จอมนักรบอหังการ - บทที่ 128 ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุด อิสสา !
จอมนักรบอหังการ บทที่ 128 ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุด, อิสสา !
เมื่อคำพูดนี้ของท่านฮัวจบลง บรรยากาศด้านหน้าของบาร์ก็เคร่งขรึมขึ้นในทันที
แขกบางคนซึ่งเดินผ่านทางมา หยุดเดินและมองมายังเย่อู๋เทียนด้วยความสงสัย พวกเขาแอบคิดในใจ คนผู้นี้มาจากไหน ? ทำไมถึงทำให้ท่านฮัวต้องลงมาสั่งสอนด้วยตัวเอง ?
ต้องรู้ก่อนว่าท่านฮัวมีสถานะอะไรในเจียงไห่ ? เขาเป็นรองแค่เจ้าของไดนาสตี้บาร์ หลินฟู่เซิง เพียงคนเดียว !
และหลินฟู่เซิงมีสถานะเป็นอะไร ? เป็นถึงหนึ่งในสามของผู้มีอำนาจสูงสุดในพื้นที่สีเทาเขตสามเหลี่ยมแห่งปากแม่น้ำแยงซี ลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของฉาวซิง !
ด้วยเหตุที่กล่าวมา จากการพิจารณาพื้นที่ทั่วทั้งเจียงไห่แล้ว ผู้ที่ทำให้ท่านฮัวต้องลงมือสั่งสอนด้วยตัวเอง นอกจากจะเป็นศัตรูกับหลินฟู่เซิง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำให้ท่านฮัวลงมือ !
ตอนนี้ชายหนุ่มซึ่งดูภูมิฐาน รูปร่างหน้าตาดีคนนี้ กลับทำให้ท่านฮัวต้องลงมือด้วยตัวเอง !
ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาจากตระกูลร่ำรวยตระกูลไหน !
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ เมื่อตกเป็นเป้าหมายของท่านฮัวแล้ว การที่จะหนีไปคงเป็นเรื่องยาก !
นอกจากแขกที่เดินผ่านทางเหล่านี้แล้ว อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเองก็ตกใจเช่นกัน และจนกระทั่งถึงตอนนี้เธอเพิ่งจะนึกออกว่า ไดนาสตี้บาร์แห่งนี้เป็นธุรกิจของฉาวซิง
ตอนกลางวันที่ฟิลลิป แฟชั่น เย่อู๋เทียนได้ปฏิเสธการสารภาพรักของหยางเฟยเอ๋อร์ต่อหน้าผู้คน ฉาวซิงในฐานะที่เป็นพ่อของหยางเฟยเอ๋อร์ และในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามของผู้มีอำนาจสูงสุดในสามเหลี่ยมแห่งปากแม่น้ำแยงซี ก็ไม่แปลกที่เขาจะไม่ปล่อยเย่อู๋เทียนไป !
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยแอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เธอไม่ควรพาเย่อู๋เทียนมาที่ไดนาสตี้บาร์ !
และในตอนนี้ท่านฮัวก็ได้หันกลับและเดินเข้าไปด้านในของบาร์ เห็นได้ชัด จากตัวตนของเขา ในเมื่อเขาพูดออกมาแล้วว่าต้องการเลี้ยงเหล้าเย่อู๋เทียน จากนั้นค่อยจัดการกับเย่อู๋เทียน……
งั้น……
เย่อู๋เทียนก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องจากไป
และก็ไม่กล้าจากไป
ในเจียงไห่ ใครบ้างที่ไม่รู้จักฝีมือของท่านฮัว ?
หากท่านฮัวจัดการกับใครด้วยตนเอง นั่นหมายความว่าเป็นการให้เกียรติ
หากคนผู้นั้นหักหน้าของท่านฮัว ต่อให้เขาหนีไปสุดขอบฟ้า ท่านฮัวก็จะสั่งให้คนไปจับตัวมาจนได้
แน่นอนว่าจนถึงตอนนี้ ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของท่านฮัวก็ยังไม่เคยมีใครกล้าหนีไป !
เนื่องจากผลของการหนีนั้นมันช่างน่าสังเวช !
ครั้งที่แล้วมีคนไม่ฟังที่ท่านฮัวพูด หักหน้าท่านฮัว ตอนนี้เขากลายเป็นขอท่านในสถานะรถไฟ แถมยังต้องนอนขอทานกับพื้น
ช่วยไม่ได้ แขนและขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทำได้เพียงใช้ชีวิตอยู่แบบน่าอนาถเช่นนั้น !
เรื่องนี้อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเองก็พอได้ยินมาอยู่บ้าง หลังจากได้รู้ว่าชายร่างใหญ่ที่มีรอยสักบนศีรษะผู้นี้คือท่านฮัว อ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็พูดกับเย่อู๋เทียนทันทีว่า “เย่อู๋เทียน นายรีบโทรศัพท์ไปหาหยางเฟยเอ๋อร์เร็ว ให้เธอมาช่วยพูดให้นาย ! ชายหัวล้านคนนี้ฉันรู้จัก เขาคือคนของฉาวซิง ชื่อเสียงของเขาโหดเหี้ยม ! หากตกเป็นเป้าหมายของเขา ไม่มีทางจบสวยแน่นอน ! นายจะยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ? ดันไปยุ่งกับลูกสาวของฉาวซิง ! ฉันไม่รู้จะพูดกับนายอย่างไรดี !”
พูดถึงตรงนี้ อ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็หันไปพูดกับเสิ่นรั่วชิงอีกว่า “รั่วชิง เธอเองก็รีบโทรไปหาน้องสาวของเธอ ให้เสิ่นจูนอี๋มาที่นี่ แล้วก็เกาเยว่หรู ใครที่ควรเรียกมาเรียกมาให้หมด มีพวกเธออยู่ เย่อู๋เทียนน่าจะรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ !”
ท่าทางของเสิ่นรั่วชิงดูแปลกไป แต่ไม่มีสัญญาณของความกังวลในดวงตาของเธอ หันไปมองเย่อู๋เทียนและถามออกมาว่า “หรือพูดอีกอย่างก็คือ หยางเฟยเอ๋อร์หลงใหลในตัวนาย จนทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น ? ดังนั้นจึงส่งคนมาสร้างปัญหาให้นาย ?”
เย่อู๋เทียนยิ้มและพูดออกมา “เธอคงไม่ได้เป็นคนโง่ขนาดนั้น”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยจ้องมองเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงที่ไม่มีทางท่าร้อนใจเลยสักนิด เธอรีบพูดออกมาว่า “พวกเธอสองคนยังมั่วบื้ออยู่ทำไม? รีบโทรเรียกคนมาเร็ว ! ฉันเคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้มาก่อน มันเกิดขึ้นตอนที่ฉันไปเรียนต่างประเทศ เหตุการณ์คล้ายกับตอนที่อยู่ไชน่าทาวน์ เมื่อพบกับสถานการณ์เช่นนี้ควรเรียกคนมาถึงจะถูก ! วางใจ ในเมื่อฉันเป็นคนพาพวกเธอมา ฉันจะรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของพวกเธอเอง ขอแค่พวกเธอฟังที่ฉันพูด ปัญหาที่ยิ่งใหญ่นี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กอย่างแน่นอน !”
เย่อู๋เทียนยักไหล่และพูดว่า “ฉันไม่มีเวลาที่จะมาคุยกับพวกสวะพวกนี้ เข้าไปกันเถอะ มาก็มาแล้ว ดื่มสักหน่อยค่อยไปแล้วกัน”
พูดจบเย่อู๋เทียนเดินจูงมือเสิ่นรั่วชิงเข้าไปในบาร์
ดวงตาคู่นั้นของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยเบิกกว้าง ไล่ตามเข้าไป พูดออกมาด้วยความร้อนรนมากกว่าเดิม “เย่อู๋เทียน นายคิดว่าฉันกำลังทำร้ายนายอยู่ใช่ไหม ? ฉันรู้ว่านายทำงานในกองทัพ และนายอาจจะเก่งมาก แต่ที่นี่มันที่ไหน ที่นี่มันเป็นที่ของหลินฟู่เซิง ! นายรู้ไหมว่าหลินฟู่เซิงเป็นใคร ? นายรู้ไหมว่าชายหัวล้านคนเมื่อกี้เป็นใคร ? คนพวกนี้ทำชั่วไม่เลือกหน้า พวกเขาไม่ใช่พวกอันธพาลทั่วไป ! ”
เย่อู๋เทียนถามออกมาว่า “หรือพูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาเป็นอันธพาล ?”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดอย่างเคร่งขรึม “แน่นอน พวกเขาคืออันธพาลในหมู่ของอันธพาล เป็นพวกกลุ่มอันธพาลที่ชอบทำร้ายคนอื่น !”
เย่อู๋เทียนถามออกมา “งั้นเธอมาบาร์ของพวกอันธพาลเพื่อดื่มเหล้า ไม่กลัวอันธพาลรังแกหรือไง ?”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยผงะอยู่ครู่หนึ่ง พูดออกไปว่า “โดยปกติแล้ว ตราบใดที่ฉันไม่ยั่วยุพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะรังแกฉัน”
เย่อู๋เทียนพูดออกมาว่า “ฉันเองก็ไม่ได้ไปยั่วยุอะไรพวกเขา”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดออกมาด้วยความตกใจว่า “แบบนี้นายยังจะมาบอกว่านายยังไม่ได้ไปยั่วยุอะไรพวกเขาอีกงั้นเหรอ ? นายไปนอนกับลูกสาวเจ้านายของพวกเขามาแล้ว……นาย……นายนอนกับหยางเฟยเอ๋อร์มาแล้วจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ ? ไม่อย่างนั้นฉาวซิงจะส่งให้คนมาทำแบบนี้กับนายได้อย่างไง ? ไม่ใช่ ไม่ว่านายจะเคยนอนกับหยางเฟยเอ๋อร์มาหรือไม่ เรื่องนี้เอาไว้คุยกันทีหลัง ตอนนี้นายต้องรีบโทรไปหาหยางเฟยเอ๋อร์ ให้เธอมาช่วยนาย อย่างน้อยแบบนี้ก็พอจะสามารถป้องกันตัวเองได้ และมันส่งผลดีกับเสิ่นรั่วชิงด้วย !”
เย่อู๋เทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ยิ้มและพูดออกมาว่า “ได้ ฉันจะโทร”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “เป็นไง ฉันพูดอย่างไงก็เป็นอย่างนั้น นายมีความสัมพันธ์อย่างว่ากับหยางเฟยเอ๋อร์จริง ๆ !”
“……”
เย่อู๋เทียนพูดไม่ออก
แต่เขาก็เดินออกไปโทรศัพท์ด้านข้าง
แต่เขาไม่ได้โทรไปหาหยางเฟยเอ๋อร์ เขาโทรไปหาเหยียนมู่จือ
ในเจียงไห่ เย่อู๋เทียนไม่ต้องการเห็นอันธพาลปรากฏตัว
หลังจากเหยียนมู่จือรับโทรศัพท์ เย่อู๋เทียนก็พูดออกมาเพียงหนึ่งประโยคว่า “พาคนมาที่ไดนาสตี้บาร์ นำตัวของผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้ แล้วก็ชายที่ถูกเรียกว่าท่านฮัวกลับไปสอบสวน”
อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ เหยียนมู่จือตอบกลับด้วยความเคารพ “ครับ ชิงตี้”
วางสายโทรศัพท์ เย่อู๋เทียนหยิบน้ำแข็งมาก้อนหนึ่งจากถาดของพนักงานเสิร์ฟผู้หญิงที่เดินผ่าน บีบมันจนละเอียด จากนั้นเขาสะบัดตะกรันน้ำแข็งไปทางท่านฮัวซึ่งนั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์
เกือบจะชั่วพริบตา ท่านฮัวสัมผัสได้ถึงความเย็นจากด้านหลัง ขณะที่เขากำลังจะหยิบแก้ววิสกี้ตรงหน้า เขาก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นท่านฮัวขมวดคิ้ว สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมาก เขารีบลุกจากเก้าอี้สูง รีบวิ่งไปยังห้องน้ำด้วยความทรมาน
ท่านฮัวต้องการเสียงเหล้าเย่อู๋เทียนสักหนึ่งแก้ว จากนั้นค่อยกับการกับเย่อู๋เทียน ?
ค่ำคืนนี้ จะเป็นคืนที่ท่านฮัวนอนไม่หลับ
แม้จะผ่านไปอีกสองวัน เขาก็อย่าคิดว่าจะได้หลับ
เหมือนกับว่าเขาได้กินต้นสลอดจำนวนมากเข้าไป วิ่งเข้าห้องน้ำตลอดเวลา ต่อให้ทานยาฆ่าเชื้อหรือลำไส้อักเสบเฉียบพลันก็ไม่มีประโยชน์
สิบกว่านาทีหลังจากนั้น ท่านฮัวเดินออกมาจากห้องน้ำ ขาของเขาสั่น แต่เพิ่งจะเดินถึงประตูห้องน้ำ ท้องของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง ช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงกลับเข้าไปอีกครั้ง
ไม่เข้าใจ !
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
มันจะปวดท้องแบบไม่มีสาเหตุได้อย่างไร ?
ในตอนนี้เย่อู๋เทียนกำลังนั่งดื่มอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยมองไปรอบด้านด้วยความระมัดระวัง มองหาเงาของท่านฮัว พูดออกมาด้วยความสงสัยว่า “เจ้านั่นไปไหน ? เมื่อกี้ยังดูก้าวร้าวจะตายไป ทำไมตอนนี้ถึงไม่เห็นแม้แต่เงา ?”
เย่อู๋เทียนยิ้มออกมาเล็กน้อย “น่าจะเป็นผลจากที่ฉันโทรศัพท์ออกไปเมื่อกี้”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยหัวเราะอย่างเยือกเย็น “นายกับหยางเฟยเอ๋อร์มีความสัมพันธ์แบบว่าอย่างที่คิด ! ไม่อย่างนั้นหยางเฟยเอ๋อร์ไม่มีทางรับโทรศัพท์ของนาย และไม่มีทางช่วยนายจัดการกับเจ้าหัวล้านนั่น !”
รอยยิ้มของเย่อู๋เทียนยังคงเหมือนเดิม หันหน้าไปทางเสิ่นรั่วชิง ถามออกมาว่า “ที่รัก เธอเชื่อไหมว่าฉันมีความสัมพันธ์แบบที่คนอื่นไม่สามารถรับรู้ได้กับหยางเฟยเอ๋อร์ ?”
เสิ่นรั่วชิงไม่ใส่ใจเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย สายตาของเธอจ้องมองไปยังพนักงานหญิงในร้านและเหล่าแขกเพศหญิง ในใจรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ทำไมผู้หญิงพวกนี้ถึงได้กล้าแต่งตัวถึงขนาดนั้น กระโปรงสั้นแบบนี้ยังเรียกว่าสั้นได้อยู่ไหม ?แถมยังมีพวกชาวต่างชาติอีก รูปร่างช่างดูดีเหลือเกิน……
เย่อู๋เทียนตบไหล่ของเสิ่นรั่วชิงเบา ๆ เป็นการเตือน “ที่รัก ?”
เสิ่นรั่วชิงถึงได้สติกลับคืนมา พูดออกมาด้วยความตกใจว่า “มีอะไรงั้นเหรอ ?”
เย่อู๋เทียนเห็นว่าเสิ่นรั่วชิงดูแปลกไปจึงถามออกมาว่า “เธอเป็นอะไรเหรอ ?”
เสิ่นรั่วชิงพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ “ทำไมที่นี่ถึงได้มีผู้หญิงหน้าตาดีอยู่เต็มไปหมด รูปร่างของพวกเธอดีมาก นายลองดูสิ โดยเฉพาะผู้หญิงรูปร่างสูง จมูกโด่งคนนั้น ทำไมรูปร่างของเธอถึงได้ดีขนาดนั้น ? ที่รัก นายไปถามให้หน่อยได้ไหมว่าเธอทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ได้เงินเท่าไหร่ ? ผู้หญิงแบบนี้มองแล้วสบายตา ให้เธอมาเป็นพนักงานบ้านเราจะดีไหม ? บ้านของพวกเราเองก็มีบาร์เล็ก ๆ แต่พนักงานในบาร์ของบ้านเรา เขา……จะพูดอย่างไงดี คือไม่ได้ดูดีเท่าผู้หญิงคนนี้ ! เธอสวยมาก !”
การแสดงออกบนใบหน้าของเย่อู๋เทียนในตอนนี้นั้นยากที่จะอธิบาย
มันช่าง……
ทำดีนั้นทำยาก แต่ทำชั่วนั้นง่ายนิดเดียว !
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเห็นการแสดงออกของเสิ่นรั่วชิงในตอนนี้ เธอเองก็พูดไม่ออก แต่เมื่อมองไปตามสายตาของเสิ่นรั่วชิง เธอเองก็รู้สึกตกใจเหมือนกับเมื่อได้เห็นผู้หญิงรูปร่างสูง จมูกโด่งที่สวมชุดบันนี่เกิร์ล
มันคือความจริง……
งดงามเหลือเกิน !
และในตอนนั้นเอง อ้ายเสี่ยวเตี๋ยและเสิ่นรั่วชิงหลงใหลในตัวของพนักงานหญิงคนนั้น เธอเดินถือถาดมายังทางด้านนี้
ผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า ผิวสีขาวในชุดบันนี่เกิร์ล เธอดูสง่างามราวกับนางฟ้าที่ตกลงมาจากสวรรค์ แต่ในตอนที่เธอเดินมาถึงเคาน์เตอร์บาร์ เธอกลับหันมามองเย่อู๋เทียน
“เธอมาแล้ว เธอมาแล้ว !” เสิ่นรั่วชิงเห็นผู้หญิงผมสีบลอนด์ในชุดบันนี่เกิร์ลเดินเข้ามา หัวใจของเธอเต้นแรง จับแขนของเย่อู๋เทียนและพูดว่า “ที่รัก ขอนามบัตรของเธอ ฉันอยากเรียนภาษาอังกฤษกับเธอ !”
เย่อู๋เทียนหันไปมองผู้หญิงผมสีบลอนด์ในชุดบันนี่เกิร์ลพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะปรากฏตัวออกมาที่นี่
ไม่ใช่ว่ากลายเป็นนักโทษของประเทศหลงไปแล้วเหรอ ?
ประเทศมหาอำนาจ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ระดับสูง อิสสา เดินเข้ามาหาเย่อู๋เทียนทีละก้าวพร้อมกับเลียริมฝีปากของตนเองในเวลาเดียวกัน หลังจากเดินมาถึงด้านหน้าของเย่อู๋เทียนแล้ว วางถาดลงไว้ด้านข้าง จากนั้นหยิบค็อกเทลขึ้นมาหนึ่งแก้ว ใช้ภาษาจีนที่ได้มาตรฐานพูดคุยกับเย่อู๋เทียน “นายท่านผู้มีเกียรติ ผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของคุณ ขอให้ฉันได้มีความสุขกับการดื่มกับคุณสักแก้วได้ไหม ?”
เสิ่นรั่วชิงและอ้ายเสี่ยวเตี๋ยถึงกับตกตะลึง
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน ?