จอมนักรบอหังการ - บทที่ 152 ดอกไม้ป่าหรือจะสู้กับดอกไม้ในบ้าน
จอมนักรบอหังการ บทที่ 152 ดอกไม้ป่าหรือจะสู้กับดอกไม้ในบ้าน?
มีภรรยาที่ดีแบบนี้ ผู้ที่เป็นสามียังจะต้องการอะไรอีกล่ะ?
แต่ว่า เย่อู๋เทียนเองก็ไม่ได้ทะนงตน โดยได้เปลี่ยนหัวเรื่อง และพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า: “ดำเนินการลงทะเบียนเข้าทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง? ”
เสิ่นรั่วชิงพยักหน้า และพูดว่า: “ดำเนินการเสร็จแล้ว วันที่หนึ่งเดือนหน้าก็เริ่มต้นทำงานอย่างเป็นทางการ”
เย่อู๋เทียนยิ้มและพูดขึ้นว่า: “เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะเลี้ยงฉลองให้กับคุณสักหน่อย”
จากนั้น ทั้งสองคนก็พูดคุยกัน และเดินออกไปจากอาคารเทียนจวิน
ทิ้งให้อ้ายเสี่ยวเตี๋ยและคนอื่น ๆ เอาไว้ในสภาพที่งุนงงกันไปหมด
และในขณะที่เสิ่นรั่วชิงเพิ่งจะเดินออกมาจากอาคารนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นเกาเม่ยหลิงที่โทรมาหา
เมื่อรับสาย ทางฝั่งนั้นก็มีเสียงของเกาเม่ยหลิงที่พูดขึ้นอย่างรีบร้อนว่า: “รั่วชิง เธอทะเลาะกับเย่อู๋เทียนเหรอ? ”
เสิ่นรั่วชิงพูดว่า: “เปล่า ดีกันอยู่ทุกอย่าง”
เกาเม่ยหลิงพูดขึ้นด้วยความอึ้งว่า: “แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมจะต้องย้ายกลับไปอยู่ที่ร้านด้วยล่ะ? ”
เสิ่นรั่วชิงเม้มปากยิ้มและพูดว่า: “เมื่อครู่ก็แค่ล้อเล่น ไม่ต้องย้ายกลับไปแล้ว”
เกาเม่ยหลิงงุนงงไปหมด และสอบถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า: “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ”
เสิ่นรั่วชิงคิดอยู่สักพัก และพูดขึ้นว่า: “กลับไปแล้วจะอธิบายให้ฟังก็แล้วกัน”
เกาเม่ยหลิงพูดว่า: “อธิบายอะไรกัน เรื่องนี้มันไม่สำคัญหรอก เพียงแค่เธอกับเย่อู๋เทียนอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ก็สำคัญกว่าเรื่องอื่นเป็นไหน ๆ แล้ว”
เสิ่นรั่วชิงก็ได้พูดปลอบใจเกาเม่ยหลิงไปอีกเล็กน้อย แล้วก็วางสายโทรศัพท์
เย่อู๋เทียนหัวเราะเหอะเหอะพร้อมกับมองไปที่เสิ่นรั่วชิง และพูดขึ้นว่า: “คืนวันนี้ ฉันคงจะมีความสุขอีกแล้ว? ”
เสิ่นรั่วชิงส่งเสียงถุย และพูดว่า: “เพ้อฝันไปเถอะ! ”
แม้จะพูดแบบนี้ แต่เสิ่นรั่วชิงก็กำลังคิดอยู่ว่า คืนนี้ควรที่จะให้ “เซอร์ไพรส์” อะไรกับเย่อู๋เทียนดีล่ะ
ผ่านไปสักพัก เสิ่นรั่วชิงก็คิดขึ้นได้แล้ว แต่กลับยังคงถามเย่อู๋เทียนอย่างจริงจังว่า: “พรุ่งนี้นายจะไปที่เมืองเจียงหนานกับเฉิงโม่หนงจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? ”
เย่อู๋เทียนพยักหน้า: “ถูกต้อง ฉันจะพาหล่อนไปที่เมืองเจียงหนาน เพราะจะต้องไปจัดการธุระเรื่องหนึ่ง”
เสิ่นรั่วชิงครุ่นคิดสักครู่ และพูดขึ้นว่า: “พรุ่งนี้ฉันก็จะไปที่เมืองเจียงหนานสักรอบเหมือนกัน”
เย่อู๋เทียนตกใจ และถามขึ้นว่า: “คุณจะไปทำอะไรที่เมืองเจียงหนาน? ”
เสิ่นรั่วชิงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยันว่า: “ไปร่วมงานฉลองวันเกิดคุณพ่อของหยางเฟยเอ๋อร์ เมื่อครู่ที่ทำการลงทะเบียนเข้าทำงานอยู่นั้น หยางเฟยเอ๋อร์ได้โทรศัพท์มาหาฉันแล้ว ฉันจึงต้องไปร่วมงานแน่นอน”
เย่อู๋เทียนพูดขึ้นด้วยความปวดหัวว่า: “ทั้งที่คุณก็รู้ว่าหยางเฟยเอ๋อร์กับฉันนั้น……”
เสิ่นรั่วชิงพูดขัดขึ้นว่า: “เรื่องราวระหว่างผู้หญิง นายไม่ต้องมาสนใจหรอก อีกทั้ง หล่อนเป็นคนโทรมาเชิญฉันด้วยตัวเอง ถ้าหากฉันไม่ไป ก็แสดงว่าฉันจิตใจคับแคบเกินไปหน่อยแล้ว”
เย่อู๋เทียนหัวเราะฮ่าฮ่าและพูดว่า: “ภรรยาของฉันช่างดีเสียจริง! ”
เสิ่นรั่วชิงกระหยิ่มยิ้มย่อง: “แน่นอนอยู่แล้ว ดอกไม้ป่าหรือจะหอมสู้กับดอกไม้ในบ้านได้ ใช่แล้ว……คืนนี้ต้องการให้ฉันเถื่อนกับนายแบบไหนดีล่ะ? ”
เย่อู๋เทียนดวงตาสองข้างเบิกโพลง เลือดกำเดาแทบจะพุ่งออกมาแล้ว
ค่ำคืนอันสุขสมก็ได้ผ่านพ้นไป
ตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เย่อู๋เทียนตื่นนอนแล้วก็ได้ส่งเย่จูนหลินไปที่โรงเรียน จากนั้นก็ได้สั่งการบางอย่างกับเฉียนเป่ยเฉิน แล้วก็เดินทางไปยังเมืองเจียงหนาน เมื่อมาถึงที่เมืองเจียงหนาน ก็ปาเข้าไปบ่ายสี่โมงครึ่งแล้ว
เฉิงโม่หนงเองก็เดินทางมาพร้อมกัน อีกทั้งยังนั่งรถคันเดียวกันกับเสิ่นรั่วชิงด้วย
เฉียนเป่ยเฉินทำหน้าที่ขับรถ เย่อู๋เทียนนั่งที่นั่งข้างคนขับ ส่วนเฉิงโม่หนงกับเสิ่นรั่วชิงก็นั่งที่นั่งด้านหลัง
ตลอดทาง ผู้หญิงทั้งสองคนต่างก็ไม่มีใครสนใจใคร บรรยากาศน่าอึดอัดอย่างที่สุด
สำหรับที่ว่าผู้หญิงทั้งสองคนทำไมต้องไปนั่งด้วยกันที่ที่นั่งด้านหลังนั้น เย่อู๋เทียนเองก็ไม่อาจรับรู้ได้ ผู้หญิงอ่ะ ยากจะเข้าใจจริง ๆ!
ขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์ตระกูลฉาวแห่งเมืองเมืองเจียงหนาน
บริเวณด้านหน้ามีพื้นที่กว้างขวางนับพันหมู่ และมีรถหรูหราจำนวนมากมาย โดยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ต่างก็ทยอยมาถึงกันทีละคนทีละคน!
ฉาวซิงในฐานะที่เป็นเจ้าของงานวันเกิด กลับยังไม่ปรากฏตัวออกมาเลย
เวลานี้ ฉาวซิงอยู่ที่ชั้นสองของคฤหาสน์ตระกูลฉาว เพื่อรอต้อนรับหญิงสาวที่สวยงดงามอย่างที่สุด
อีกฝ่ายหนึ่งนั้นมีผมสีน้ำตาลและดวงตาสีฟ้า ซึ่งเป็นลูกครึ่ง
มีนามว่าหลี่จิงหง ซึ่งเป็นลูกสาวของตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานกั่ง!
นอกจากนี้แล้ว ยังจะมีอีกหนึ่งสถานะที่โด่งดังมาก!
นั่นก็คือนายกสมาคมบาร์เทนเดอร์โลก ซึ่งขณะนี้กำลังทำการผสมเหล้าอยู่ต่อหน้าของฉาวซิง โดยเหล้าที่กำลังผสมอยู่นั้นคือเซียนหลับใหล
หลังจากที่เธอผสมเหล้าเสร็จแล้ว ผ่านไปเพียงครู่เดียว ห้องโถงบริเวณชั้นสองที่กว้างใหญ่ ก็มีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว
สำหรับคนที่ชอบดื่มเหล้า เพียงแค่ได้กลิ่นเล็กน้อย ก็เหมือนกับว่ามีวิญญาณนักดื่มเข้าสิงร่าง จะต้องชิมดื่มสักคำถึงจะแก้ความอยากกระหายได้!
ฉาวซิงนั้นก็คือนักดื่มเหล้าตัวยง ซึ่งเป็นเพราะโดยปกติเขามักจะดื่มเหล้าอย่างหนักเป็นประจำ จึงทำให้เป็นโรคร้าย
ถึงกระนั้นก็ตาม ขณะนี้เมื่อได้กลิ่นของเหล้าแก้วที่อยู่เบื้องหน้านี้แล้ว ก็อดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไปคว้ามาดื่ม
หลี่จิงหงพลันตีไปที่หลังมือของฉาวซิงเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า: “ลุงฉาว เหล้าของฉันนี้ หากคุณดื่มไปแล้ว จะต้องเสียชีวิตลงอย่างแน่นอน แต่หากเย่อู๋เทียนดื่ม ก็จะแค่มึนเมาเท่านั้น”
ฉาวซิงอ้าปากค้าง หยุดที่จะพูดขึ้น
หยางเฟยเอ๋อร์เองก็อยู่ที่ในที่แห่งนี้ด้วย โดยมองไปที่เหล้าแก้วนี้ด้วยความสงสัย และพูดขึ้นอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่า: “แค่แก้วเดียวนี้ สามารถที่จะทำให้เย่อู๋เทียนมึนเมาได้เลยเหรอ? ”
หลี่จิงหงเหลือบมองไปที่หยางเฟยเอ๋อร์ และพูดขึ้นว่า: “วางใจได้ ต่อให้เย่อู๋เทียนมึนเมาไปแล้ว เพียงแค่เธอเป็นฝ่ายรุกเร้า เรื่องที่สมควรจะกระทำจนเสร็จนั้น ก็จะไม่มีทางพลาดจนเสียงานแน่นอน”
หยางเฟยเอ๋อร์หน้าแดงและพูดขึ้นว่า: “ที่ฉันให้เย่อู๋เทียนมาที่เมืองเจียงหนานนั้น ก็เพราะว่าคุณพ่อของฉัน! ”
หลี่จิงหงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยันว่า: “อย่างนั้นความหมายของเธอก็คือ เย่อู๋เทียนสามารถที่จะรักษาโรคร้ายของลุงฉาวให้หายดีได้ใช่ไหม? ”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดขึ้นว่า: “แน่นอน! ”
หลี่จิงหงหัวเราะพร้อมกับส่ายศีรษะ และพูดว่า: “พวกเธอนี่ช่างหาหมอรักษาไปทั่วเลยนะ ขนาดอาจารย์ของฉันที่ทำงานอยู่ในหอร้อยยาเมืองเจียงไห่ ที่ร่ำเรียนมาจากผิงปู๋จิ้วแห่งหอร้อยยา เขาก็ยังไม่สามารถรักษาโรคร้ายนี้ได้เลย แล้วเย่อู๋เทียนจะรักษาให้หายได้อย่างไรกัน! ”
หยางเฟยเอ๋อร์กระพริบขยิบตาไปมา จดจำไว้ในใจ และพูดเสนอขึ้นว่า: “อย่างนั้นพวกเรามาวางเดิมพันกันดีไหมล่ะ? ถ้าหากเย่อู๋เทียนสามารถรักษาโรคร้ายของพ่อฉันให้หายได้ พวกเธอตระกูลหลี่ ก็แบ่งหุ้นส่วนของหลี่ซื่อ กรุ๊ปของพวกเธอออกมาบ้าง อย่างน้อยก็ห้าเปอร์เซ็นต์! ”
หลี่จิงหงตกใจเล็กน้อย และพูดขึ้นด้วยความสนใจว่า: “แล้วถ้าตรงกันข้ามล่ะ? ”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดขึ้นว่า: “หุ้นส่วนสิบเปอร์เซ็นต์ของฉาวซื่อ กรุ๊ป ฉันก็จะยกมอบให้แต่โดยดี”
ฉาวซิงที่อยู่ด้านข้างเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าถึงกับกระตุกทันที
“เฟยเอ๋อร์อ่ะ ฉันป่วยเป็นโรคร้าย และรู้ไหมว่าอะไรคือโรคร้าย? ก็คือโรคที่รักษาไม่หาย! ”
“ตอนนี้ที่ฉันสดชื่นกระปรี้กระเปร่านั้น เป็นเพราะสามเดือนก่อนหน้านี้ฉันได้ดื่มเหล้ายาที่ทางหลี่จิงหงผสมให้ จึงทำให้ฉันยื้อชีวิตอยู่ต่ออย่างสงบสุขได้อีกหลายเดือน และตายลงไปอย่างสงบ! ”
“แต่ตอนนี้ฉันยังไม่ตาย เธอกลับมาวางเดิมพันกับคนอื่นอย่างหนักขนาดนี้? ”
หยางเฟยเอ๋อร์ไม่สนใจฉาวซิง มองไปที่หลี่จิงหงและพูดว่า: “จะเดิมพันกันไหม? ”
หลี่จิงหงยิ้มแหยะแหยะและพูดขึ้นว่า: “น้องสาว เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าจะมาพูดล้อเล่นกันแบบนี้นะ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราตระกูลหลี่กับพ่อของเธอนั้น ฉันอนุญาตให้เธอกลับคืนคำพูดได้”
หยางเฟยเอ๋อร์พูดขึ้นว่า: “ฉันถามเธอว่า จะเดิมพันกันหรือไม่! ”
หลี่จิงหงครุ่นคิดชั่วครู่ และพูดขึ้นว่า: “ตกลง แต่พูดปากเปล่าไม่มีหลักฐาน จะต้องเซ็นสัญญาในข้อตกลงการเดิมพัน อีกทั้ง……หากคิดจะเดิมพัน พวกเราก็มาเดิมพันกันให้หนักไปเลย หุ้นส่วนสิบเปอร์เซ็นต์ถือว่าน้อยเกินไป ตอนนี้ในมือของฉัน มีหุ้นส่วนของหลี่ซื่อ กรุ๊ปอยู่สามสิบสองเปอร์เซ็นต์ ฉันจะวางเดิมพันกับเธอทั้งหมดเลย แต่หากว่าฉันเป็นฝ่ายชนะ เธอก็จะต้องมอบหุ้นส่วนสามสิบสองเปอร์เซ็นต์ของฉาวซื่อ กรุ๊ปให้กับฉันด้วยเช่นกัน”
หยางเฟยเอ๋อร์ตัดสินใจและพูดขึ้นว่า: “ตกลงตามนี้เลย! จากนั้นก็หันหน้ามองไปที่ฉาวซิง และพูดว่า: “คุณพ่อ ช่วยไปร่างข้อตกลงการเดิมพันให้หน่อย ฉันจะเซ็นในตอนนี้เลย! ”
ฉาวซิงรีบยกมือขัดขวางขึ้นทันที
“เฟยเอ๋อร์ อย่าลืมเรื่องหลักของวันนี้ เธอนั้นต้องการเย่อู๋เทียน! อย่าได้เบี่ยงเบนไปทำเรื่องอื่น! อีกทั้ง ต่อให้จะวางเดิมพันก็ห้ามเดิมพันกับตระกูลหลี่เด็ดขาด ตระกูลของพวกหล่อนเชี่ยวชาญในด้านนี้ ทำมานานหลายสิบปีแล้ว โดยที่ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน เธออย่าได้……”
ยังไม่ทันรอให้ฉาวซิงพูดจบ หยางเฟยเอ๋อร์ก็พูดแทรกขึ้นว่า
“ถึงอย่างไรฉาวซื่อ กรุ๊ปก็ได้ย้ายมาอยู่ในมือของฉันแล้ว ฉันคิดที่จะดำเนินการอย่างไร นั่นก็เป็นเรื่องของฉัน! ”
ฉาวซิงอ้าปากค้าง พร้อมกับมองไปที่หลี่จิงหง ด้วยสีหน้าท่าทางที่โมโห
“หลี่จิงหง เธออย่าได้ถือสาหาความเฟยเอ๋อร์เลย เธอเพิ่งจะยอมรับฉันว่าเป็นพ่อ สภาพจิตใจยังไม่ค่อยมั่นคงนัก ดังนั้น……”
ยังไม่ทันรอให้ฉาวซิงพูดจบอีกตามเคย หลี่จิงหงก็พูดแทรกขึ้นว่า
“เรื่องนี้ ท่านพูดอะไรก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้ง กว่าฉันจะหาเวลาว่างมาเมืองเจียงหนานได้สักครั้งนั้น ท่านคงไม่อยากที่จะเห็นฉันกลับบ้านไปมือเปล่าทุกครั้งหรอกนะ? ที่สำคัญที่สุดก็คือ ก็แค่หุ้นส่วนสามสิบสองเปอร์เซ็นต์ของฉาวซื่อ กรุ๊ปก็เท่านั้น หยางเฟยเอ๋อร์เป็นฝ่ายแพ้ก็ไม่เห็นจะเป็นไรไป ไม่ใช่ว่าจะสามารถสั่นคลอนสถานะของเธอในฉาวซื่อ กรุ๊ปได้สักหน่อย! ”
ฉาวซิงพูดอะไรไม่ออก มองไปที่หยางเฟยเอ๋อร์ด้วยสภาพจิตใจที่ซับซ้อน และถอนหายใจอย่างหนัก
“เห็นแล้วใช่ไหมล่ะ นี่ก็คือผลของการที่ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งตอนก่อนหน้านี้ เด็กรุ่นหลังอย่างหลี่จิงหงนั้น ไม่กล้าที่จะพูดกับฉันแบบนี้เลย! เฟยเอ๋อร์ หากว่าเธอยังจะหลงงมงายอยู่อีก ต้องการที่จะเซ็นลงนามข้อตกลงการเดิมพันนี้ให้ได้นั้น ตัวพ่อก็คือตัวอย่างบทเรียนของเธอนั่นเอง! ”
หยางเฟยเอ๋อร์ยักไหล่
“ไม่เป็นไร ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว ค่ำคืนนี้ ฉันจะจัดการเย่อู๋เทียนให้อยู่หมัด และก็จะนำเอาหุ้นส่วนของหลี่ซื่อ กรุ๊ปมาให้ได้ ใครจะพูดอะไรก็เปล่าประโยชน์ทั้งนั้น”
หลี่จิงหงหัวเราะฮ่าฮ่า และตีไปที่ไหล่ของหยางเฟยเอ๋อร์
“วางใจได้ เธอไม่มีทางได้รับหุ้นส่วนของหลี่ซื่อ กรุ๊ปอย่างแน่นอน แต่ว่าเพียงแค่เย่อู๋เทียนดื่มเหล้าที่ฉันผสมเอาไว้นี้ เธอคิดจะทำอะไรกับเขา ก็สามารถจัดการกับเขาได้อย่างเต็มที่เลย! วิธีการผสมเหล่านี้ อาจารย์ของฉันเป็นผู้มอบให้ฉันมาเอง ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้ชื่อว่าเซียนหลับใหล ล่ะ! ”
ฉาวซิงที่อยู่ด้านข้างนั้นแสดงท่าทางเหมือนกับคนที่ไร้ค่า แต่เมื่อสงบนิ่งไปครู่หนึ่ง ก็ได้สั่งให้คนไปเตรียมข้อตกลงการเดิมพันเอาไว้
หลังจากนั้นกว่าครึ่งชั่วโมง เย่อู๋เทียนและคณะ ก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์ตระกูลฉาวแล้ว
การมาถึงของเย่อู๋เทียนและคนอื่น ๆ ไม่นานนักก็กลายเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากสายตาของแขกจำนวนไม่น้อยที่อยู่กันตรงที่ด้านหน้าของคฤหาสน์ตระกูลฉาว
แต่ถ้าจะพูดให้ถูกต้องแล้ว จะมีเพียงแค่เฉิงโม่หนงที่ถูกสายตาจับจ้อง เพราะแขกที่อยู่ในงานนั้น แทบทุกคนต่างก็เคยพบเห็นเฉิงโม่หนงมาก่อน
ผู้บริหารสูงสุดของเทียนจวิน กรุ๊ป ที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนนั้นเหรอ?
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่เข้าใจนั้นก็คือ บุคคลผู้ยิ่งใหญ่อย่างเฉิงโม่หนงนี้ ทำไมถึงได้เดินตามหลังคู่รักคู่หนึ่งด้วย?
คู่รักคู่นี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่?
ในขณะที่ทุกคนกำลังเกิดความสับสนกันอยู่นั้น ชายวัยกลางคนในชุดราชวงศ์ถังคนหนึ่ง ก็พลันเดินตรงเข้าไปหาเย่อู๋เทียนอย่างยิ้มแย้ม พร้อมกับยกมือแสดงความเคารพและพูดว่า: “ฉันผิงเสี่ยวหลิงแห่งหอร้อยยา ขอคารวะท่านเจ้าหอ”
คนผู้นี้ ก็ถือว่าเป็นลูกศิษย์ของผิงปู๋จิ้วเหมือนกัน
โดยปกติเขาจะเป็นพนักงานประจำอยู่ที่หอร้อยยา เพราะเขารู้จักกับฉาวซิง จึงมาที่เมืองเจียงหนาน เพื่อเข้าร่วมงานฉลองวันเกิดของฉาวซิง
แน่นอนว่า เขายังมีอีกหนึ่งสถานะ……
นั่นก็คืออาจารย์ของหลี่จิงหง ลูกสาวของตระกูลหลี่แห่งเมืองหนานกั่ง
เพียงแต่ไม่รู้ว่า……
ถ้าหากหลี่จิงหงรู้ว่าอาจารย์ของเธอนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าของเย่อู๋เทียน แล้วแสดงท่าทางที่เคารพและอ่อนน้อมขนาดนี้ เธอจะรู้สึกอย่างไรบ้าง!