?”
ได้ยินคำว่า “ภรรยา” สองคำนี้ จ้าวซานเหอก็รู้สึกไม่สบายใจ
“วันนี้เธอมีธุระกะทันหันน่ะครับ อีกสักพักคงจะมา”
เจียงชื่อแสยะยิ้ม “คุณลุงจ้าว บางครั้งบางสถานการณ์ ถึงแม้จะยอมให้อภัยกันได้ แต่ก็ไม่สามารถทำผิดร้ายแรงแบบนี้ได้นะ”
“คุณหมายความว่ายังไงครับ?”
“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกเลยพูดออกมา”
พูดจบ เจียงชื่อได้เดินไปยังห้องฝ่ายการเงิน
จ้าวซานเหอมองตามหลังเขาไป รู้สึกว่าเจียงชื่อเหมือนจะรู้อะไรมา แต่ก็บอกไม่ถูกว่าเจียงชื่อรู้อะไรมากันแน่ จึงสงสัยเป็นอย่างมาก
เขาจึงเดินตามไปด้วย
ทุกคนยืนมองอยู่ที่หน้าประตูห้องการเงิน
ติงเฟิงเฉิงหยิบเอาสมุดบัญชีเล่มหนึ่งขึ้นมาให้ตำรวจตรวจดู ตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดหนึ่งรอบ พบว่าไม่มีปัญหาอะไร
ทันใดนั้น ตำรวจอีกคนเห็นสมุดบัญชีอีกเล่มหนึ่งวางอยู่ที่มุมโต๊ะ
“นั่นคืออะไร?”
ติงเฟิงเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “อ้อ นั่นเป็นงานอดิเรกส่วนตัวน่ะครับ ไม่มีอะไร”
“งานอดิเรกส่วนตัว? ให้พวกเราดูหน่อย”
“อย่าดูเลยครับ จะเสียสายตาคุณตำรวจกันเปล่าๆ”
“อย่าพูดไร้สาระอยู่! ติงเฟิงเฉิง ถ้าหากคุณไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอีกครั้ง พวกเราจะพาตัวคุณไปทันที”
“อย่าสิครับ ผมยอมร่วมมือก็ได้”
ติงเฟิงเฉิงหยิบเอาสมุดที่ดูเหมือนสมุดบัญชีอีกเล่มยื่นให้ตำรวจอย่างไม่เต็มใจ
จ้าวซานเหอที่อยู่หน้าประตูวิตกกังวลเป็นอย่างมาก
เขารู้ดีว่า นั่นเป็นสมุดบัญชีปลอม ถ้าตำรวจเห็นต้องพาตัวติงเฟิงเฉิงไปแน่ๆ บริษัทติงเหอจบสิ้นแล้ว
จบแล้ว จบสิ้นหมดแล้ว
ติงจื่อยวี่รู้ว่าต้องเกิดเรื่องแน่นอน จึงหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “เฟิงเฉิง คิดไม่ถึงเลยว่านายจะมีนิสัยชอบทำบัญชีเอาไว้สองเล่ม? สมุดบัญชีอีกเล่มเอาไว้จดอะไรเหรอ? ให้พวกเราดูหน่อยสิ”
ขณะที่มีเสียงพูดคุยกันไปมา ตำรวจก็ได้เปิดสมุดบัญชีเล่มนั้นดู
เมื่อเปิดดู ตำรวจก็งงตาแตกเลยทีเดียว
นี่ไม่ใช่สมุดบัญชีอีกเล่ม ด้านในไม่มีการจดบันทึกตัวเลขใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นหนังสือการ์ตูนอนิเมะ 18+ เห็นแล้วเลือดสูบฉีดเลยทีเดียว
ตำรวจหน้าแดง สงบจิตสงบใจเปิดดูจนหมดหนึ่งรอบ และตรวจสอบดูตามช่องว่างอีกหนึ่งรอบ
ไม่พบการจดบันทึกตัวเลขใดๆ ทั้งสิ้น
นี่ นี่ไม่ใช่สมุดบัญชีปลอม
ตำรวจปิดสมุดลง แล้วจ้องติงเฟิงเฉิง “เป็นงานอดิเรกส่วนตัวจริงๆ ด้วยนะ”
ติงเฟิงเฉิงยักไหล่ “ก็แค่ของชอบนิดหน่อยเองครับ ผมไม่ได้เอาไปเผยแพร่ ไม่ผิดกฎหมายหรอกมั้ง?”
“ไม่ผิดกฎหมาย แต่ของลามกสกปรกแบบนี้คุณก็ไม่ควรเก็บไว้ พวกเราจะเอากลับไป”
“เฮ้ อย่าทำแบบนี้สิ ผมเก็บสะสมมานานมากเลยนะ”
สถานการณ์พลิกผันขนาดนี้ทำให้จ้าวซานเหอกับติงจื่อยวี่สีหน้าสับสนทันที ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิดไว้สักเท่าไหร่
ทำไมถึงไม่ใช่สมุดบัญชีปลอม แต่เป็นหนังสืออนิเมะ 18+ แทนล่ะ?
หรือว่าติงหงเหย้าหยิบผิด?
เป็นไปไม่ได้ ติงหงเหย้าเป็นคนเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น ไม่น่าจะทำเรื่องผิดพลาดอย่างนี้ได้ คิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้
หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ
ตำรวจคนหนึ่งก็เอ่ยว่า “ดูท่าทางครั้งนี้เป็นการแจ้งความเท็จ พวกเราจะตรวจสอบคนแจ้งความ ว่าเป็นการใส่ร้ายหรือเปล่า”
ติงเฟิงเฉิงพยักหน้าหงึกๆ “คุณลุงตำรวจต้องจัดการให้ผมด้วยนะครับ”
“วางใจเถอะ ถ้าหากคุณไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ ทางตำรวจไม่มีทางปรักปรำคุณหรอก กลับกันเถอะ!”
หลังจากตำรวจตรวจสอบเสร็จ ก็พากันกลับไป
วิกฤตที่ถาโถมใส่ติงเฟิงเฉิงกับบริษัทติงเหอ ในขณะที่ได้รับผลกระทบ จู่ๆ ไม่รู้ทำไมถึงคลี่คลายไปซะได้
สุดท้ายกลายเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกเลย