จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 910 ฝีปากดี
ในที่สุด สือเหวินปิ่งก็ร้อนใจและด่าออกมาว่า พ่อ พ่อเป็นคนขี้ขลาดมาก ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่ของผมจะดูถูกพ่อ แล้วหนีตามเศรษฐีไปเมืองเมืองหลวง!
ประโยคนี้เสียดแทงเข้าไปในปอดของสือควน
สือควนเป็นคนทำอะไรลังเล ชักช้าอืดอาด นี่คือเหตุผลที่ภรรยาดูถูกเขาและหนีตามเศรษฐีไปเมืองเมืองหลวงในที่สุด ทิ้งสามีและลูกชาย ทิ้งครอบครัวไป
นี่คือรอยแผลเป็นที่ไม่มีวันหายในหัวใจของเขาตลอดกาล
เด็ดเวร!
ไอ้สัตว์!
เนรคุณ!
สือควนโกรธจัดถึงกับด่าสามคำติดต่อกัน ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงบนหน้าของสือเหวินปิ่งจนเลือดออกจากปาก
ทุกคนในที่นี้เงียบลงทันที
สือเหวินปิ่งเอามือปิดหน้า จ้องเขม็งมาที่สือควน
บอดี้การ์ดทั้งสองก้มหน้าลง ไม่กล้าพูดสอด นี่คือเรื่องภายในครอบครัว ไม่สะดวกที่จะพูดอะไร
เกิดความเงียบงันขึ้นเป็นเวลานาน
สุดท้ายสือควนก็นั่งลงและพูดอย่างอ่อนแรง ดี ดี ดี! วันนี้ฉันจะแข็งแกร่งให้แกเห็น
เขาโบกมือ จัดการเจิ้งป๋อหยาง
สือเหวินปิ่งดีใจ ถูกแล้วพ่อ แบบนี้สิพ่อถึงจะเป็นลูกผู้ชาย!
เจิ้งป๋อหยางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตกใจกลัว อย่างไรสือควนก็ไม่เคยบิดพลิ้วกับลูกชาย ดูท่าทางวันนี้เขาจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ตรงนี้แน่
เขาต่อสู้อย่างสิ้นหวัง
แต่นักศึกษาที่อ่อนแอคนหนึ่งจะสามารถสู่กับบอดี้การ์ดร่างกำยำสองคนได้อย่างไร?
หลังจากที่บอดี้การ์ดทั้งสองได้รับคำสั่ง คนหนึ่งก็เข้ามาควบคุมเจิ้งป๋อหยาง อีกคนก็ใช้แขนที่แข็งแรงรัดคอของเขาไว้ กำลังนั้นแข็งแกร่งมากอย่างกับงูเหลือมพันรอบสัตว์ตัวเล็ก พยายามทำให้เขาหายใจไม่ออกจนตาย
วิธีตายแบบนี้สามารถรักษาอวัยวะทั้งหมดในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย และยังเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปในการฆ่าคน
ในตอนแรกเจิ้งป๋อหยางยังคงขัดขืน แต่ค่อยๆ รู้สึกว่าหายใจลำบาก ลำคอของเขากำลังจะถูกบีบแตก
เขาค่อยๆ หมดสติไปอย่างช้าๆ
ฉัน…จะตาย……แล้วเหรอ…
ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ เสียงฝีเท้าก็ทยอยเดินเข้ามา ชายหลายคนในชุดตำรวจได้เดินเข้ามา
คนที่นำหน้าคือเซี่ยเมิ่งจื้อ หัวหน้าทีมตำรวจ
ทำอะไรอยู่น่ะ? เซี่ยเมิ่งจื้อตะโกนเสียงดัง
เมื่อรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ บอดี้การ์ดจึงปล่อยมือทันทีและผลักเจิ้งป๋อหยาง ออกไปทางด้านหนึ่ง
ทันใดนั้น ตำรวจหลายนายเข้าไปพยุงเจิ้งป๋อหยางไว้ และตรวจดูอาการเขา พบว่าเขาขาดออกซิเจนเพียงชั่วคราว สมองของเขาสับสนเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอะไรมาก
เซี่ยเมิ่งจื้อชี้ไปที่บอดี้การ์ดพลางตะโกนว่า พวกคุณจะฆ่าเขาเหรอ?
บอดี้การ์ดร้อนใจ รีบโยนความผิดให้สือควน คุณสือบอกให้พวกเราทำ เราแค่ทำตามคำสั่งของเขาเท่านั้น
หืม?
มีเรื่องแบบนี้ด้วย?
เซี่ยเมิ่งจื้อเดินเข้าไปในห้องทำงาน จ้องไปที่สือควนแล้วถามว่า สือควน เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณปล่อยให้คนของคุณจะฆ่าเจิ้งป๋อหยาง?
สือควนหรี่ตาลง
แม้แต่ในตอนนี้ เขาก็ยังคงมีสติอยู่มาก
เมื่อถูกตั้งข้อหา ‘ฆ่าเจิ้งป๋อหยาง’ แม้ว่าเจิ้งป๋อหยางจะไม่ตาย แต่เขาจะถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่าและจะถูกคุมขังไม่น้อยกว่าสองสามปี
จะให้ถูกตัดสินไม่ได้ว่ามีความผิดในคดีนี้
สือควนเปลี่ยนเป็นสีหน้าอันขมขื่น พูดด้วยน้ำเสียงคับข้องใจ คุณตำรวจครับ ผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว ผมต่างหากคือผู้เสียหาย
เขาเป็นผู้เสียหาย?
เซี่ยเมิ่งจื้อไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี ก่อนจะถามว่า ทำไมคุณถึงเป็นผู้เสียหาย? ทั้งๆ ที่คนของคุณกำลังจะฆ่าเจิ้งป๋อหยาง!
สือควนกล่าวว่า คุณตำรวจ ได้โปรดฟังผมก่อน เหตุการณ์เป็นแบบนี้ แม่ของเจิ้งป๋อหยางป่วย ผมหวังดีให้ใบสั่งยาแก่เขาและให้เขากลับไปรักษาแม่ แต่ทุกอย่างก็ไม่ราบรื่น แม่ของเขาป่วยหนักกำลังจะตาย
คุณตำรวจครับ คุณก็รู้ ยานี้รักษาได้ไม่ครบทุกโรค มีที่ไหนที่กินแล้วจะดีขึ้นเลย? อาการป่วยของแม่เขาหนักหนาเกินไป ถึงแม้จะรักษาไม่หาย จะมาโทษผมก็ไม่ได้จริงไหม?
แต่เจิ้งป๋อหยางกลับเอาแต่ตอแยไร้เหตุผล บอกว่าผมฆ่าแม่ของเขา แม่ของเขากำลังจะตายอยู่แล้ว เกี่ยวอะไรกับผมล่ะ?
เขามาเอะอะโวยวายที่นี่ จนถึงขนาดทุบตีผม ผมไม่มีทางเลือก นอกจากต้องขอให้บอดี้การ์ดพาตัวเขาออกไป แต่เขากลับใจร้อน ไม่เพียงไม่ยอมกลับไป แต่ยังเกิดการต่อสู้กันด้วย
บอดี้การ์ดของผมก็ใจร้อน จึงใช้วิธีการรุนแรงเพื่อปราบเขา
จะว่าไปแล้ว พวกเราต่างหากที่เป็นผู้เสียหาย เราแค่ใช้วิธีการป้องกันตัวที่สมเหตุสมผลและถูกต้องตามกฎหมาย แค่ลงมือหนักเกินไปเล็กน้อยเท่านั้น แต่ เจิ้งป๋อหยางทุบตีและพยายามฆ่าเราครั้งแล้วครั้งเล่า เราก็กังวลเช่นกัน ออกแรงมากไปหน่อยก็สามารถเข้าใจได้ จริงไหมครับ?
ช่างคารมคมคายดีเสียนี่กระไร!
ในโลกนี้ คงไม่มีใครฝีปากดีเท่าสือควนอีกแล้วล่ะมั้ง?
จากดำก็พูดให้เป็นขาวได้ ก่ออาชญากรรมก็พูดให้เป็นป้องกันตัวที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ ฮ่าฮ่า เซี่ยเมิ่งจื้อ ในที่สุดวันนี้ก็ได้เปิดโลกแล้ว
ในเวลานี้เจิ้งป๋อหยางยังสะลึมสะลือ เจ็บคอ รู้สึกแย่มาก เขายังไม่สามารถพูดอะไรเพื่อปกป้องตัวเองได้ ดังนั้นจึงได้แต่ฟังคำพูดของสือควน
ในประเด็นนี้ยังไม่สามารถทำอะไรสือควนได้
ช่างมันไปก่อน!
เซี่ยเมิ่งจื้อโบกมือแล้วพูดว่า เรื่องนี้เอาไว้ก่อน สือควน วันนี้ผมมาหาคุณเพราะมีอีกเรื่องหนึ่ง