จอมนักรบอหังการ - บทที่ 146 หานฟางอวี้คารวะเจ้าบ้าน!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 146 หานฟางอวี้คารวะเจ้าบ้าน!
ตอนนี้หานเฟิ่งอี๋ตกอยู่ในภาวะโดนตบจนมึนงงไปหมดแล้ว พอได้ยินเย่อู๋เทียนพูดแบบนี้ ก็ดีใจยิ่งนัก นี่เย่อู๋เทียนจะ….ปล่อยเธอกลับตี้ตูหรอ?
หานเฟิ่งอี๋จ้องเย่อู๋เทียนตาเขม็ง ถึงจะอัปยศถึงขีดสุด แต่ที่สำคัญตอนนี้ ต้องรีบไปจากที่นี่ก่อนค่อยว่ากัน!
พอคิดอย่างนี้ หานเฟิ่งอี๋กำลังจะพูดว่า ได้ งั้นฉันจะกลับไปถามๆดู ตราในมือแกนี่เป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่ แต่ไม่รอหานเฟิ่งอี๋เอ่ยปากถาม…
เย่อู๋เทียนพลันพูดขึ้นเสียงเรียบว่า “ก่อนไป ปลงผมก่อน แล้วก็อำนาจของหานซื่อกรุ๊ป ยังต้องให้ก่อน!”
สำหรับเรื่องโครงสร้างหุ้นส่วนของหานซื่อกรุ๊ป ก่อนหน้านี้เย่อู๋เทียนทำความเข้าใจมาแล้ว
ระดับผู้บริหารคือหานหยุนเซียว CEOคือหานจื่อหยวน ทั้งสองคนร่วมกันถือหุ้นคนละประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์ของหานซื่อกรุ๊ป ส่วนหุ้นที่เหลือ ส่วนใหญ่อยู่ในมือของหานเฟิ่งอี๋
จากนั้นขอเพียงคณะกรรมการที่หานเฟิ่งอี๋เป็นตัวแทนหานซื่อกรุ๊ปโอนหุ้นส่วนใหญ่ของหานซื่อกรุ๊ปให้กับเทียนจวินกรุ๊ป แบบนี้ก็เท่ากับว่า หานซื่อกรุ๊ปจะกลายเป็นเหมือนเย่ซื่อกรุ๊ปกับเสิ่นซื่อกรุ๊ปของเจียงไห่ รวบเข้าเป็นธุรกิจลูกภายใต้เครือข่ายเทียนจวินกรุ๊ปหมด!
หานเฟิ่งอี๋ได้ยินคำพูดของเย่อู๋เทียนแล้วเหมือนโดนสายฟ้าฟาด พูดด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “ฝันไปเถอะแก
! ฉันหานเฟิ่งอี๋ต่อให้ตาย ก็ไม่มีทางยกอำนาจของหานซื่อกรุ๊ปไปไว้ในมือแก!” สำหรับหานเฟิ่งอี๋แล้วหานซื่อกรุ๊ปอันที่จริงแล้วไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
แต่ในธนาคารเอกชนบางแห่งภายใต้หานซื่อกรุ๊ปมีของล้ำค่าบางอย่างเก็บไว้อยู่! หานเฟิ่งอี๋ไม่สามารถปล่อยมือได้!
เพราะของพวกนั้นเกี่ยวพันไปถึงการเดินทางไปงานประมูลชุนชิวในอีกสามวันให้หลังของถังเลี่ยน ว่าจะสามารถซื้อของที่เขาต้องการได้หรือไม่!
เย่อู๋เทียนกำลังจะพูดอะไร เสียงแหบพร่าเสียงหนึ่งส่งเสียงขึ้นทางด้านหลังของเขา
“ในเมื่อเจ้าบ้านบอกแล้วว่า จะไล่เธอหานเฟิ่งอี๋ออกจากตระกูลหาน ทำไมเธอถึงยังจะคิดจะหาทางรอดตอนนี้อีกล่ะ?”
ทุกคนหันมองไป และก็เห็นคนแก่ในชุดเสื้อคลุมยาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นห่างออกไปร้อยเมตร ผมเผ้าขาวโพลน คิ้วโก่งงาม ดวงตาคมดุจนกฟีนิกส์ ดั้งจมูกสูงโปร่ง ริมฝีปากบาง สูงราวหนึ่งร้อยเก้าสิบ ยืนไขว้มือไว้ข้างหลังอยู่ตรงนั้น ประหนึ่งวัดเก่าบนเขา ทำให้คนรู้สึกเคร่งขรึมและสุขุม!
หลังจากเห็นเขาแล้ว คนส่วนมากในที่นั้นต่างมีสีหน้าอึ้งตะลึง!
คนแก่คนนี้…
ใครกัน?
มีเพียงหานเฟิ่งอี๋และคนตระกูลหานในที่นั้นที่มาที่นี่เพราะเธอ มีสีหน้าตกตะลึง!
โดยเฉพาะหานหยุนเซียว พอเห็นคนแก่คนนี้ใบหน้ายังสั่นเทา
หานฟางอวี้!
ปู่แท้ๆของหานเฟิ่งอี๋!
มาไกลจนถึงเจียงไห่เลย?
ที่เหลือเชื่อยิ่งไปกว่านั้นคือ อีกฝ่ายเป็นปู่แท้ๆของหานเฟิ่งอี๋ แต่เวลานี้กลับพูดแทนเย่อู๋เทียน?
และเมื่อครู่เขาเรียกเย่อู๋เทียนว่าอะไรนะ?
เจ้าบ้าน?
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย?
หรือว่าตราจักรพรรดิในมือเย่อู๋เทียนจะเป็นตราที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษอันนั้นของตระกูลหานจริงๆ?
เหลือเชื่อจริงๆ!
พอหันมองหานเฟิ่งอี๋ที่ได้เห็นหานฟางอวี้ สีหน้าเธอไม่พอที่จะใช้คำว่าอ้าปากค้างมาบรรยายแล้ว
เพราะเธอรู้ดียิ่งกว่าใครว่า ห้าสิบปีก่อนหานฟางอวี้ก็ไม่ถามเรื่องใดๆในตระกูลหานแล้ว เขาตั้งอกตั้งใจอยู่ข้างกายอาจารย์หลวงหานที่เป็นหานเหล่าจู่ รับใช้อย่างระมัดระวัง ตอนน้เขากลับมาที่เจียงไห่นี่?
ยังยอมรับฐานะเย่อู๋เทียนในตระกูลหานด้วยตัวเอง?
หานเฟิ่งอี๋หน้าซีดเหมือนปลาตาย!
เย่อู๋เทียนถึงหันไปหาหานฟางอวี้
และในตอนนี้เอง หานฟางอวี้กลับทำราวย่นระยะทางได้ ทั้งๆที่อยู่ห่างจากเย่อู๋เทียนเกินร้อนเมตร แต่กลับเดินแค่ไม่กี่ก้าวก็มายืนหน้าเย่อู๋เทียน
ฉากนี้มองในสายตาทุกคนแล้ว เหมือนเห็นเทพเซียนอาวุโส
แต่ละคนที่เห็นล้วนยืนตะลึงอ้าปากค้าง
จากนั้นหานฟางอวี้ยกมือคารวะเย่อู๋เทียน พูดออกมาแค่คำเดียว ก็ทำให้หานเฟิ่งอี๋รู้สึกสิ้นหวัง
“หานฟางอวี้คารวะเจ้าบ้าน!”
ที่สำคัญที่สุดคือ การคารวะของหานฟางอวี้ที่มีต่อเย่อู๋เทียน ถึงจะดูแล้วแค่เป็นการก้มหัวเล็กน้อย ย่อเอวเล็กน้อย แต่ตอนเขากำหมัดคารวะกลับใช้มือซ้ายกุมมือขวาไว้
ในสมัยโบราณ คนโบราณใช้มือขวาถือกระบี่ ดังนั้นเวลาคารวะคนอื่น จะใช้มือซ้ายทับมือขวา เพื่อแสดงถึงมารยาท
ก็หมายความว่า หานฟางอวี้มาเจียงไห่ครั้งนี้ ไม่ได้คิดร้ายกับเย่อู๋เทียน
หานเฟิ่งอี๋เห็นภาพนี้เข้า เย่อู๋เทียนยังไม่ทันตอบรับหรือพูดอะไรกับหานฟางอวี้ ก็ตะโกนอย่างขาดสติว่า “คนแซ่อื่นอย่างเย่อู๋เทียนจะเป็นเจ้าบ้านของตระกูลหานเราได้ยังไง!”
หานฟางอวี้หันมองหานเฟิ่งอี๋ ย้อนถามกลับ “เรื่องของแซ่มันสำคัญรึ?”
หานเฟิ่งอี๋เบิกตากว้าง
หานฟางอวี้ถอนหายใจบอก “เฟิ่งอี๋ ตอนนั้นที่เธอกับถังเจิ้งเฟิงแห่งตระกูลถังทำเรื่องอัปยศอดสูนั่น ฉันในฐานะผู้อาวุโสของเธอ ก็ได้อนุโลมผ่อนปรนกับเธอแล้ว หลายปีมานี้ไม่เคยลงโทษเธอเลย ตอนนั้นทำไมยังดื้อรั้นดื้อดึงเหมือนตอนนั้นอีกล่ะ?”
หานเฟิ่งอี๋สีหน้าซีดสลับแดง
ยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องเหม็นเน่าที่เธอคบชู้ จะโดนปู่แท้ๆของตัวเองประจานต่อหน้าทุกคน
หานเฟิ่งอี๋จ้องหานฟางอวี้เขม็ง พลางว่า “ฉันไม่ผิด ต่อให้ฉันเป็นเมียน้อยถังเจิ้งเฟิง ก็ดีกว่าอยู่กับไอ้ขยะหานเสิ่งเฟยมากนัก! ถ้าวันนี้ถังเจิ้งเฟิงอยู่ มีหรือไอ้บ้าเหิมเกริมเย่อู๋เทียนนี่จะยืนกร่างอยู่นี่ได้!”
สายตาหานฟางอวี้กลายเป็นราบเรียบขึ้นมา พลางว่า “เท่าที่ฉันรู้ ถังเจิ้งเฟิงก็เคยมาเจียงไห่ และยังคิดวางแผนก่อกบฎ แต่กลับโดนเจ้าบ้านทำร้ายบาดเจ็บสาหัสที่หน้าโรงแรมว่างไห่ของเจียงไห่ วันนั้นถ้าไม่ใช่เพราะจู่ๆถังชิงเกอปรากฏตัวขึ้น ใช้กลช่วยถังเจิ้งเฟิงหนีไป เจ้าหนุ่มถังเจิ้งเฟิงนั่นคงตายภายใต้ฝ่ามือเจ้าบ้านแล้ว!”
หานเฟิ่งอี๋เหมือนโดนสายฟ้าฟาดอีกครั้ง!
ถังเจิ้งเฟิง….
โดนเย่อู๋เทียนทำร้ายบาดเจ็บสาหัส?
ฝีมือของถังเจิ้งเฟิง หานเฟิ่งอี๋รู้ดียิ่งกว่าใคร!
ทำไมเขาโดนเย่อู๋เทียนทำร้ายบาดเจ็บสาหัสได้?
แต่ในตอนที่หานเฟิ่งอี๋กำลังตกตะลึงอยู่นั้น หานฟางอวี้พลันมายืนข้างหน้าเธอ ยกมือขึ้นวางบนไหล่เธอ
พริบตานั้น หานเฟิ่งอี๋รู้สึกราวกับถูกภูเขาสูงกดทับ จนเธอต้องคุกเข่าลงกับพื้น
หานฟางอวี้มองหานเฟิ่งอี๋ด้วยสายตาคนที่อยู่สูงกว่า ตะคอกดังว่า “ยังไม่รีบขอขมาเจ้าบ้านอีก? ไม่งั้นอาศัยแค่ที่แกกล้าขัดคำสั่งเจ้าบ้าน ฉันก็สามารถซัดแกจนตายคาที่แล้ว!”
หานเฟิ่งอี๋อึ้งเป็นไก่ตาแตก!
ในตอนนี้เอง เย่อู๋เทียนพูดเสียงเรียบกับหานจื่อหยวนว่า “ให้คุณทำหน้าที่ปลงผมให้เจ้านายคุณ!”
หานจื่อหยวนที่คุกเข่าบนพื้นก่อนหน้านี้ได้ยินคำพูดนี้ ตัวสั่นเทา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเย่อู๋เทียนเลยแม้แต่น้อย
แต่สุดท้าย หานจื่อหยวนก็ลุกขึ้นด้วยเนื้อตัวสั่นเทา ในมือมีมีดสั้นเล่มหนึ่ง จับผมยาวที่ด้านหลังของหานเฟิ่งอี๋ เพียงแค่ตัดเบาๆ ผมยาวหล่นเกลื่อนพื้น!
ประหนึ่งตัดหัว!
ใบหน้าของหานเฟิ่งอี๋ซีดเผือดราวกระดาษ
แต่ในวินาทีที่ผมยาวหล่นพื้น สายตาเธอกลับไม่มีความแค้นแม้แต่น้อย มีแต่ความว่างเปล่า
เพราะจนถึงตอนนี้เธอยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ถังเจิ้งเฟิงที่เป็นพ่อของถังเลี่ยน ถึงแม้ฝีมือจะเทียบไม่ติดกับถังเลี่ยน แต่จะแพ้ในเงื้อมมือเย่อู๋เทียนได้อย่างไร?
ฝีมือของเย่อู๋เทียนน่ากลัวถึงขั้นไหนกันนะ?
เขาคู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของถังเลี่ยนจริงๆหรอ?
เย่อู๋เทียนเห็นหานเฟิ่งอี๋เป็นแบบนี้ แต่กลับไม่ใจอ่อนเลยสักนิด เขาบอกหานหยุนเซียวเสียงเรียบว่า “พาเธอเข้าไปในอาคารเทียนจวิน ให้เธอเซ็นสัญญาประทับตราด้วย!”
หานหยุนเซียวถึงได้สติกลับมา คารวะเย่อู๋เทียนอย่างตื่นเต้นพลางว่า “ครับ เจ้าบ้าน!”
พอพูดจบ หานหยุนเซียวแทบจะลากหานเฟิ่งอี๋เข้าไปในอาคารเทียนจวิน ส่วนเฉิงโม่หนงในฐานะระดับผู้บริหารของเทียนจวินกรุ๊ปต้องตามไปด้วยอยู่แล้ว
เพียงแต่จนถึงตอนนี้ เฉิงโม่หนงก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
ทำไมเหล่าจู่อาจารย์หลวงหานแห่งตระกูลหานถึงได้เคารพชมชอบเย่อู๋เทียนนัก!?
ต้องรู้ไว้นะ เย่อู๋เทียนแค่เคยไปตระกูลหานครั้งเดียว และเย่อู๋เทียนในตอนนั้นยังเด็กนัก!
อาจารย์หลวงหานมองออกถึงความสามารถที่ซ่อนอยู่ของเย่อู๋เทียนตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีก่อนงั้นหรอ?
เวลานี้หานฟางอวี้หันมองเย่อู๋เทียนอีกครั้ง พูดเสียงเบาว่า “คุณท่านได้ยินว่าคุณกลับมาแล้ว เลยให้ผมมาครับ”
พอคิดถึงคนแก่คนนั้นที่เคยเจอที่ตระกูลหานแห่งตี้ตูเมื่อยี่สิบปีก่อน สีหน้าเย่อู๋เทียนดูสับสนขึ้นมา เขาชะงักก่อนถาม “ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?”
หานฟางอวี้เงียบไปอึดใจก่อนบอก “ร่างกายไม่สู้ดีนัก เขาให้ผมมา เพราะอยากฝากคำพูดถึงคุณ”
เย่อู๋เทียนถาม “ว่าอะไร?”
สายตาหานฟางอวี้ดูเคร่งเครียดขึ้นมา “สองปีก่อนถังเลี่ยนเคยบุกไปเรือนด้านหลังตระกูลหานครั้งหนึ่ง และประมือกับคุณท่าน คุณท่านแพ้แล้ว!”
พอคำพูดนี้ออกมา ทุกคนตกใจกันมาก!
โดยเฉพาะหานจื่อหยวน หล่อนคุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้ว
เดิมคิดว่า เย่อู๋เทียนได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์หลวงหาน ต่อไปต้องได้ประลองให้รู้แพ้รู้ชนะกับถังเลี่ยนแน่ หรืออาจจะชนะก็ได้ แต่ตอนนี้ดูแล้ว อาจารย์หลวงหานยังแพ้ให้กับถังเลี่ยน?
หานจื่อหยวนพึ่งสำเหนียกได้ว่า…
ตนเองคุกเข่าให้กับเย่อู๋เทียน คุกเข่าเร็วเกินไปแล้ว!
ต่อไปคงไม่มีทางให้ถอยแล้วแน่ เพราะการกระทำของตนในวันนี้เพียงพอที่แสดงชัดแล้วว่า
ตนได้หักหลังทรยศหานเฟิ่งอี๋ ทรยศถังเลี่ยน!
นับจากวันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นหานเฟิ่งอี๋หรือถังเลี่ยน ต้องไม่ปล่อยตนไว้แน่!
ส่วนถังจิ่วเชียนที่พึ่งฟื้น ตอนนี้ก็ตะลึงอ้าปากค้างไปแล้ว
อาจารย์หลวงหาน ใครกันน่ะ
มีอาจารย์หลวงหานอยู่ที่ตี้ตู พวกเหล่าจู่ที่ยากจะมาโลกภายนอกของตระกูลถังล้วนหันไปกอดแบ็กอัพใหญ่หลังเขาง้อไบ๊ กลัวว่าถ้าอยู่ตี้ตูต่อ ต้องโดนอาจารย์หลวงหานเอาถึงตายแน่!
ตอนนี้หานฟางอวี้กลับบอกว่า เมื่อสองปีก่อนถังเลี่ยนได้เอาชนะอาจารย์หลวงหานแล้ว?
แต่ปฏิกิริยาต่อมาของเย่อู๋เทียนกลับทำให้ทุกคนแทบหยุดหายใจ เขามองหานฟางอวี้ด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางถามว่า “ทำไม เขาอยากให้ผมลงมือ ตักเตือนถังเลี่ยน?”