จอมนักรบอหังการ - บทที่ 161 ร่วมงานประมูลในฐานะเจ้าของบ้าน!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 161 ร่วมงานประมูลในฐานะเจ้าของบ้าน!
จริงๆ
นาทีนี้หลี่จิงหงอยากจะร้องไห้เสียเหลือเกิน
จู่ๆ ก็รู้สึกว่า
ตัวเองนั้นเหมือนไอ้หน่าโง่คนหนึ่ง!
หลงคิดว่าเย่อู๋เทียนเป็นเพียงทหารธรรมดาคนหนึ่ง ที่รักษาโรคภัยไข้เจ็บไม่เป็นแม้แต่นิดเดียว
ตอนนี้……
เย่อู๋เทียนพูดกับฉาวซิงอย่างเรียบง่ายว่า โรคที่รักษาไม่หายของเขา อีกสามวันผ่านไปก็หายเป็นปกติแล้ว
คิดว่าต่อให้เย่อู๋เทียนเป็นคนที่มีวิทยายุทธ การมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยของถังเสี่ยวไป๋ เย่อู๋เทียนต้องถูกฆ่าสังหารด้วยเพลงดาบเดียวอย่างแน่นอน
ตอนนี้……
เย่อู๋เทียนใช้เพียงเตะเกียบคู่เดียว ก็สามารถทำให้กำลังดาบของถังเสี่ยวไป๋ที่พึ่งแสดงเมื่อครู่นี้หมดสิ้นไป!
ลูกศิษย์ของเย่อู่เทียน ก็คือนายคนที่ผอมแห้งเหมือนเสาไม้ไผ่คนนั้น ที่ต่อยถังเสี่ยวไป๋จนแม้แต่แม่ของถังเสี่ยวไป๋เองก็เกือบจะจำถังเสี่ยวไป๋ไม่ได้!
หลี่จิงหงมองเย่อู๋เทียนด้วยความตกตะลึง
โดยรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ เขาไม่ได้มนุษย์สักนิด!
เขาเหมือนดั่งกับเทพเจ้า ที่บันดาลให้มนุษย์หยุดหายใจ!
ในเวลานี้เอง หยางเฟยเอ๋อร์ที่คลั่งไคล้เย่อู๋เทียนมาโดยตลอด ก็ได้สติขึ้นมาทันทีและมองไปยังหลี่จิงหง โดยถามขึ้นว่า:”พี่เทียนของฉันเจ๋งไหม?”
หลี่จิงหงอ้าปากเอ่ยขึ้น:”เจ๋งสุดยอด”
หยางเฟยเอ๋อร์ถามขึ้นอีกว่า:”ยอมแพ้หรือยัง?”
หลี่จิงหงพูดว่า:”ยอมแล้ว”
หยางเฟยเอ๋อร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเย่อู๋เทียน และพูดขึ้นว่า:”หลี่จิงหงพนันกับฉันก่อนหน้านี้ ว่าคุณจะสามารถรักษาอาการป่วยระยะสุดท้ายของพ่อฉันได้หรือไม่ ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะแพ้แล้ว ดังนั้นหุ้นส่วน32 % ของหลี่ซื่อกรุ๊ปตระกูลของเธอ ก็ตกเป็นของฉันในไม่ช้า และฉันวางแผนจะโอนหุ้นส่วนเหล่านี้ทั้งหมดให้กับคุณ……คุณจะรับไหม?”
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้วขึ้น พูดด้วยความไม่พอใจ:”คุณเอาผมไปพนันอย่างนั้นเหรอ?”
หยางเฟยเอ๋อร์กล่าว:”ใช่ แต่ฉันคิดว่าคุณไม่น่าจะโกรธเพราะเหตุผลนี้ เพราะฉันคิดว่าฉันทำถูกต้องแล้ว ที่ทำให้คุณได้รับหุ้นส่วน32%ของหลี่ซื่อกรุ๊ปเมืองเหนานกั่งมาอย่างฟรีๆ และตามราคาตลาดของหลี่ซื่อกรุ๊ป คิดเป็นเงินสด อย่างน้อยก็ต้องอยู่ที่สามพันล้านโน่น”
เสียงพูดพึ่งจบลงไม่ทันไร หลี่จิงหงก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเย็นชา และพูดกับเย่อู๋เทียนว่า:”คุณเย่ หยางเฟยเอ๋อร์เอาคุณมาพนันกับฉัน ฉันคิดว่านี่เป็นการที่เธอไม่ให้เกียรติคุณ ฉันว่า……คุณควรสั่งสอนเธอหน่อย”
เย่อู๋เทียนมองหลี่จิงหงสักพัก จากนั้นพยักหน้าแล้วพูดว่า:”คุณพูดมีเหตุผล แต่หยางเฟยเอ๋อร์เอาผมไปพนัน คุณก็คือผู้เข้าร่วมด้วย ดังนั้น ผมเองก็ควรสั่งสอนคุณด้วยเหมือนกัน หุ้นส่วน 32 % ของหลี่ซื่อกรุ๊ป ผมจะขอน้อมรับไว้ คุณไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
หลี่จิงหงพูดอย่างหน้าแดงขึ้นว่า:”หลังจากคุณปู่และคุณพ่อรู้ ต้องตีฉันตายแน่”
เย่อู๋เทียนกล่าวขึ้น:”คุณจะตายหรือไม่ ไม่ได้เกี่ยวกับผมอยู่แล้ว เพราะอย่างไรก็ตามผมเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด และอีกอย่างค่ารักษาโรคของผมสูงมาก ก่อนหน้านี้ผมกลัวว่าฉาวซิงจะจ่ายค่ารักษาที่ผมรักษาให้เขาไม่ไหว ตอนนี้ดูเหมือนว่าตระกูลฉาวมีหุ้นส่วน32%ของหลี่ซื่อกรุ๊ปของตระกูลหลี่แล้ว ผม ก็วางใจแล้ว”
หลี่จิงหงพูดขึ้นด้วยความลนลานว่า:”อาการป่วยยังรักษาไม่หายขาด พูดแบบนี้ตอนนี้ มันดูจะเร็วเกินไปหน่อย”
เย่อู๋เทียนกล่าวขึ้นว่า:”อีกสามวันก็จะเห็นผลเอง”
สีหน้าของหลี่จิงหงกระวนกระวายพักหนึ่ง และพูดขึ้น:”ฉันผิดไปแล้ว”
เย่อู๋เทียนยักไหล่ โดยไม่สนใจหลี่จิงหงอีก และหันไปพูดเบาๆ กับเสิ่นรั่วชิง:”เราไปกันเถอะ”
เสิ่นรั่วชิงถอนหายใจยาวเหยียดและพูดว่า:”ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย หิว”
พึ่งพูดจบไม่ทันไร หยางเฟยเอ๋อร์ในฐานะที่เป็นมารหัวใจของสิ่นรั่วชิง จู่ๆ ก็พูดเสนอตัวเองขึ้นว่า:”พี่สาว ฉันจะลงมือทำอาหารให้ท่านด้วยตัวเอง ลงมือเข้าครัวด้วยตัวเองค่ะ! อีกครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ ท่านกับพี่เทียนไปที่ห้องฉันก่อน ฉันทำเสร็จแล้วจะยกไปเสิร์ฟให้ค่ะ”
เสิ่นรั่วชิงคิกสักพัก จึงกล่าวขึ้น:”อย่าใส่น้ำมันเยอะเกินนะ ช่วงนี้ฉันลดน้ำหนักอยู่”
หยางเฟยเอ๋อพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว:”ได้ค่ะ!”
เสิ่นรั่วชิงพูดเสียงเบาอีกว่า:”หลังจากที่หลี่ซื่อกรุ๊ปโอนหุ้นส่วนให้คุณ คุณก็เอาหุ้นส่วนนั้นโอนมาภายใต้ชื่อของฉันโดยตรงเลยแล้วกัน”
หยางเฟยเอ๋อ์กล่าว:”ไม่มีปัญหา แค่ท่านชื่นชอบในตัวฉัน ฉันก็จะปรนนิบัติรับใช้ท่านในฐานะอัครมเหสีเจ้าค่ะ!”
“……”
เย่อู๋เทียนกระอักกระอ่วนจนทำอะไรไม่ถูก
หลังจากนั้น หยางเฟยเอ๋อร์ก็วิ่งไปที่ครัวหลังบ้านตระกูลเฉาทันที
เฉิงโม่หนงเหลือบมองเสิ่นรั่วชิงด้วยความเหยียดหยาม แล้วพูดว่า:”เธอทำแบบนี้ เห็นได้ชัดเจนว่ากำลังชักสุนัขจิ้งจอกเข้าบ้าน!”
เสิ่นรั่วชิงเม้มปากเบาๆ แล้วกล่าวขึ้น:”คุณก็เป็นสุนัขจิ้งจอกเหมือนกัน แม้แต่คุณยังไม่อยู่ในสายตาฉันด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับหยางเฟยเอ๋อร์ ไม่ว่ายังไง จิ้งจอกตัวเดียวก็ตี จะจิ้งจอกสองตัวก็ต้องตีเหมือนกัน และต่อให้มีสุนัขจิ้งจอกมากมายแค่ไหนมาบ้านฉัน ฉันก็ไม่สนใจอยู่แล้ว!รู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร?”
คิ้วบางของเฉิงโม่หนงขมวดขึ้น
เสิ่นรั่วชิงเดินไปอยู่ตรงหน้าของเย่อู๋เทียนอย่างช้าๆ และจับวงแขนของเย่อู๋เทียนไว้ แล้วพูดกับเฉิงโม่หนงว่า:”สามีของฉันเป็นมนุษย์ เธอคิดว่ามนุษย์กับสัตว์เดรัจฉานจะอยู่ด้วยกันได้ไหม?”
เฉิงโม่หนงพึ่งรู้สึกตัวขึ้น จึงพูดขึ้นอย่างเกี้ยวกราดว่า:”เธอต่างหากเป็นสัตว์เดรัจฉาน! ทั้งตระกูลเธอเป็นสัตว์เดรัจฉาน!”
เสิ่นเย่ชิงพูดกับเย่อู๋เทียนขึ้นว่า:”ที่รัก มีคนด่าฉันค่ะ คุณจะไม่สนใจหน่อยเหรอคะ? แล้วในใจของคุณ ฉันสำคัญกว่า หรือว่าป้าราคาถูกนี้สำคัญกว่า? ประเด็นคือเป็นแค่ป้าลูกพี่ลูกน้อง และเป็นแค่ป้าลูกพี่ลูกน้องจอมปลอมด้วย ฉันจึงคิดว่าในใจของคุณ ฉันต้องสำคัญกว่าแน่นอน!”
อวดดี!
อวดดีเกินไปแล้ว!
จองหอง!
จองหองเกินไปแล้ว!
เย่อู๋เทียนคิดไม่ถึงว่า เสิ่นรั่วยังมีด้านแบบนี้ด้วย
เฉิงโม่หนงยิ่งคิดไม่ถึงว่า……
เสิ่นรั่วชงจะเย่อหยิ่งจองหองขนาดนี้!
มันน่านัก……
นางสารเลวน่าซื่อใจคด!
เฉิงโม่หนงกัดฟันมองไปยังเย่อู๋เทียน และพูดว่า:”นี่หรือภรรยาของนาย!ต่อหน้าผู้คนมากมาย นายดูท่าทางเย่อหยิ่งของเธอสิ ไม่มีความเป็นผู้ดีเลยสักนิด!”
เย่อู๋เทียนพูดด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก:”ติดกับแล้ว ช่วยไม่ได้”
เฉิงโม่หนงอารมณ์หดหู่ได้สักพัก จากนั้นก็ชี้นิ้วไปทางเยอู๋เทียยน และกล่าวว่า:”ได้ เย่อู๋เทียน ฉันบอกนายไว้เลย งานประมูลชุนชิล นายอยากไปกับใครก็ไปหาคนนั้นไปกับนายเลย ฉันจะไม่มีทางไปกับนายอย่างแน่นอน!ฉันกลับตี้ตูแล้ว!” อยากให้ฉันยกอำนาจของเทียนจวิน กรุ๊ป ให้กับภรรยาของนายอย่างนั้นเหรอ? ต่อให้ฉันตาย ฉันก็ไม่เห็นด้วย! เธอทำให้ฉันโกรธแล้ว!
พูดจบ เฉิงโม่หนงก็พูดกับซูชิงหลวนอย่างโมโหว่า:”เราไปกันเถอะ!”
โดยเฉิงโม่หนงถูกเสิ่นรั่วชิงยั่วโทสะและจากไป
เสิ่นรั่วชิงดึงเย่อู๋เทียนไปข้างๆ พูดขึ้นด้วยความอ่อนโยน:”ทำให้คุณรู้สึกลำบากใจใช่ไหม?”
เย่อู๋เทียนไม่รู้จะพูดอะไร
จู่ๆ เสิ่นรั่วชิงก็เขย่งปลายเท้าขึ้นมา และกระซิบแนบชิดใบหูของเย่อู๋เทียนว่า:”คืนนี้เราพักที่ตระกูลเฉาเถอะ และต้องพักในห้องของหยางเฟยเอ๋อร์เท่านั้น ถึงตอนนั้นคุณอยากทำอะไร ก็เชิญ!”
แม้ว่าหัวใจของผู้หญิงคือเข็มในมหาสมุทร ที่เย่อู๋เทียนไม่สามารถเข้าใจได้ แต่คำพูดของเสิ่นรั่วชิงในตอนนี้ ทำให้เย่อู๋เทียนเข้าใจได้อย่างชัดเจน
ในฐานะที่เสิ่นรั่วชิงเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นจักรพรรดินีของเย่อู๋เทียน อยากทำอะไรมุ้งมิ้ง กุ๊งกิ๊งกันกับเย่อู๋เทียนอยู่ในห้องของหยางเฟยเอ๋อร์ หญิงสาวที่ชอบพอในตัวของเย่อู่เทียน!
ภรรยาของเฉียนจิ้งคุนที่อยู่ไม่ไกลนัก ได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าพอดี เธอตบปากล่างอย่างเผลอตัว และพูดขึ้นด้วยความอนิจจัง:”เฉียบคม เฉียบคมจริงๆ บทนี้ของอาจารย์หญิงภรรยาของเฉินเอ๋อร์ของเรา มันน่าทึ่งมาก ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน!”
เฉียนจิ้งคุนไม่ได้พูดอะไรแม้ประโยคเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรอยู่
ทันใดนั้นก็ถามหูเสี่ยวเอ๋อเฉียนจิ้งคุนขึ้นว่า:”ใช่แล้ว นางปีศาจจิ้งจอกจะเป็นจะตายก็จะคลอดลูกให้คุณเมื่อสามปีก่อน ก็อยู่ที่เจียงหนานใช่ไหม? คุณโทรหาเธอเลย โทรตอนนี้เลยนะ วันนี้เราก็ไปที่นั่น และขอพักที่บ้านของเธอ เราลองมาแข่งกัน เพราะสองปีที่ลูกเฉินป่วย ฉันก็ไม่เคยปรนนิบัติดีๆ กับคุณเลย คืนนี้ฉันจะรักคุณให้ดีๆ สักครั้ง”
เฉียนจิ้งคุนรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาทันที ทำทีท่าคุยโทรศัพท์ และพลางเดินออกไปข้างนอก ตะโกนพูดเสียงดังขึ้นว่า:”ฮาโหล ประธานเผิง โปรเจคครั้งที่แล้วที่คุณคุยกับผมไว้ วันนี้ผมมีเวลาพอดี เรามาพูดคุยกันหน่อยไหมครับ อ๋อ เงินทุนเริ่มแต้นแค่สามหมื่นล้านเหรอครับ ลดให้หน่อยนะครับ คุณรอก่อน ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ แล้วเรามาปรึกษากันดีๆ เสียก่อน!
หูเสี่ยวเอ๋อยิ้มอย่างเย็นชาและมองไปทางเฉียนจิ้งคุน มองดูเขาที่คุยโทรศัพท์ไปด้วย และออกจากงานเลี้ยงในห้องโถงใหญ่ราวกับกำลังหลบหนีไปด้วย จากนั้นก็หันไปทางเฉียนเป่ยเฉิน แล้วพูดว่า:”เฉียนเป่ยเฉินต่อไปถ้าพ่อของเธอคาราคาซัง กับหญิงสาวอื่น เธอก็ต่อยเขาเลย!ลูกสั่งสอนพ่อที่นอกใจ เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว!”
สีหน้าของเฉียนเป่ยเฉินสับสนเป็นอย่างมาก
อีกด้านหนึ่ง ตอนนี้เย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงได้มาถึงชั้นสองของคฤหัสถ์ตระกูลเฉาแล้ว
เย่อู๋เทียนกำลังคิดว่าตัวเองจะเข้าร่วมงานประมูลชุนชิลที่จะจัดขึ้นนี้อย่างราบรื่นได้อย่างไร
เดิมทีอยากให้เฉิงโม่หนงไปกับตัวเองโดยปลอมตัวเป็นถังชิงเกอ แต่ตอนนี้เฉิงโม่หนงกลับไปแล้ว
ต่อจากนี้จะทำอย่างไร?
ในเวลานี้เอง ฉาวซิงก็เดินเข้ามา
ฉาวซิงในขณะนี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิมแล้ว เพราะเมื่อกี้ที่อยู่ข้างนอก เขาพึ่งกินยาล้างไขกระดูกไปหนึ่งเม็ด มิหนำซ้ำผิงเสี่ยวหลิงยังชงเหล้าเซียนให้เขาอีกหนึ่งแก้วด้วย
หากไม่มีเหตุการณ์ที่คาดคิดไม่ถึงหละก็ หลังจากสามวัน อาการป่วยระยะสุดท้ายของเขาต้องหายไปอย่างแน่นอน
ภายใต้เงื่อนไขแบบนี้ ฉาวซิงย่อมมองเย่อู๋เทียนว่าเป็นบุคคลที่มีพระคุณใหญ่หลวงสำหรับตน และพอมาเพ่งพิจารณาดู ตัวเองก็ไม่มีอะไรที่สามารถเอามามอบให้กับเย่อู๋เทียนได้เลย……
เงินเหรอ?
เย่อู๋เทียนไม่ได้ขาดแคลน
หุ้นเหรอ?
เย่อู๋เทียนยิ่งไม่ขาแคลนเรื่องหุ้นอยู่แล้ว
เมื่อใช้ดุลยพินิจพิณารณาส่วนได้ส่วนเสียแล้ว ฉาวซิงจึงเอาของบางอย่างวางไว้ตรงหน้าของเย่อู๋เทียน แล้วพูดว่า:”คุณเย่ พิพิธภัณฑ์ชุนชิลใต้ทะเลสาบ ผมใช้ทุนทรัพย์จำนวนมากในการสร้าง และตอนนี้มันเป็นของคุณแล้ว!”
เย่อู๋เทียนเลิกหางคิ้วเล็กน้อย แล้วถามขึ้นว่า:”พิพิธภัณฑ์ชุนชิลเป็นอุตสาหกรรมของเขาเอ๋อเหมยไม่ใช่หรือ?”
ฉาวซิงกล่าวว่า:”ไม่ใช่ครับ เอ๋อเหมยซานเพียงแค่เช่าใช้งานเท่านั้น กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินยังอยู่ในมือของข้าพเจ้ามาโดยตลอด ซึ่งเขาเอ๋อเหมยได้เช่าใช้งานมานานนับหลายปีแล้ว แต่กลับไม่เคยจ่ายค่าเช่าให้กับตระกูลเฉาแม้แต่บาทเดียว นอกจากนี้ในแต่ละปีเรายังต้องเสียเงินจำนวนมากในการบำรุงรักษามันอีก และทั้งหมดนี้ เป็นเพราะความสัมพันธ์ของตระกูลถังในตี้ตู”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ฉาวซิงยิ้มอย่างขมขื่น และพูดว่า:”คุณรู้ดีว่า ตระกูลเฉาของผมไม่สามารถที่จะล่วงเกินตระกูลถังในตี้ตูได้ ดังนั้นต่อให้ถูกยึดครองบ้านเรือนมานานหลายปี ผมก็ทำได้เพียงกลั้นและอดทนไว้เท่านั้น!แต่คุณวางใจได้ว่า การที่ผมโอนโฉนดที่ดินของพิพิธภัณฑ์ชุนชิลให้คุณนั้น ไม่ใช่เพื่ออยากขออะไรจากคุณ แต่……เป็นการแสดงความซาบซึ้งในบุญคุณที่มีต่อคุณ และตอนนี้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์พิพิธภัณฑ์ชุนชิลได้เป็นของคุณแล้ว!”
เย่อู๋เทียนหัวเราะ
“น่าสนใจดี งั้นก็ดี ในเมื่องานประมูลชุนชิลจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ชุนชิล ถ้าอย่างนั้นต่อจากนี้ผมจะไปพบเหล่าฮีโร่ที่นั่นในฐานะเจ้าของบ้านแล้วกัน!”
สองวันผ่านไป
เย่อู๋เทียนได้ปรากฎตัวอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ชุนชิลใต้น้ำทะเสสาบชินชิลแห่งเจียงหนาน
เมื่อเขาพึ่งมาถึง
ก็เห็นใบหน้าที่คุนเคยคนหนึ่ง
หานเฟิงอี้!
ไม่เพียงเท่านี้ ข้างกายของหานเฟิงอี้ ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งติดตามมาด้วย
ถังเลี่ยนของตระกูลถังในเมืองตี้ตู!