จอมนักรบอหังการ - บทที่ 100 โรงแรมว่างไห่ ตระกูลเศรษฐีดุจหมู่เมฆ
จอมนักรบอหังการ บทที่ 100 โรงแรมว่างไห่ ตระกูลเศรษฐีดุจหมู่เมฆ!
เพื่อที่จะขอเสิ่นรั่วชิงแต่งงานอย่างเป็นทางการในคืนนี้ เย่อู๋เทียนได้แต่งตัวอย่างสง่างาม
เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาได้เปลี่ยนบุคลิกทั้งหมดของเขาไป
ผมที่สั้นสะอาดสะอ้าน ใบหน้าที่เฉียบคมเข้ากับชุดสูทที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
หน้าตาหาที่เปรียบมิได้ พริ้มเพราดั่งหยก
และเพราะเหตุนี้เช่นกัน
ที่ส่งผลให้ผู้หญิงทุกคนที่สัญจรไปมาผ่านเขาล้วนต้องประทับใจในบุคลิกของเขา
น่าเสียดายที่เห็นเสิ่นรั่วชิงอยู่ข้างๆ เขา
ผู้หญิงเดินถนนทุกคนไม่ว่าจะสวยแค่ไหนก็กลายเป็นเหมือนเมล็ดข้าวที่แข่งขันกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ไปเสีย!
ส่วนชายบางคนที่เดินอยู่ที่ถนนรอบๆ
เมื่อเห็นเย่อู๋เทียนเข้าก็ล้วนคิดไปว่ามีผู้ชายแบบนี้อยู่บนโลกนี้ได้อย่างไรกัน?
จะบอกว่าเขาเป็นชายหน้าหวาน?
ก็ไม่ค่อยเหมาะสม
บอกว่าเขาเป็นชายคุณชายผู้สง่างาม?
ก็ไม่พอ
กล่าวได้ว่าผู้ที่เดินผ่านไปมาทั้งชายและหญิงต่างก็ไม่สามารถอธิบายเสน่ห์ของเย่อู๋เทียนได้ในขณะนี้
มันเหมือนกับ…
ทำให้คนยากแม้กระทั่งจะเกิดความคิดอิจฉาริษยาขึ้นมาได้
ทุกอย่างล้วนสอดคล้องเป็นธรรมชาติ
เมื่อเผชิญกับคำถามที่เสิ่นรั่วชิงเพิ่งเอ่ยขึ้น เย่อู๋เทียนไม่ได้ตอบโดยตรง แต่ทำเพียงแค่ยิ้มและพูดประโยคหนึ่ง
“ผมอยู่กับคุณทุกวัน ผมก็ต้องจริงจังขึ้นบ้างสิ”
เสิ่นรั่วชิงหน้าแดงเล็กน้อย เธอกัดริมฝีปากล่างเบาๆ และตอบเสียงเบา
“อย่างนั้น จากนี้ไปฉันจะต้องแต่งตัวให้สวยกว่านี้”
ขณะที่เย่อู๋เทียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
จู่ๆ มือถือของเขาก็ดังขึ้น เป็นสายจากฝ่าบาทผู้สูงส่ง
หลังจากกดรับสาย เสียงของฝ่าบาทผู้สูงส่ง ก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง
“ชิงตี้ถึงหรือยัง?”
เย่อู๋เทียนตอบกลับ
“ใกล้จะถึงแล้ว”
ฝ่าบาทผู้สูงส่งหัวเราะอย่างเบิกบาน
“รั่วชิงก็มาแล้วใช่ไหม? คืนนี้เธอต่างหากที่เป็นตัวละครหลัก”
เย่อู๋เทียนเหลือบมองไปที่เสิ่นรั่วชิงซึ่งอยู่ข้างๆ เขา รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“เธออยู่ข้างๆ ฉัน”
ฝ่าบาทผู้สูงส่งกล่าวด้วยความพอใจอย่างมาก
“ดี ดีมาก ทางโรงแรมว่างไห่พร้อมแล้ว”
“วันนี้ เป็นงานฉลองของครอบครัว แขกทุกคนล้วนเป็นคนกันเอง งานฉลองนี้จัดขึ้นที่ห้องระดับสวรรค์ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมว่างไห่”
เย่อู๋เทียนตอบกลับ
“ดี”
หลังวางสาย เย่อู๋เทียนก็จับมือเสิ่นรั่วชิงและเดินไปที่โรงแรมว่างไห่
……
ที่ประตูโรงแรมว่างไห่
นอกจากคนของตระกูลโล่ในตี้ตูแล้ว ตระกูลเฉียนจากเจียงไห่ ตระกูลเผยตระกูลเจียง และคนใหญ่คนโตบางกลุ่มของเจียงไห่ก็ล้วนมาถึงหมดแล้ว
อาจกล่าวได้ว่าตระกูลเศรษฐีดุจหมู่เมฆ
ทุกคนในตระกูลหวง ก็มาถึงแล้วเช่นกัน
เมื่อเห็นฉากที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ที่ด้านหน้าของ โรงแรมว่างไห่ใบหน้าของหวงเจี้ยนเย่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
คนที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้
ไม่ว่าจะเป็นเฉียนจิ้งคุนหรือเผยว่านหลี่
คืนนี้ คนที่ถูกกำหนดให้เป็นดาวเด่นก็คือตระกูลหวง
หวงหย่าเฟยสวมชุดราตรีหรูหรา
เธอลงจากรถหรู
ทั้งตัวสง่างามและหรูหรา
และเอาชนะหญิงสาวที่มีชื่อเสียงบางคนในงานไปได้จริงๆ
เพียงแค่เหยียบพรมแดงหน้าประตู เธอก็ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมายในที่งาน
ในเวลานี้ หวงหย่าเฟยเองก็เต็มไปด้วยความเขินอาย
เพราะในชีวิตนี้…
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสกับงานที่ยิ่งใหญ่มากขนาดนี้
และเธอ…
ก็เป็นตัวเอกในคืนนี้
เธอถูกกำหนดมาให้โดดเด่นเหนือใคร!
ในขณะนี้ โล่เชียนฟานลูกพี่ลูกน้องของเจียงอานไท่ และ เจียงอู่ฟูพ่อของเจียงอานไท่ก็ไปมารับหวงต้าไห่มาที่งาน
ช่วยไม่ได้
ไม่เห็นแก่หน้าพระสงฆ์ก็ยังต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธ
ใครใช้ให้หวงต้าไห่สองสามีภรรยามีลูกสาวบุญธรรมที่ดีกัน?
ความจริงก็เป็นเช่นนั้น
ไม่ว่าจะเป็นโล่เชียนฟานหรือเจียงอู่ฟู
ล้วนไม่รู้แน่ว่าทำไมฝ่าบาทผู้สูงส่งถึงรับเสิ่นรั่วชิง ผู้หญิงที่ไม่เป็นที่รู้จักคนหนึ่งมาเป็นน้องสาวบุญธรรม…
อย่างไรก็ตาม มันไม่สำคัญ
พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะคาดเดาความคิดของฝ่าบาทผู้สูงส่ง
หวงต้าไห่และภรรยาของเขาเหมือนกัน
จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังงมอยู่ในความมืด
คิดให้สมองแตกก็คิดไม่ออกว่า ทำไมฝ่าบาทผู้สูงส่งถึงได้รับลูกสาวบุญธรรมของพวกเขาเป็นน้องสาวบุญธรรม
นี้เกี่ยวข้องกับเย่อู๋เทียน ลูกเขยของตนหรือไม่?
ขณะที่หวงต้าไห่สองสามีภรรยากำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หวงเจี้ยนเย่และคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นพวกเขา
ใบหน้าของหวงเจี้ยนเย่ดูไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เขาพึมพำกับหวงหย่าเฟยด้วยความสงสัย
“ทำไมหวงต้าไห่และเกาเม่ยหลิงถึงมาที่นี่ด้วย? ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ!”
หวงหย่าเฟยเหลือบมองหวงต้าไห่ และภรรยาของเขา สีหน้าของเธอยังคงแสดงท่าทางที่เหมาะสมและตอบเสียงเบา
“อย่ากังวลไปเลยคุณปู่ ไม่ว่าจะยังไง คุณลุงก็เป็นลูกชายของคุณเองด้วย เรื่องน่าอับอายเก็บไว้ในตระกูลก็พออย่าได้เผยแพร่ออกไป”
“ยิ่งไปกว่านั้น คุณควรจะมีความสุขถึงจะถูก คุณไม่เห็นคุณชายตระกูลโล่และหัวหน้าตระกูลเจียงที่มารับพวกเขาหรอกหรือ นี่แสดงว่าทั้งหมดล้วนไว้หน้าคุณทั้งนั้น ถ้าฉันกลายเป็นสะใภ้ของฝ่าบาทผู้สูงส่ง คุณก็ยังเป็นถึงผู้อาวุโสของฝ่าบาทผู้สูงส่ง!”
หลังจากได้ยินแบบนี้ หวงเจี้ยนเย่ก็ไม่สามารถหุบยิ้มได้
” หย่าเฟยเอ๋ย ปากน้อยๆ ของหลายช่างหวานจริงๆ ฉันสามารถจินตนาการได้เลยว่าจะเป็นอย่างไรถ้าหลานแต่งงานกับตระกูลโล่หลานจะต้องทำให้ฝ่าบาทผู้สูงส่งมีความสุขอย่างแน่นอน”
หวงหย่าเฟยยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร
ในไม่ช้า คนตระกูลหวงทั้งหมดก็มาที่ชั้นหนึ่งเพื่อต้อนรับ
หวงต้าไห่และภรรยาของเขาก็ย่อมมาที่นี่ด้วยเช่นกัน
เผยจื่อตงมีหน้าที่ต้อนรับแขก
เขามองคำเชิญที่ได้รับจากหวงเจี้ยนเย่
เผยจื่อตงกล่าวเสียงเรียบๆ
“บนชั้นสาม ห้องส่วนตัวอักษรหวง ”
ห้องส่วนตัวของโรงแรมว่างไห่แบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ เทียนตี้ซวนหวง
ระดับสูงสุด แน่นอนว่าย่อมเป็นห้องส่วนตัวอักษรเทียน
ห้องส่วนตัวอักษรหวงคือระดับต่ำสุด
ที่แบบนี้ หวงเจี้ยนเย่และคนอื่นๆ เองก็เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก
พวกเขาคิดไปว่าเป็นเพราะนามสกุลของพวกเขา ฝ่าบาทผู้สูงส่งจึงจัดห้องส่วนตัวอักษรหวงให้พวกเขาเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
หวงเจี้ยนเย่รีบพูดกับตัวเอง
“ลำบากฝ่าบาทผู้สูงส่งแล้ว”
พูดไป หวงเจี้ยนเย่ก็เหลือบไปที่หวงต้าไห่และภรรยาของเขา จากนั้นก็เอ่ยเพิ่มอีกประโยค
“ในสถานที่อย่าง โรงแรมว่างไห่ เว้นแต่จะเป็นคนดังระดับแนวหน้า ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเข้ามาที่นี่ หวงต้าไห่ในเมื่อนายมาแล้วฉันก็จะไม่พูดอะไร อีกเดี๋ยวตามฉันไปที่ห้องส่วนตัวอักษรหวง พูดให้น้อยค้อมหัวให้มาก อย่าได้ทำให้ตระกูลหวงของเราต้องอับอายขายขี้หน้า!”
หลังจากได้ยินแบบนั้น แม้หวงต้าไห่เองก็สงสัยว่าทำไมหวงเจี้ยนเย่และคนอื่น ๆ ก็มาด้วย
แต่ยังไงหวงเจี้ยนเย่ก็เป็นพ่อของเขา
เขาขี้เกียจเกินกว่าจะไปโต้เถียงด้วย
หวงต้าไห่ไม่ได้พูดอะไรและส่งคำเชิญของตนไปให้เผยจื่อตง
เผยจื่อตงกลับไม่แม้แต่จะมอง เขาเดินอ้อมแผนกต้อนรับมา จากนั้นก็โค้งตัวเล็กน้อยแล้วทำท่าทางเชื้อเชิญ
“ลุงหวง คุณโปรดตามผมมา ห้องส่วนตัวอักษรเทียนอยู่บนชั้น 12 คุณต้องขึ้นลิฟต์พิเศษเพื่อขึ้นไป”
“ฝ่าบาทผู้สูงส่ง รอคุณมานานแล้ว”
หวงต้าไห่ตะลึงไป
หวงเจี้ยนเย่และคนอื่น ๆ รวมถึงญาติหลายคนของตระกูลหวงก็ตกตะลึงไปเช่นกัน
ต่อให้หวงเจี้ยนเย่จะไม่ฉลาดมากแค่ไหน
แต่เขาก็ย่อมรู้ถึงความแตกต่างระหว่างชั้นสามกับชั้นสิบสอง และถึงค่อยเข้าใจว่าห้องอักษรเหลือง น่าจะเป็นห้องส่วนตัวระดับต่ำสุดในโรงแรมว่างไห่แล้ว
ตอนนี้หวงต้าไห่ได้รับเชิญไปที่ห้องส่วนตัวอักษรเทียนบนชั้น 12
หวงเจี้ยนเย่และคนอื่นๆ กลับต้องไปที่ห้องอักษรเหลืองบนชั้นสามเพียงลำพัง
เกิดอะไรขึ้นกัน?
ในเวลานี้เอง เย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงก็เดินเข้ามาพร้อมกัน
เผยจื่อตงสังเกตเห็นเย่อู๋เทียนและรีบเข้ามาต้อนรับเขาทันที
โล่เชียนฟานและเจียงอู่ฟูเองก็ย่อมหันไปมองเย่อู๋เทียนด้วยเช่นกัน
ชั่วครู่ สีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไป
ในโรงพยาบาล ภรรยาของเจียงอานไท่ ได้แสดงรูปถ่ายของเย่อู๋เทียนให้กับโล่เชียนฟานและเจียงอู่ฟู
ยิ่งไปกว่านั้น โล่เชียนฟานและเจียงอู่ฟูล้วนคิดว่า
แม้ว่าเจียงอานไท่ จะถูกทำร้ายโดยเฉินเมิ่งเฉี่ยนจากตระกูลเฉินจนเข้าโรงพยาบาล แต่เรื่องนี้ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเย่อู๋เทียนแน่
ไอ้สารเลวคนนี้ กินดีหมีแล้วกล้าดีไม่น้อย ถึงได้มาปรากฏในโรงแรมว่างไห่?
เจียงอู่ฟูในฐานะพ่อของเจียงอานไท่ หลังได้เห็นสภาพของเจียงอานไท่ หมอก็บอกว่าอาจจะไม่สามารถช่วยชีวิตลูกชายของเขาได้
ศัตรูอยู่ที่นี่แล้ว!
แล้วเจียงอู่ฟูจะเฉยเมยได้อย่างไร?
นอกจากนี้ เหตุผลที่ชื่อของเขามีคำว่า “อู่ฟู” ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงว่าเขาเกี่ยวข้องกับศิลปะการต่อสู้
กล่าวอีกอย่างคือ แม้ว่าคำกล่าวนี้จะค่อนข้างเต็มกลืนไปอยู่บ้าง แต่ในเจียงไห่ ไม่มีใครไม่รู้ว่าเจียงอู่ฟูเป็นผู้นำของโลกมวยในประเทศหลง
เจียงซื่อ กรุ๊ปทุ่มเทไปกับการสร้างดาวดังดารามวย
พวกเขามีโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้อยู่ทั่วโลก
เจียงอู่ฟูสามคำนี้
ทุกวันนี้ยังถือได้ว่าเป็นการดำรงอยู่ของเทพผู้เชี่ยวชาญด้านการชกมวยอีกด้วย
เจียงอู่ฟูหรือที่รู้จักในชื่อเจียงแปดเก๊ก!
เมื่อยังหนุ่มแน่น เขาได้ใช้วิชามวยแปดเก๊กอันดุดันในการชกมวยไปทั่วโลกและคว้าชัยชนะมา!
อีกทั้งเขายังมีชื่อเสียงในเรื่องความอารมณ์ร้อน
มีคนเคยพูดว่า เคยมีคนเอ่ยท้าทายเจียงอู่ฟูไปประโยคหนึ่งบนเวทีและเจียงอู่ฟูก็ทำลายอวัยวะภายในของชายคนนั้นทันที!
ตายในสนาม!
อีกทั้งยังเพราะเจียงอู่ฟูเกี่ยวข้องกับตระกูลโล่แห่งตี้ตู
ทำให้เรื่องนั้น ไม่มีการสะสางต่อ!
สรุปก็คือ
ในโลกนี้ หากเป็นคน ล้วนไม่มีใครกล้าไปตอแยเจียงอู่ฟู!
เย่อู๋เทียนมีความสัมพันธ์อย่างมากกับเรื่องการบาดเจ็บสาหัสของลูกชายของเจียงอู่ฟูจนต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วเจียงอู่ฟูจะปล่อยเย่อู๋เทียนไปได้อย่างไร!
ในเวลานี้ เจียงอู่ฟูได้ไปหาเย่อู๋เทียนแล้ว
สีหน้าของเขาแสดงออกอย่างน่าเกลียด
เมื่อมองไปที่เย่อู๋เทียน เขาก็พูดประโยคเดียวเท่านั้น
“ออกไปข้างนอก ฉันจะฆ่าแกซะ ต่อให้ฝ่าบาทผู้สูงส่งจะปรากฏตัว ก็ไม่สามารถปกป้องแกได้!”