จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 917 เชิญผู้จัดการเจียงมา
หยวนไท่รอแล้วรอเล่าอยู่ที่หน้าประตู ไม่นานหลังจากนั้น สองพี่น้องติงหงเหย้ากับติงจื่อยวี่ก็มาถึง
เขาจึงเชิญทั้งสองเข้าไปในห้องรับแขกของบริษัทด้วยความเคารพ และมอบหมายให้กับเลขาของเขาเสิร์ฟชาเถี่ยกวานอินสองแก้วให้กับทั้งสอง
หยวนไท่พูดอย่างสุภาพว่า ท่านผู้มีเกียรติทั้งสองท่านครับ การมาเยือนของพวกท่าน เป็นพรให้กับฉางเหอ จิวเวลรี่ของเราและทำให้เราเจริญรุ่งเรืองจริงๆ นะครับ
ติงจื่อยวี่แอบเยาะเย้ยในใจ
อย่าเพิ่งดีใจไป อีกเดี๋ยวเจอของจริงแล้วคุณจะดีใจไม่ออก!
ติงจื่อยวี่จิบชาเบาๆ แล้วตอบว่า เถ้าแก่หยวนไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันกับเจียงชื่อสนิทกันมาก การที่จะให้เจียงชื่อมาเซ็นสัญญากับคุณนั้น มันขึ้นอยู่กับคำพูดประโยคเดียวของฉันเท่านั้น คุณไม่ต้องให้ความสำคัญขนาดนั้นหรอกนะ
สนิทกันมาก?
ใครก็ตามที่พอรู้จักตระกูลติงนั้นต้องไม่เชื่อเรื่องไร้สาระนี้อย่างแน่นอน
มีเพียงหยวนไท่ที่ไม่มีข้อมูลและหน้ามืดตามัวคนนี้ถึงจะเชื่อ
เขาตอบอย่างสุภาพว่า ไม่ให้ความสำคัญไม่ได้หรอกครับ เจียงชื่อเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของเครื่องประดับดาวฤกษ์ เป็นคนดังในวงการนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่บริษัทเล็กๆ อย่างผมจะมีโอกาสได้พบเขา
ผมได้แต่เฝ้าดูบริษัทอื่นๆ เซ็นสัญญากับผู้จัดการเจียง และเฝ้าดูบริษัทเหล่านั้นเติบโตขึ้น ฉางเหอ จิวเวลรี่ของผมไม่เพียงแต่ไม่เติบโต แต่กลับด้อยลง ผมทนดูไม่ไหวแล้วจริงๆ ครับ
ต้องขอบพระคุณคุณติงเป็นอย่างสูงเลยนะครับ ที่ให้โอกาสนี้กับผม ไม่อย่างนั้นผมคงไม่รู้จะเชิญผู้หลักผู้ใหญ่อย่างผู้จัดการเจียงมาได้อย่างไรแล้วครับ
ในขณะที่พูด หยวนไท่ก็ให้เลขานำกล่องสองกล่องเข้ามา เมื่อเปิดดูข้างในแล้ว พวกเขาก็พบว่ามีสร้อยคอหยกอยู่ข้างในกล่องนั้น
หยวนไท่พูดต่อ สร้อยคอหยกสองเส้นนี้เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากผม ผมขออนุญาตมอบให้ท่านทั้งสองนะครับ
ติงจื่อยวี่กับติงหงเหย้ามองหน้ากันและยิ้มให้กัน
ดูเหมือนว่าวันนี้ไม่ได้มาเสียเที่ยวจริงๆ
ไม่เพียงแต่จะได้ดูละครตลก แถมยังได้สร้อยคอเป็นกำไรอีกด้วย บนโลกนี้ยังมีของฟรีแบบนี้อีกหรือ?
เถ้าแก่หยวนจะเกรงใจไปหน่อยแล้ว?
ไม่ๆๆ ครับ แค่นี้เอง ถ้าเทียบกับการที่ผมได้เซ็นสัญญากับผู้จัดการเจียง ผลประโยชน์ที่ผมจะได้มันมากกว่านี้ ดังนั้นการมอบของขวัญชิ้นเล็กๆ น้อยแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วครับ
งั้น ฉันก็ไม่เกรงใจแล้วนะ
ติงจื่อยวี่หยิบสร้อยคอหยกขึ้นมาแล้วสวมใส่ที่คอทันทีโดยไม่เกรงใจใครอีก จากนั้นยังถามติงหงเหย้าว่า พี่คะ เป็นยังไงบ้าง หนูใส่แล้วสวยไหม?
ติงหงเหย้าไม่ได้ตอบ แต่กลับเป็นหยวนไท่ที่ชมเธอ สวยครับ สวยเหมือนดอกบัวที่ผุดขึ้นเหนือพื้นน้ำชัดๆ!
ไม่มีใครรังเกียจการถูกชมที่เกินจริง
โดยเฉพาะผู้หญิง
ติงจื่อยวี่มองหยวนไท่เหมือนกำลังมองดูสุกรตัวหนึ่งและแอบนินทาในใจว่า ‘คนเราถ้าจะโง่มันก็ห้ามไม่ได้จริงๆ นะ คนโง่แบบนี้ต้องถูกสั่งสอน วันนี้ฉันไม่ได้แค่จะมาเอาของ แต่ฉันจะมาจัดการแกด้วย แล้วแกจะต้องล้มละลายในวันนี้! แต่แกจะโทษฉันไม่ได้นะ เพราะแกมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักเจียงชื่อเอง’
ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่ เลขาของหยวนไท่ก็เข้ามาและพูดว่า เจ้านายครับ ผู้จัดการเจียงกับเลขาของเขามาถึงแล้วครับ!
หยวนไท่ถึงกับตกใจ มาแล้วเหรอ? บ้าจริง เร็วเข้า รีบออกไปต้อนรับกัน
ไม่ทันแล้วครับ เลขาพูดต่อ ผู้จัดการเจียงเข้ามาแล้วครับ อยู่นั่นไงครับ
หยวนไท่รู้สึกหดหู่ใจมาก เจียงชื่ออุตส่าห์มาถึงที่แล้ว แต่เขากลับไม่ได้ยืนต้อนรับอยู่ที่หน้าประตู เขาพลาดโอกาสที่จะสร้างความประทับใจให้อีกฝ่ายไปแล้ว ช่างน่าเสียดายจริงๆ
แต่โชคดีที่เขาเตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นพรมแดง ดอกไม้สด หรือพนักงานบริษัท ถือว่าเป็นการชดเชยได้
เขาจึงรีบออกจากห้องรับแขกและได้เห็นเจียงชื่อกับเลขาของเขาทันที