จอมนักรบอหังการ - บทที่ 131 เสิ่นรั่วชิงที่ทรงเสน่ห์
จอมนักรบอหังการ บทที่ 131 เสิ่นรั่วชิงที่ทรงเสน่ห์!
เหมือนกับหลินฟู่เซิง อ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็ตกใจจนหมดสติเหมือนกัน
แม้ว่าเย่อู๋เทียนไม่ได้คิดร้ายต่ออ้ายเสี่ยวเตี๋ยแม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อกี้อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเพิ่งเห็นเย่อู๋เทียนฝังหานหยุนเฉ่าเข้าไปในพื้นดินโดยตรงราวกับว่าปลูกต้นกล้า……
ช่างน่าตกใจจริงๆ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หานหยุนเฉ่ายังกระอักเลือดเพราะเหตุนี้
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเพียงแค่เหลือบมองหานหยุนเฉ่าที่กระอักเลือดทีหนึ่ง ก็รู้สึกว่า ทั้งหัวราวกับว่าไม่ใช่ของตัวเองแล้ว
เธอเมาเลือด!
เสิ่นรั่วชิงมาพยุงอ้ายเสี่ยวเตี๋ยโดยไม่รู้ตัว รีบพูด : “เสี่ยวเตี๋ย เธอ…..เธอเป็นอะไร?”
เย่อู๋เทียนมองอ้ายเสี่ยวเตี๋ยอย่างไม่แยแส พูดกับเสิ่นรั่วชิง : “เธอไม่เป็นอะไร เพียงแค่ตกใจมากเกินไปเลยทำให้หมดสติ”
เสิ่นรั่วชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก บ่นพึมพำ : “คุณเนี่ยนะ ต้องการสั่งสอนไอ้แซ่หานคนนี้ ก็หาที่ที่ไม่มีคนสิ ดูสิทำให้เสี่ยวเตี๋ยของฉันตกใจหมดแล้ว!”
เย่อู๋เทียนหยุดสักพัก และพูด : “ครั้งหน้าผมจะระวัง”
เสิ่นรั่วชิงมองเหยียนมู่จือ และพูด : “ยังจะอึ้งอยู่ทำไม รีบพาเพื่อนสนิทของฉันไปที่ที่อากาศค่อนข้างถ่ายเทสิ”
เหยียนมู่จือไม่ชักช้า รีบสั่งคน พยุงอ้ายเสี่ยวเตี๋ยขึ้นมา ออกไปข้างนอก
เสิ่นรั่วชิงเป็นห่วงอ้ายเสี่ยวเตี๋ย จึงตามไป แต่เดินได้ไม่กี่ก้าว ก็หันกลับมามองเย่อู๋เทียนอีกครั้ง และพูดว่า : “รีบจัดการให้เสร็จเรื่อง ยังต้องกลับไปพักผ่อนที่บ้านอีก”
เย่อู๋เทียนพยักหน้า
จากนั้น ภายใต้สายตาที่จับตามองของทุกคน เสิ่นรั่วชิงก็ออกไปข้างนอกแล้ว
ทุกที่ที่เดินผ่าน เต็มไปด้วยความเงียบ
ในเวลานี้ ชายหนุ่มในชุดทหารคนหนึ่ง เดินมาอยู่ด้านข้างหลินฟู่เซิงแล้ว ยกขาแล้วเหยียบไปบนนิ้วมือของเขา ทำให้หลินฟู่เซิงถูกปลุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
หานหยุนเฉ่ามีเพียงหัวที่โผล่พ้นพื้น สายตาที่มองเย่อู๋เทียน มันไม่ได้เป็นแค่ความหวาดกลัวแล้ว แต่เป็นเหมือนไก่ที่เป็นโรคตัวหนึ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความหดหู่
เขานึกไม่ถึงเลยว่า เย่อู๋เทียนจะน่ากลัวถึงขนาดนี้ น่ากลัวมากจนตอนนี้เขาไม่รู้สึกถึงความโกรธและความเกลียดชังเลยแม้แต่น้อย
และในตอนนี้ หานหยุนเฉ่ามีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น ตัวเอง จะตายหรือไม่!
หลังจากหลินฟู่เซิงฟื้นขึ้นมา ก็ส่งเสียงกรีดร้อง จนกระทั่งชายในชุดทหารยกเท้าขึ้น เสียงกรีดร้องของเขาจึงค่อยๆเบาลงน้อย จากนั้นทำตัวเหมือนหมาตัวหนึ่ง คลานไปอยู่ที่เท้าของเย่อู๋เทียน
ต้องการขอความเมตตา กลับไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหนดี
ทำได้แค่ยอมให้อีกฝ่ายลงโทษอย่างตามใจเท่านั้น!
ภายในบาร์ เงียบอย่างมาก
ทุกคนต่างหันความสนใจมาที่เคาน์เตอร์บาร์แล้ว ใครก็คิดไม่ถึง หลินฟู่เซิงผู้ทรงอิทธิพลและทะเยอทะยานที่ทำความชั่วทุกอย่างในเจียงไห่ จะมีวันนี้ได้!
เย่อู๋เทียนมองลงไปที่หลินฟู่เซิง เอื้อมมือไปหยิบแก้ววิสกี้ข้างๆมาหนึ่งแก้ว จิบหนึ่งคำ พูดอย่างไม่แยแส : “โทรหาฉาวซิง”
หลินฟู่เซิงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา พูด : “ได้ ผม…..ผมจะโทรศัพท์หาท่านฉาวเดี๋ยวนี้เลย! ทั้งหมด……ทั้งหมดล้วนแล้วเป็นท่านฉาวที่สั่งให้ผมทำ และผม…..ผมก็ไม่รู้จักตัวตนของคุณ ดังนั้น…..”
เย่อู๋เทียพูดขัดจังหวะ : “ความหมายของแกคือ ถ้าหากฉันไม่ใช่เย่อู๋เทียน แต่เป็นคนธรรมดา แกก็สามารถจัดการฉันได้งั้นเหรอ?”
หลินฟู่เซิงก้มหน้าพูด : “ข้าน้อยมิกล้า! ข้าน้อยมิกล้า!”
เย่อู๋เทียนหัวเราะอย่างเย็นชา : “แกเป็นทรราชของเจียงไห่ มีอะไรไม่กล้าทำ?”
หลินฟู่เซิงก้มหัวคำนับ ร้องไห้อย่างขมขื่นและพูด : “โปรดยกโทษให้ด้วย ข้าน้อยสัญญา หลังจากนี้ จะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ จะไม่ทำเรื่องชั่วร้ายอีกต่อไป!”
เย่อู๋เทียนพูดอย่างไม่แยแส : “สายไปแล้ว!”
ใบหน้าของหลินฟู่เซิงซีดเซียว
เย่อู๋เทียนทิ้งไว้หนึ่งประโยค : “โทรศัพท์ไปบอกฉาวซิง หลังจากนี้สองวัน ฉันจะไปที่เจียงหนาน ถึงเวลานั้น ให้เขาส่งพวกลูกพี่ในวงการทั้งหมดที่เขาฝึกฝนมาหลายปีไปเรือนจำปาเจี่ยวเจียงหนาน ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้พวกแกตายทั้งเป็น!”
สิ้นเสียง เย่อู๋เทียนหันตัวจากไป
ส่วนหานหยุนเฉ่าที่โผล่ขึ้นมาแค่หัว เย่อู๋เทียนไม่ได้เหลือบมองเลยด้วยซ้ำ
หลังจากหลายนาที ฉาวซิงที่อยู่เจียงหนาน ได้รับโทรศัพท์จากหลินฟู่เซิง หลังจากเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็โกรธจนแทบบ้า!
ฉาวซิงตะคอกเสียงดังใส่หลินฟู่เซิงทางโทรศัพท์ : “ไอ้คนแซ่หลิน! ฉันให้แกไปตรวจสอบตัวตนของเย่อู๋เทียน! ค้นหาที่อยู่ที่แน่นอนของเขา ลูกสาวของฉันอยากจะเป็นผู้หญิงของเขา! ฉันต้องการประจบประแจงเขา! ฉันต้องการมอบของขวัญให้เขา! แก…..ฉันแม่งเคยพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ ว่าให้แกไปหาเรื่องให้เย่อู๋เทียน!?”
หลินฟู่เซิงได้ยินคำพูดนี้ ถึงกับหน้าซีด
แต่ยังไม่ทันที่หลินฟู่เซิงจะได้พูดอะไร เขาก็ถูกชายในชุดทหารสองคนข้างๆ ลากออกไปนอกบาร์เหมือนหมาตัวหนึ่ง
และในตอนนั้นเอง อิสสาที่อยู่ในสถานที่ จู่ๆก็ถือขวดวิสกี้ขวดหนึ่ง เดินมาตรงหน้าหานหยุนเฉ่าที่โผล่ออกมาแค่หัว ก้มหน้าลง ไม่พูดพร่ำทำเพลง ทุบขวดไวท์ลงไปบนหัวของหานหยุนเฉ่า
ปัง!
เศษแก้วกับเหล้าสาดกระเซ็น
และเป็นเพราะเหล้าขวดนี้ หัวของหานหยุนเฉ่าถึงกับเอียง ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง
อิสสาถึงค่อยถอนหายใจเบาๆ : “อวดเก่งต่อหน้าใครไม่ว่า? ดันมาอวดความน่าเกรงขามต่อหน้าเย่อู๋เทียน! ไม่รู้จักเจียมกะลาหัวซะบ้าง!”
สิ้นเสียง อิสสามองดูคนอื่นๆในบาร์ หลังจากนั้นหัวเราะออกมา และพูด : “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป บาร์แห่งนี้ก็คือฉันแล้ว ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ต้องช่วยฉันเป็นพยาน ฉัน อิสสา ลูกสาวของเจ้าสำนัก สักนักพระเจ้าแห่งทวีปตะวันตก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเย่อู๋เทียนทวีปแห่งตะวันออกของพวกคุณ! บางทีตอนนี้พวกคุณยังไม่รู้ว่าฉันพูดอะไร แต่ต้องมีสักวัน พวกคุณจะเข้าใจเอง!”
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ต่างทำอะไรไม่ถูก
สำหรับสักนักพระเจ้าแห่งตะวันตก คนที่อยู่ที่นี่ล้วนเคยได้ยิน ภายในองค์การศาสนาโลก สักนักพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นอำนาจ หรือจะเป็นสาธุชน ล้วนแล้วเป็นอันดับหนึ่งทั้งหมด!
หญิงสาวในชุดกระต่างตรงหน้าที่แต่งตัวเหมือนสาวขายบริการ บอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวของเจ้าสำนัก สักนักพระเจ้า?
น่าเหลือเชื่อจริงๆ!
เพียงแต่…..
เสน่ห์ของเธอไม่เหมือนใครในโลกจริงๆ
ต่อให้ตัดตัวตนของเธอออกไป ผู้หญิงที่โดดเด่นแบบนี้ คาดไม่ถึงว่าจะยอมก้มกราบแทบเท้าเย่อู๋เทียนด้วยความเต็มใจ เพียงพอที่จะทำให้คนฮึกเหิม
และทั้งหมดที่ว่ามานี้ เย่อู๋เทียนกลับไม่รู้
เย่อู๋เทียนยิ่งไม่รู้ว่า นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป บาร์ที่อยู่ตรงหน้า ได้มีชื่อใหม่แล้ว
ผับทาสสวรรค์!
และเพราะเหตุนี้ อิสสา กลายเป็นสวะคนแรกของสักนักพระเจ้าแห่งตะวันตก!
หลังจากเจ้าสำนัก สักนักพระเจ้าทราบเรื่องนี้ก็โมโหขึ้นมาทันที ถึงขั้นออกคำสั่งให้ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในทวีปตะวันตก เดินไปตะวันออก เพื่อฉีกเย่อู๋เทียนให้เป็นแปดชิ้นโดยเฉพาะ!
เช้าตรู่
เขาทะเลหมอก วิลล่าบนยอดเขา
ภายในห้องรับแขก อ้ายเสี่ยวเตี๋ยตื่นอย่างสมบูรณ์แล้ว
เสิ่นรั่วชิงได้สวมชุดทางการที่ค่อนข้างสง่างามแล้ว
แต่ว่า สง่างามเพียงแค่ท่อนบน แน่นอนว่ากระโปรงท่อนล่างก็สวยสง่าเช่นกัน บนขากลับสวมถุงน่องสีเนื้อที่มีสายรัด แถมยังเป็นแบบที่บางเหมือนปีกจักจั่น
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยที่นอนอยู่บนเตียงมองตรงไปที่เสิ่นรั่วชิง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามไปว่า : “เธอแต่งตัวแบบนี้ คือจะนอนกับฉันที่ห้องรับแขก หรือจะกลับไปที่ห้องนอนใหญ่ เพื่อนอนกับเย่อู๋เทียน?”
ใบหน้ารูปไข่ของเสิ่นรั่วชิงแดง ถามกลับด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นว่า : “ก็หมายความว่า การที่ฉันแต่งตัวแบบนี้ มันสวยมากเลยใช่มั้ย? สามีของฉันต้องชอบใช่มั้ย?”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยไม่พูด
เสิ่นรั่วชิงกัดริมฝีปากล่าง พูดอย่างอายๆ : “ถ้าอย่างนั้น…..ฉันขอกลับห้องก่อนนะ เธอพักผ่อนอยู่ที่นี่ให้สบายใจ มีตรงไหนไม่สบาย เรียกบริกรของบ้านฉันก็พอ ห้ามมารบกวนฉันเป็นอันขาด!”