จอมนักรบอหังการ - บทที่ 12 อยากตายมากขนาดนั้นเลยเหรอ
จอมนักรบอหังการ บทที่ 12 อยากตายมากขนาดนั้นเลยเหรอ!
เสิ่นรั่วชิงไหล่สั่นเทา และในที่สุดก็มีความกล้าที่จะมองไปที่เย่อู๋เทียนสักที
ขณะที่กำลังจะพูดอะไร ทันใดนั้นก็รู้สึกหน้ามืด และล้มลงไปอยู่ในอ้อมแขนของเย่อู๋เทียน
เย่อู๋เทียนอุ้มเธอไปที่บนเตียง
หลังจากตรวจพบชีพจรแล้ว จิตใจที่วิตกกังวลก็ผ่อนคลายลงมา
แต่หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา ร่างกายอ่อนแอเกินไป อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรงทำให้หมดสติไป
ต้องใช้เวลาพักฟื้นช่วงหนึ่ง ก็จะหายดี
เสียงของเฉาจ้านหยางมาจากนอกประตูอีกครั้ง
“ทหาร เฉาจ้านหยาง มีเรื่องจะรายงานต่อชิงตี้!”
“เรื่องอะไร?”วางเย่จูนหลินไว้ที่ข้างกายของเสิ่นรั่วชิง เย่อู๋เทียนถึงได้ออกห้องผู้ป่วยแล้วถาม
เฉาจ้านหยางรายงานว่า: “เมื่อกี้นี้ตอนที่เสิ่นจูนอี๋เพิ่งจะลงบันได ผมได้ยินหล่อนโทรหาพ่อของท่าน บอกว่าจะ……ขุดหลุมฝังศพของจูซือเนี๊ย!”
สายตาของเย่อู๋เทียนก็เยือกเย็นขึ้นมาในทันที
“ฉันเห็นว่าหล่อนเป็นน้องสาวของเสิ่นรั่วชิง ตอนแรกไม่อยากที่จะถือสาหล่อน ตอนนี้ดูเหมือนว่า หล่อนจะไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ!”
สีหน้าของเฉาจ้านหยางเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก เอ่ยปากพูดอีกครั้ง
“จ้านหยางเพิ่งจะเห็นว่า เสิ่นจูนอี๋ สวมตราสัญญาลักษณ์ประจำตระกูลเหวิน!”
“ว่ากันว่า เหวินเติงเจินได้รับหล่อนเป็นลูกสาวบุญธรรมเมื่อหลายปีก่อน!”
“แม้ว่าเหวินเติงเจินจะอายุมาก ครั้งก่อนที่เจอเขา ถึงอายุมากแล้วก็ตามแต่จิตใจฮึกเหิมก็ยังไม่ลด สมกับที่มีชื่อเสียงเหมือนกับท่าน!”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คนอย่างเหวินเติงเจิน ในชีวิตมีลูกศิษย์นับไม่ถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นยังดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งหมดด้วย เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ตราบใดที่เขายินยอม คนมีความสามารถที่โดดเด่นของประเทศหลงครึ่งหนึ่ง ต่างก็สามารถให้เขาใช้งานได้!”
“จ้านหยางคิดว่า ถ้าท่านทำให้เสิ่นจูนอี๋ลำบากใจ ยังต้อง……คิดดีๆแล้วค่อยลงมือทำ!”
ด้วยวิสัยทัศน์ล้ำเกินไปของเหวินเติงเจิน ให้ความสำคัญกับนิสัยใจคอซื่อตรงมากที่สุด จะมองเสิ่นจูนอี๋ด้วยความให้เกียรติได้หรอกเหรอ?
ไม่ใช่ว่าในนั้นมีเรื่องอื่นซ่อนเร้นอยู่หรอกนะ?
“ตอนนี้นายรีบเดินทางไปที่เมืองหลวง ไปรับตัวเหวินเติงเจินมาด้วยตัวเอง”
เย่อู๋เทียนไม่ได้บอกกับเฉาจ้านหยาง ว่าเหวินเติงเจินเป็นลูกศิษย์ของตัวเอง
อย่างแรก เป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่นในปีนั้น ถือเป็นจริงเป็นจังไม่ได้
อย่างที่สอง ไม่เจอกันเจ็ดปี ใครจะไปรู้ว่าคนที่กุมอำนาจไว้ในมืออย่างเหวินเติงเจิน จะเหมือนกับเมื่อก่อนหรือเปล่า
เฉาจ้านหยางก้มหัวคำนับ และหันหลังออกไป
นอนอยู่โรงพยาบาลหนึ่งคืน
ในเช้าตรู่ของวันถัดไป เย่อู๋เทียนเพิ่งจะมุ่งหน้าไปที่ปราสาทตระกูลเย่
แม้ว่าปีนั้นเย่จินหลิงจะไม่คำนึงถึงศีลธรรม แต่งงานกับเสิ่นจูนอี๋ แต่ยังไงซะทั้งสองคนก็เป็นพ่อลูกกัน
ก่อนที่แม่จะจากไป ก็อบรมสั่งสอนอย่างตั้งใจอยู่เสมอ
ผู้ชายจะยืนหยัดอยู่บนโลกใบนี้ ไม่เพียงแต่ต้องมีจิตใจอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่เท่านั้น ยังต้องมีใจที่กว้างขวางด้วย!
ขอแค่เย่จินหลิงเต็มใจยอมรับความผิดพลาดต่อหน้าวิญญาณของแม่ ปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสามปีห้าปี มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ทันทีที่เข้ามา ก็เห็นสมาชิกหลักของตระกูลเย่กับตระกูลเสิ่น ทั้งหมดรวมตัวกันในห้องโถงใหญ่ของปราสาทเพื่อโต้เถียง
“แม่ของเย่อู๋เทียน ฐานะต้อยต่ำความประพฤติไม่ดีและไม่ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบประเพณีอันดีงาม ไม่สมควรที่เสวยสุขได้รับความเคารพสูงสุดจากหอบรรพบุรุษตระกูลเย่ต่อไป!”
“เย่อู๋เทียนทำผิดครรลองครองธรรม กลับมาก็ทำให้เย่จินหลิงโกรธมากๆ ตกอยู่ในอันตราย แม่ของเขา ไม่คู่ควรที่จะถูกฝังในสุสานตระกูลเย่”
คำพูดของเสิ่นจูนอี๋ ก็โหดร้ายมากยิ่งขึ้น
“ฉันได้ยินมาว่า ตอนที่นังผู้หญิงสารเลวนั้นยังมีชีวิตอยู่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ก่อนแต่งงานกับเย่จินหลิง เข้าออกสถานบันเทิงบ่อยๆ ก็ไม่รู้ว่ามั่วกับชายชู้มาแล้วเท่าไหร่! เกรงว่าไอ้ระยำหมาอย่างเย่อู๋เทียน จะเป็นสายเลือดของตระกูลเย่หรือเปล่า ยังต้องพูดกันอีกที!”
สายเลือดโดยตรงตระกูลเย่ที่รุ่นราวคราวเดียวกันกับเย่จินหลิงพูดขึ้นมา: “เรื่องนี้ ฉันสามารถเป็นพยานได้ ปีนั้นพี่ชายของฉันไปบ้านนอก เพราะว่าอายุน้อย ไม่รู้จักธาตุแท้ของคน ถึงได้เข้าทางนังผู้หญิงสารเลวคนนั้น บอกว่าสถานที่หล่อนเข้าออกคือสถานบันเทิงงั้นเหรอ? หึ มองเธอสูงไปจริงๆ แค่เธอเข้าออกสถานที่แบบนั้น ราวกับห้องรับแขกของในบ้านนอก เป็นสถานที่แย่มาก คำเดียวเลย สกปรก!”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ลดลง ห้องโถงก็เยาะเย้ยอย่างต่อเนื่อง!
เย่อู๋เทียนที่ยืนอยู่นอกประตูเห็นฉากนี้เข้า เจ็บปวดหัวใจมากๆ ใบหน้ามีความอาฆาตแค้น
แม่ของเขา
สืบสายเลือดมาจากการสืบทอดความรู้และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม!
หลังจากที่แต่งงานเข้าตระกูลเย่ แม่ของเย่อู๋เทียน ปล่อยวางความรู้ทั้งหมด พาตัวเข้าสู่โลกของธุรกิจ ทำให้ทุกคนในตระกูลเย่สามารถมีชีวิตที่ดีได้!
ท้ายที่สุด ทำงานหนักจนล้มป่วย และเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ
แต่คิดไม่ถึงว่าคนที่ไว้ใจนั้น กลับเป็นคนหน้าซื่อใจคด!
ตอนนี้ คนได้จากไปเกือบยี่สิบปีแล้ว แต่กลับถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้เช่นนี้
ทำให้คน เจ็บปวดด้วยความผิดหวัง!
เจ็ดปีก่อน เย่อู๋เทียนทุ่มเทให้กับความดีความชอบในการรบ ปล่อยให้ตระกูลธุรกิจชั้นสองอย่างตระกูลเย่ ก้าวกระโดดกลายเป็นยักษ์ใหญ่ระดับโลก
สร้างให้ตระกูลเย่ที่แม่ตั้งใจบริหารงานตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ กลายเป็นตำนานในบรรดามหาเศรษฐี!
วันนี้ คนในตระกูลเย่ แต่ละคนกลับทำเหมือนกับเขาเป็นหมูหมา!
“หึ……หึๆ……”
เย่อู๋เทียนใบหน้าชั่วร้าย แสยะยิ้มต่อเนื่อง ก้าวเข้าไปตรงกลางห้องโถงใหญ่ของปราสาทตระกูลเย่ ทีละก้าว
และในเวลานี้ ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเพิ่มเติมความคิดเห็นลงไปอีกบ้าง
“ฉันว่า เสิ่นจูนอี๋นายหญิงตระกูลเย่ สตรีผู้ไม่ยอมเป็นรองบุรุษ ไม่เพียงแต่เป็นผู้ถือครองตระกูลเย่และตระกูลเสิ่นของเราเท่านั้น ก็เป็นลูกสาวบุญธรรมของเหวินเติงเจินด้วย ก็มีแต่คนแบบนี้เท่านั้น หนึ่งร้อยปีต่อมา ถึงมีคุณสมบัติที่จะถูกฝังไว้กับเย่จินหลิงผู้นำตระกูลเย่ของเรา!”
เย่อู๋เทียนกวาดสายตามองสมาชิกหลักหลายคนของตระกูลเย่และตระกูลเสิ่นอย่างเยือกเย็น
“อยากตายมากขนาดนั้นเลยเหรอ? งั้นฉันก็จะทำให้พวกแกสมหวัง!”