จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 875 กินยาผิด
ทังเจียเหวินเชื่อใจสือควนเสียขนาดนั้น กระทั่งถึงขั้นว่านับถือจนบ้าคลั่ง ทว่าไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคนที่เขาเชื่อใจจะกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายเขาได้
ทำไมกันนะ?
ทำเช่นนี้มันเกิดผลดีอะไรกับเขาหรือ?
ทังเจียเหวินยกมือที่สั่นเทาขึ้นมา “รีบไปห้องกระจายเสียง ใช้เสียงผ่านลำโพงแจ้งอาจารย์และนักศึกษาทุกคน หยุดกินยาที่สือควนให้ไว้”
แม้ว่าคนส่วนมากจะกินยาไปแล้ว ทว่าอย่างน้อยก็อาจจะห้ามได้บ้าง
หวังว่าสายประกาศนี้จะสามารถช่วยเหลือคนได้บ้างนะ
ทั้งอาจารย์รวมถึงประธานสภานักเรียนออกจากห้องทำงาน รีบไปจัดแจงเรื่องห้องกระจายเสียงทันที
ทังเจียเหวินทั้งนึกย้อนเสียใจและทั้งโมโห สือควนจะหลอกเขาได้อย่างไร?
ไม่ได้ โมโหนี้อดไม่ไหวแล้ว!
เขาหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา โทรหาสือควนทันที ผลปรากฏว่ากลับต้องเก้อไป ได้ยินเป็นเสียงดังขึ้นมาว่า: ขออภัยค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
ปิดเครื่องอย่างนั้นหรือ?
“บ้าชิบ!!!”
ทังเจียเหวินโยนโทรศัพท์ลงพื้นอย่างโมโห กัดฟันกรอดด่าคำหยาบถึงสือควนยกใหญ่
ขณะนี้เอง หัวหน้ากิจการนักเรียนเดินเข้ามา เอ่ยด้วยความตื่นตระหนก: “อธิการบดีคะ เรื่องมันฮือฮาใหญ่แล้วค่ะ ตอนนี้ทั้งผู้ปกครองของนักศึกษาต่างก็รู้เรื่องนี้หมดแล้ว ใกล้จะแตกตื่นกันหมดแล้วค่ะ”
ทังเจียเหวินกลุ้มใจจนไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว
ผู้ปกครองของนักเรียนยังจะมาก่อเรื่องตอนนี้อีก เขาจะอธิบายกับทุกคนอย่างไรได้?
ทังเจียเหวินเอ่ยอย่างดุดัน: “แจ้งความเดี๋ยวนี้ ไปจับไอ้สือควนที่ขายยาปลอมนั่นมาเดี๋ยวนี้!”
หัวหน้ากิจการนักเรียนเอ่ย: “ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เขาให้ยาฟรีๆ ไม่ได้ขายยา อีกอย่าง ต่อให้จับเขามา พวกเราก็ผ่านพ้นไปไม่ได้อยู่ดี”
จริงด้วย ต่อให้จะดำเนินการทางกฎหมายกับสือควน แล้วผู้ปกครองจะให้อภัยความผิดพลาดจากทางมหาวิทยาลัยได้หรือ?
ไม่มีทางเด็ดขาด
ถ้าหากเรื่องนี้จัดการไม่ดี ผู้อำนวยการทังเจียเหวินนี้ต้องปลดจากตำแแหน่งแน่นอน ไม่แน่อาจจะต้องรับผิดชอบทางอาญาด้วย
เขาตบโต๊ะไม่หยุด
“เอาแบบนี้นะ คุณไปแจ้งความก่อน ให้ทางตำรวจไปจับตัวสือควน”
“แล้วคุณก็บอกกับเหล่าบรรดาผู้ปกครองว่า เงินค่ารักษานักศึกษาทางมหาลัยจะเป็นคนจ่ายเอง”
นี่เป็นสิ่งเดียวที่ ทังเจียเหวิน สามารถทำได้ในตอนนี้
ตอนนี้เจาทำได้เพียงหวังว่านักศึกษาจะไม่เป็นอะไรมาก ถ้าการจ่ายเงินสามารถทำให้รักษานักศึกษาจนหายดีได้ละก็ เช่นนั้นจ่ายสักหน่อยก็ต้องยอม
ถึงอย่างไรปัญหาที่สามารถใช้เงินแก้ไขได้นั้น ก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
หัวหน้ากิจการนักเรียนพยักหน้า พร้อมเดินออกไป
ทังเจียเหวินกระวนกระวายอยู่ในห้องทำงาน ตอนนี้เขานึกเสียใจมากที่ตนเองไปเชื่อในคำพูดของสือควน ทำไมต้องเชื่อใจเขาขนาดนั้น
ทันใดนั้นทังเจียเหวินก็นึกถึงเจียงชื่อขึ้นมาได้
คำพูดที่เจียงชื่อพูดเหล่านั้นในงานประชุมล้วนเป็นเรื่องจริง ผลลัพธ์คืออะไรล่ะ? ทังเจียเหวินไม่เพียงแต่ไม่ฟังความเห็นของเขา แถมยังดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง ขับไล่เขาออกไปอีกด้วย
เพียะ!
ทังเจียเหวินตบเข้าใบหน้าของตัวเองอย่างจัง “นี่ฉันทำเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย?”
หากเลือกเชื่อเจียงชื่อ ต่อให้เชื่อสักครึ่งหนึ่ง ก็คงไม่ต้องมามีจุดจบอย่างเช่นตอนนี้
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
หัวหน้ากิจการนักเรียนมายังห้องทำงานอีกครั้ง สีหน้าวิตกกังวล มองดูก็รู้ทันทีว่าไม่ใช่มีเรื่องดีเกิดขึ้นแน่นอน
ทังเจียเหวินเอ่ยถาม: “เป็นยังไงบ้าง? จับไอ้สือควนนั่นได้ยัง? สถานการณ์เหล่านักศึกษาเป็นยังไงบ้าง?”
หัวหน้ากิจการนักเรียนถอนหายใจ “ฉันไปแจ้งความแล้วค่ะ ทางตำรวจก็เร่งดำเนินการทันที แต่เห็นได้ชัดว่าสือควนได้เตรียมพร้อมล่วงหน้าตั้งนานแล้ว เขาบอกว่าแม้ยาเหล่านี้เขาจะเป็นคนวิจัย แต่เขาไม่ได้เป็นคนผลิตขึ้นเอง เขาส่งต่อให้บริษัทผลิตยาอีกแห่งเป็นผู้ผลิต”
“ตอนนี้ตรวจสอบเหตุผล เป็นเพราะบริษัทผลิตยานั่นแอบลดวัตถุดิบ ทำให้ตัวยาเกิดปัญหาขึ้น”
“หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ สือควนเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังทำอะไรเขาไม่ได้ตอนนี้”
ทังเจียเหวินได้ยินแล้วก็อยากจะด่าทอ
นี่เห็นชัดๆ ว่าได้หาแพะรับบาป! บริษัทผลิตยาแอบลดวัตถุดิบอะไรกัน นั่นมันเป็นเรื่องที่เตรียมไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ก็เพื่อไว้รับหน้ากับทางตำรวจ
“ทางตำรวจเลยปล่อยไปอย่างนั้นเหรอ?”
“ทางตำรวจกำลังตรวจสอบ แต่แน่นอนว่ายังทำอะไรสือควนไม่ได้ในตอนนี้ค่ะ”
ทังเจียเหวินสีหน้าเต็มไปด้วยความขมขื่น การตรวจสอบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องตรวจนานแค่ไหน ต่อให้เมื่อถึงเวลาจะตรวจสอบแล้วได้ผลออกมาแล้ว คงเกรงว่าสือควนคงใช้วิธีการต่างๆ ในการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ แล้วหนีออกจากประเทศไปแน่นอน
“ไอ้คนสารเลว!”
สิ่งเดียวที่ทังเจียเหวินคิดไม่ตกนั่นคือ ทำไมสือควนต้องทำกับเขาแบบนี้?
ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด
เรื่องเหล่านี้มันไม่สำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือสถานการณ์สุขภาพของนักศึกษา ทังเจียเหวินสอบถามว่า: “ถ้างั้นตอนนี้เหล่านักศึกษาเป็นยังไงบ้าง?”
หัวหน้ากิจการนักเรียนสีหน้าหนักอึ้งเข้าไปใหญ่
“ไม่ดีค่ะ”
“ไม่ดีงั้นเหรอ?”
“ค่ะ นักศึกษาต่างก็อยู่ในโรงพยาบาล ร่างกายย่ำแย่สุดๆ หลายคนที่ยังไม่พ้นขีดอันตราย ที่น่ากลัวที่สุดคือ ยานี้ยังออกฤทธิ์อยู่ในร่างกายของนักเรียนอยู่จนถึงตอนนี้ ทำให้อาการหนักขึ้น ภายในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้ ทางหมอเองก็ยากที่จะหาวิธีรับมือได้เหมือนกัน”
รอจนหมอหาวิธีรับมือเจอ เกรงว่านักศึกษาครึ่งหนึ่งคงเสียชีวิตไปแล้ว
ตอนนี้หน้ามหาวิทยาลัยถูกบรรดาผู้ปกครองของนักศึกษากันทางเอาไว้ ทั้งคณะแพทย์มีเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย ทังเจียเหวินจะต้องรับผิดชอบต่อเรื่องทั้งหมดนี้
เพียงแต่ เขารับผิดชอบไหวหรือไม่?
สือควนก็ยังแตะต้องไม่ได้ในตอนนี้ สถานการณ์นักศึกษาก็ย่ำแย่ เหล่าผู้ปกครองก็ขวางประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยเร่งจะเอาคำตอบ
วุ่นวาย วุ่นวายเกินไปแล้ว
ในฐานะที่ทังเจียเหวินเป็นผู้ชาย ชายที่เข้มแข็ง คราวนี้ก็รู้สึกว่าใจสู้แต่แรงไม่ยอมเป็นใจ ไม่รู้ควรจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไรดี