จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 876 แผนการล้าสมัย
ควรทำอย่างไรดี?
เขาสองมือกุมศีรษะ ฟุบอยู่บนโต๊ะ รู้สึกทุกข์ตรมอย่างยิ่ง
เวลานี้ หัวหน้ากิจการนักเรียนเอ่ยเตือน: “อธิการบดีคะ หรือไม่…ไปหาเจียงชื่อกันดี?”
“ไปหาเขางั้นเหรอ?” ทังเจียเหวินเงยหน้ามองหัวหน้ากิจการนักเรียน “หาเขาทำอะไร?”
“ในเมื่อเจียงชื่อรู้ตั้งแต่แรกได้ว่ายานั่นมีปัญหา แถมยังสามารถชี้แจงถึงปัญหาของตัวยาอย่างแม่นยำได้ด้วย ถ้าอย่างนั้นฉันคิดว่า บางทีเขาน่าจะรู้วิธีแก้ไข อีกอย่างเขาก็บอกแล้วว่า ถ้าต้องการความช่วยเหลือให้ไปหาเขาได้ที่คลินิกเหรินจื้อ น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”
มีเหตุมีผลเล็กน้อย
ทว่า…
ทังเจียเหวินเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น: “ความหวังดีของเขา ผมไม่เห็นค่าเมินใส่ แถมยังพาทั้งนักศึกษาทั้งอาจารย์ขับไล่ตะเพิดเขาอย่างกับเป็นนักโทษ แล้วเขาจะยอมช่วยเหลือผมได้ยังไง?”
หัวหน้ากิจการนักเรียนถอนหายใจ เอ่ยว่า: “เรื่องมาถึงตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ลองดูหน่อยก็ได้ ถึงยังไงมันก็สัมพันธ์ถึงความเป็นความตายของนักเรียหลายร้อย อธิการบดีคะ คุณต้องยอมอดทนหน่อยแล้วละค่ะ”
ทังเจียเหวินพยักหน้า “โอเค ถ้าเจียงชื่อมีวิธีช่วยเหลือนักเรียน ต่อให้ต้องเอาชีวิตแก่ๆ ของฉันเข้าแลก ฉันก็ต้องวิงวอนให้เขาเข้ามาช่วยเหลือให้ได้! ไป ตอนนี้ไปที่คลินิกเหรินจื้อกันตอนนี้เลย”
เนื่องจากประตูหน้าและหลังมหาวิทยาลัยถูกผู้ปกครองล้อมไว้หมดแล้ว ไม่มีทางออกไปข้างนอกเลย จนปัญญา หัวหน้ากิจการนักเรียนจัดการให้คนขนบันไดเข้ามา ให้ทังเจียเหวินปีนบันไดแล้วข้ามกำแพงรั้วมหาวิทยาลัยออกไป
จากนั้นได้จัดเตรียมรถยนต์รออยู่นอกกำแพง ส่งตัวทังเจียเหวินไปยังคลินิกเหรินจื้อ
ผ่านไปสิบกว่านาที รถยนต์ก็ขับมาจอดหน้าคลินิกเหรินจื้อ ประตูรถถูกเปิดออก ทังเจียเหวินวิ่งเข้าไปข้างในอย่างอดใจรอไม่ไหว
ผลปรากฏว่าเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู หญิงสาวที่เย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็งก็มาขวางทางเขาเอาไว้
“สาวน้อย ขอทางหน่อย ฉันมีเรื่องด่วน” ทังเจียเหวินเอ่ย
“คุณคืออธิการบดีของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ คุณทังเจียเหวินใช่ไหมคะ?”
“ใช่ คุณรู้จักผมได้ยังไง?”
“ฉันคือเจ้าของคลินิกเหรินจื้อ ชื่อซินยุ่นค่ะ”
“หมอเทพหญิงในยุคปัจจุบัน ซินยุ่นหมอเทวดาซินอย่างนั้นเหรอ?” ทังเจียเหวินประหลาดใจยกใหญ่ เขารู้ชื่อเสียงเรียงนามของซินยุ่นมาตั้งนานแล้ว วันนี้ดูเช่นนี้แล้ว เพิ่งรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นสาวสวยอยู่เช่นนี้
เป็นดั่งประโยคที่ว่าคนรุ่นใหม่ที่ความสามารถมากกว่า สดใหม่กว่า เข้ามาแทนที่คนรุ่นเก่าที่แก่ตัว โรยราไป แกร่งยิ่งขึ้นทุกยุคทุกสมัยจริงๆ เลยเชียว
ทังเจียเหวินเอ่ยด้วยความสุภาพนอบน้อม: “หมอซิน ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อ…”
“หาเจียงชื่อใช่ไหม?” ซินยุ่นเอ่ยอย่างตรงประเด็น
ทังเจียเหวินอึ้งไป จากนั้นจึงซักถามต่อว่า: “ใช่ครับ ผมมาหาเจียงชื่อ ผมมีธุระด่วนต้องการพบเขา ยังไงต้องรบกวนคุณพาผมไปหาเขาด้วย”
ซินยุ่นโบกมือ “ฉันรู้ว่าคุณมาหาเขามีธุระอะไร เจียงชื่อเองก็อยู่ที่คลินิกเหรินจื้อจริงๆ แต่ว่าเขาไม่อยากพบหน้าคุณค่ะ”
แน่นอนอยู่แล้ว
ผู้ใดที่เจอกับเรื่องแบบนั้นแล้ว ต่างก็ไม่มีทางที่จะอยากพบหน้าทังเจียเหวิน
ทังเจียเหวินเอ่ยด้วยความเศร้าสร้อย: “หมอซินครับ ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว ไม่ควรที่จะปฏิบัติกับเจียงชื่อแบบนั้น จะตบตีลงโทษผมก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ช่วยเหลือชีวิตนักเรียนของผมได้ ให้ผมทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ต้องรบกวนคุณพาผมไปพบเขาหน่อยครับ”
ซินยุ่นมองหน้าทังเจียเหวินด้วยสายตาที่เย็นชา เอ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์: “ฉันบอกแล้ว เจียงชื่อไม่ต้องการพบหน้าคุณ ไม่ต้องการพบหน้าคุณ!”
เธอโบกมือ จากนั้นก็มีพนักงานร่างกายกำยำหลายคนเข้ามาจากข้างในคลินิก พร้อมทั้งขวางหน้าประตูเอาไว้
ซินยุ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ถ้ารู้แบบนี้แล้วทำไมตอนนั้นต้องทำแบบนั้นด้วย? เจียงชื่อไม่มีเวลาว่างเจอหน้าคุณ คุณไปได้แล้ว”
สิ้นเสียง เธอก็หันหลังเดินเข้าคลินิกไป
ทังเจียเหวินสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด อยากจะบุกรุกเข้าไป ทว่าเขาเป็นเพียงคนแก่ที่อายุเกินห้าสิบปี จะบุกเข้าไปได้อย่างไร?
อีกทั้ง ที่เขามาครั้งนี้ก็เพื่อต้องการขอร้องให้เขาช่วยเหลือ
ถ้าบุกเข้าไปละก็ คงต้องทำให้เจียงชื่อไม่พอใจยิ่งกว่าเดิมไม่ใช่หรือ? ถึงตอนนั้นเจียงชื่อคงไม่มีทางยอมช่วยเหลือเขายิ่งกว่าเดิมแล้ว
บุกเข้าไปไม่ได้
ทว่าก็กลับไปแบบนี้ไม่ได้เช่นกัน
ทังเจียเหวินทราบดี ตอนนี้คนที่สามารถช่วยเหลือนักศึกษาเหล่านั้นได้ก็มีเพียงเจียงชื่อเท่านั้นแล้ว ขืนกลับไปตอนนี้ ชีวิตของเหล่านักศึกษาก็คงจบสิ้น
ต่อให้เขาต้องเอาชีวิตเข้าแลก ละทิ้งศักดิ์ศรี วันนี้อย่างไรก็ต้องขอร้องให้เจียงชื่อให้อภัยจนได้
สู้จนตัวตาย!
เสียงตุ้บดังขึ้น ทังเจียเหวินละทิ้งศักดิ์ศรี คุกเข่าอยู่บนพื้น
เขาเป็นชายแก่ที่อายุเกินห้าสิบผู้หนึ่ง ลูกผู้ชาย เป็นถึงผู้อำนวยการมหาวิทยาลัย ในเวลานี้เขาคุกเข่าที่หน้าประตูทางเข้าราวกับเด็กที่ทำผิดอย่างไรอย่างนั้น
คนที่เดินผ่านไปมาต่างก็ส่งสายตาที่แปลกๆ มองมา
ภายในคลินิก ซินยุ่นมองดูทังเจียเหวินที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้นด้วยสายตาเย็นชา เธอทำเสียงเหอะขึ้นมา ไม่เอ่ยอันใด
แผนการที่ล้าสมัยในละครแบบนี้ จะใช้ได้ผลจริงๆ หรือ?
อยากจะคุกเข่าก็ทำไปเลย
ซินยุ่นหันหน้ากลับ ไม่สนใจทังเจียเหวินโดยสิ้นเชิง
ผลปรากฏว่าทังเจียเหวินคุกเข่าลงครั้งนี้ ก็ดำเนินไปครึ่งชั่วโมงกว่า เขารู้สึกวูบวาบ เริ่มทนไม่ไหว ทว่าเพื่อชีวิตของเหล่านักศึกษา เขาก็ยังคงกัดฟันยืนหยัดต่อไป
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง
เงาที่คุ้นเคยเดินออกมาจากคลินิก เจียงชื่อ!
เขาอมยิ้ม ในมือถือสูตรยาหนึ่งฉบับ เดินไปพร้อมเอ่ยไปว่า: “ในที่สุดก็วิจัยออกมาได้แล้ว สูตรยาฉบับนี้สามารถรับมือกับยาพิษของสองพ่อลูกตระกูลสือนั่นได้”
ในขณะเดียวกัน เจียงชื่อมองหน้าซินยุ่น เอ่ยถาม: “จริงสิ ทังเจียเหวินจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์มาหรือยัง? ตามหลักการแล้ว ตอนนี้น่าจะถึงแล้วสิ”
ซินยุ่นทำเสียงเย็นชา พร้อมใช้คางชี้ไปยังหน้าประตู
เจียงชื่อมองตาม จึงมองเห็นทังเจียเหวินที่คุกเข่าหน้าประตูทันที เห็นดังนั้นก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที
“เอ่อ…”
“ซินยุ่น ผมแค่ให้คุณบอกอธิการบดีทังรอข้างนอกสักครู่”
“นี่คุณทำเกินไปหน่อยแล้วนะ