จอมนักรบท้าโลก - บทที่ 970 ไม่มีทางรับได้
ช่วงท้ายของงานนี้ ผมอยากขอโทษครอบครัวของผม
พูดแบบไม่ปิดบัง ตั้งแต่แรกจนถึงเที่ยงของวันนี้ คนในครอบครัวก็ยังไม่เคยได้รู้ฐานะที่แท้จริงของผมเลย ตอนที่ผมปิดบังทุกท่านผมเองก็ได้ปิดบังคนในครอบครัวของตัวเองเหมือนกัน
เพียงเพราะว่าผมไม่อยากให้คนในครอบครัวต้องเป็นห่วง และไม่อยากทำให้คนในครอบครัวต้องลำบากเพราะฐานะที่ไม่ธรรมดาของผม
วันนี้ที่ตัดสินใจบอกให้ทุกท่านได้รู้ความจริง มันก็เป็นเพราะผมจะวางมือแล้ว
อีกครั้ง ที่ผมต้องกล่าวคำว่าขอโทษ!
เจียงชื่อโค้งคำนับอีกครั้ง
ในใจของติงฉี่ซาน ติงเมิ่งเหยนและคนอื่นๆ ที่อยู่ใต้เวทีจ้องมองด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ความรู้สึกแบบนั้นมันค่อนข้างประหลาด
ถ้าไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของเจียงชื่อตลอดไปมันก็อีกเรื่องหนึ่ง พวกเขาก็จะทำเหมือนเจียงชื่อเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ควรใช้ชีวิตยังไงก็ใช้ชีวิตอย่างนั้น
แต่ถ้าได้รู้ฐานะของเจียงชื่อตั้งแต่แรกโอเค พวกเขาก็ทำตัวเกรงอกเกรงใจกับเจียงชื่อ และอาจถึงขั้นใช้ตำแหน่งของเจียงชื่อมาทำอะไรบ้าง เป็นหน้าเป็นตาให้ตัวเองบ้าง
สิ่งที่อึดอัดที่สุดก็คือสถานการณ์อย่างในตอนนี้ ได้รู้ฐานะที่แท้จริงของเจียงชื่อแต่เจียงชื่อก็วางมือไปแล้ว ต่อไปจะใช้ประโยชน์จากจุดนี้มาโอ้อวดสักหน่อยก็ไม่ได้
ติงฉี่ซานถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง เกรงว่านี่มันต้องเป็นเจตนาของเจียงชื่อแน่ๆ
ชายคนนี้ทำตัวเรียบง่ายจนชินแล้ว เกลียดที่สุดก็คือการที่คนรอบตัวเอาตำแหน่งของเขาไปโอ้อวดสินะ?
พิธีปลดเกษียณดำเนินไปประมาณสามชั่วโมง
หลังเจียงชื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว เขาก็ลงจากเวที
มู่หยางอีคอยรับหน้าที่สั่งการผู้ใต้บัญชาให้เชิญแขกออกไปอย่างเป็นระเบียบ ทุกคนต่างออกจากงานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ถังแหวนโม่เดินอยู่ท่ามกลางฝูงชน สีหน้าซีดเซียว
หลังจากวันนี้ เขาก็ไม่ใช่รองผู้บัญชาการฝ่ายตะวันออกของจ้านยู่อีกต่อไปแล้ว เขาเป็นได้แค่ประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง จะไม่มีใครมาคอยเอาใจเขาอีก จะมีก็แต่คนที่เขาเคยรังแกตามมาแก้แค้นถึงบ้าน
เขาต้องเริ่มยอมรับกับฐานะใหม่นี้แล้ว
เฮ้อ…..
เนื่องจากคนเยอะมาก แค่ให้คนออกไปก็กินเวลาไปชั่วโมงกว่าแล้ว
หลังคนบ้านตระกูลติงออกจากงานแล้ว ก็กลับบ้านทันที ทุกคนนั่งอยู่บนโซฟา หวนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานพิธี มีความรู้สึกยังเหมือนอยู่ในความฝันที่ไม่อาจตื่นขึ้นมาได้
จนเวลาล่วงเลยมาถึงกลางคืน
จนมีรถของทางการคันหนึ่งขับมาจอดที่หน้าประตู
จนชายคนนั้นก้าวลงจากรถ เดินผ่านประตูเข้ามา
การกลับบ้านของเจียงชื่อในวันนี้ ไม่มีการต้อนรับที่เป็นกันเองของพ่อแม่เหมือนอย่างเคย คนในครอบครัวของเขายังต้องใช้เวลาอีกสักพักในการทำตัวให้ชินกับเรื่องที่น่าอึดอัดและน่าตกใจแบบนี้
เจียงชื่อเดินเข้ามาในบ้าน พอเห็นทุกคนที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา เขาเองก็มีความรู้สึกว่าไม่รู้ต้องทำยังไงเหมือนกัน
ต้องพูดอะไรถึงจะเหมาะนะ?
ในตอนที่ทุกคนกำลังจ้องตากันจนรู้สึกอึดอัดนั้นเอง จู่ๆ ติงเฟิงเฉิงก็ได้หัวเราะออกมา ชี้ไปที่เจียงชื่อแล้วพูดไปว่า เจียงชื่อนะเจียงชื่อ ไอ้สารเลว! ปิดบังพวกเรามานานขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ฐานะสูงส่งแต่กลับทำตัวไร้ค่า ฮึ นี่นายทนผ่านมันมาได้ยังไงเนี่ย?
เขาจงใจเดินไปข้างหน้าเจียงชื่อ ตั้งใจที่จะยื่นมือไปบีบคอเจียงชื่อเหมือนอย่างเคย แต่นายก็แน่จริงๆ การพนันในครั้งนี้ฉันแพ้แล้ว นายบอกว่าเราจะเจอกันในงาน และเราก็ได้เจอกันจริงๆ
เราพนันกันตั้งหลายครั้ง ฉันไม่เคยชนะเลยสักครั้ง เจียงชื่อ ฉันตัดสินใจแล้ว ชีวิตนี้ฉันจะไม่พนันอะไรกับนายอีก!
ระหว่างที่พูด เขาก็ผลักเจียงชื่อมาที่กลางบ้าน แล้วหันไปพูดกับติงฉี่ซานและซูฉินว่า อาสาม อาสะใภ้ ฟ้าก็มืดแล้ว ผมเองก็หิวแล้ว เราควรกินข้าวกันแล้วจริงมั้ยครับ?
ใช่ ควรกินข้าวกันแล้ว ซูฉินที่กำลังจะลุกไปเตรียมกับข้าว แต่ก็ถูกติงฉี่ซานรั้งเอาไว้
ติงฉี่ซานขมวดคิ้ว และแอบรับรู้ได้ถึงความโกรธของเขา
ซึ่งความโกรธนี้มุ่งตรงไปที่เจียงชื่อ