จอมนักรบอหังการ - บทที่ 167 ทุบตีถังเลี่ยน ก็เหมือนทุบตีหมาตัวหนี่ง!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 167 ทุบตีถังเลี่ยน ก็เหมือนทุบตีหมาตัวหนี่ง!
ถึงแม้เย่อู๋เทียนจะกลั้นขำได้ แต่หยางเฟยเอ๋อร์กลับกลั้นขำไว้ไม่ได้
อีกทั้ง ยังหัวเราะจนตัวโยนอีกด้วย!
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ในงานนิ่งเงียบมาก พอเธอหัวเราะ ก็เป็นจุดสนใจของผู้คนทันที
สีหน้าของหยางเฟยเอ๋อร์ตึงทันที
แต่ยังคงไม่สามารถควบคุมเสียงหัวเราะของตัวเองได้
และเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
“?”
นอกจากเย่อู๋เทียนแล้ว คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ในหัวเต็มไปด้วยคำถาม
ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรอ?
อยู่ดีทำไมถึงหัวเราะขนาดนั้น?
เย่อู๋เทียนมองดูหยางเฟยเอ๋อร์ แล้วพูดว่า“หยุดขำได้แล้ว”
หยางเฟยเอ๋อร์กุมท้องหัวเราะฮ่าๆ“ขอโทษทีนะ ฉันควบคุมไม่ได้!”
ถังเลี่ยนมองไปที่หยางเฟยเอ๋อร์
ไม่รู้ว่าทำไม ถึงรู้สึกว่า ที่ผู้หญิงคนนี้หัวเราะขนาดนั้น เป็นเพราะตัวเขาเอง
เขาเปลี่ยนความอับอายเป็นความโกรธ ถังเลี่ยนไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหายตัวทันที โผล่ขึ้นตรงหน้าของหยางเฟยเอ๋อร์
แต่ขณะที่ถังเลี่ยนกำลังจะทำร้ายหยางเฟยเอ๋อร์ เย่อู๋เทียนก็เริ่มขยับ
ตำแหน่งที่เขาปรากฏตัว ก็คือตรงกลางระหว่างถังเลี่ยนและหยางเฟยเอ๋อร์ อีกทั้งหันหน้าไปทางถังเลี่ยน
จู่ๆเย่อู๋เทียนก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่ทำให้ถังเลี่ยนตกตะลึง
แต่วินาทีต่อมาถังเลี่ยนที่กำลังจะลงมือ เย่อู๋เทียนก็ตบไปที่หน้าของเขาอย่างจัง
“เพี๊ยะ!”
เสียงตบหน้าดังมาก
และการตบครั้งนี้ ทำให้ถังเลี่ยนกระเด็นไปหลายสิบเมตร และกระแทกตกลงพื้น
ต่อมา เย่อู๋เทียนเร่งฝีเท้าราวกับสายลมไล่ตามดวงจันทร์
ไม่รอให้ถังเลี่ยนได้สติ เย่อู๋เทียนก็จับไปที่ไหล่ของเขา หลังจากนั้น……
ราวกับฉาวซิงที่กำลังนั่งอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิด ถูกเฉียนเป่ยเฉินสั่งสอนถังเสี่ยวไป๋ สั่งให้ซ้ายขวา
ปึ้ง!
ปึ้ง!
ปึ้งๆๆ!
เย่อู๋เทียนจับไปที่แขนของถังเลี่ยน แล้วสะบัดทุ่มเขาลงพื้น
หลังจากที่โดนทุ่มลงพื้นแล้ว
เสียงปึ้งก็กลายเป็นเสียงตุ้ม!
ตุ้ม!
ตุ้ม!
ห้องโถงรับแขกโอ่อ่า พื้นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว
ทุกครั้งที่เย่อู๋เทียนจับถังเลี่ยนทุ่มกับพื้น ก็จะเกิดการสั่นสะเทือนทุกเมื่อ ทำให้ทั่วทั้งงานสั่นสะท้าน
ไม่มีใครกล้าแตะต้อง!
ทุ่มไปประมาณสักสี่ห้าครั้ง
เย่อู๋เทียนหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนโหดร้ายลง
เย่อู๋เทียนอยู่ตรงกลาง ทั้งสองข้างทางเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
สำหรับถังเลี่ยน เขาได้ถูกทุ่มจนสติเลือนราง
แขนที่ถูกเย่อู๋เทียนจับข้างนั้น นิ่มราวกับบะหมี่ ส่วนอื่นๆของร่างกาย ทุกที่ที่มองเห็น ล้วนกำลังเลือดออกอย่างหนัก โดยเฉพาะปาก ที่กระอักเลือดออกมา ไม่หยุด……
ในงาน มันไม่ใช่แค่ความเงียบสงัด
แต่มันทำให้คนหายใจไม่ออก
เย่อู๋เทียนสะบัดถังเลี่ยนทิ้ง เหมือนทิ้งขยะก็ไม่ปาน และพูดกับถังเลี่ยนว่า“ฉันก็คือชายชราลึกลับที่แกกำลังคิดนั่นแหละ ตอนแรกฉันอยากเก็บแกไว้เป็นลูกศิษย์จริงๆ แต่ตอนนี้พอดูๆแล้ว แกรับมือฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ ไร้ประโยชน์จริงๆ สวะอย่างแกเนี่ยนะ ที่เป็นอัจฉริยะของ หลังภูเขาเอ๋อเหมย?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เย่อู๋เทียนก็ใช้น้ำเสียงปกติพูดเสริมว่า“ฉันผิดหวังกับแกจริงๆ!โดยเฉพาะประโยคที่แกพูดเมื่อกี้ ที่บอกว่าใช้แรง 70% ต่อกรรับหมัดของฉัน ตอนนี้……ความจริงนายลุกขึ้นมา สู้กับฉันเต็มที่ได้เลยนะ”
พู่!
ถังเลี่ยนกระอักเลือดอีกครั้ง
สมองว่างเปล่า
ราวกับเขาได้กระอักพ่นสมองออกมาด้วย
ช่างเหลือเชื่อจริงๆ
เพราะมันไม่มีเหตุผลเลย คนคนเดียว ทำไมถึงมีพลังทำลายล้างถึงเพียงนี้ได้?
หรือว่าเพราะในมือของเขามีแก่นเหรียญม่วงนั่น?
ได้ยินมานานแล้วว่า ด้านหน้าและด้านหลังของแก่นเหรียญม่วงนั่นพวกเขาทั้งหมดถูกจารึกด้วยศิลปะการต่อสู้แบบลับสุดยอด ตอนนี้ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริง!
เมื่อหันมองดูคนอื่นๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสผมหงอกที่รับผิดชอบในการเปิดประมูลชุนชิวในครั้งนี้ ใบหน้าของเขาซีดลงในทันที
เขาคิดไม่ถึงว่า
เดิมทีเขาคิดว่าชายชราลึกลับที่อยู่นอกโถงต้อนรับ จะอยู่ตรงหน้าเขาจริงๆ!
นี่มันใครกันเนี่ย?
ทำไมถึงได้น่ากลัวขนาดนี้?
หรือว่า จะเป็นผู้กล้าที่ก้าวออกมาจากสำนักไหนสักแห่ง?
มีความเป็นไปได้……
ในขณะที่ชายชราผมหงอกกำลังคิดอยู่นั้น เย่อู๋เทียนก็เดินไปทางหานเฟิ่งอี๋ พลางถามว่า “เมื่อครู่ คุณว่าใครเป็นหมาแมวงั้นหรอ?”
หานเฟิ่งอี๋ถึงกับลืมหายใจ
เธอเบิกตากว้าง ด้วยสภาพเหมือนคนตายตาไม่หลับ
และทันทีที่เย่อู๋เทียนเดินผ่านหน้าหานเฟิ่งอี๋ เธอก็ตกใจกลัวจนเป็นลมทันที
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้วเบาๆ แล้วส่ายหัวไปมากล่าวว่า“น่าเบื่อจริงๆ!”
จากนั้น เย่อู๋เทียนก็หันไปมองชายชราผมหงอก พลางถามอย่างเรียบเฉยว่า“ ผมมาเก็บค่าเช่าน่ะ ตอนนี้ คุณยังคิดว่าผมรนหาที่ตายอยู่อีกไหม?”
ชายชราผมหงอกหุบปากทันที
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็หุบปากทั้งหมดเช่นกัน
หยางเฟยเอ๋อร์เธอหยุดหัวเราะนานแล้ว และกำลังยืนมองดูเย่อู๋เทียนอย่างอึ้งๆ
มองดูสายตาของเย่อู๋เทียน เหมือนกับเห็นผียังไงอย่างงั้น
ยังคงเป็นประโยคเดิม เคยคิดว่าผู้ชายที่ตัวเองชอบจะดุดัน แต่ไม่คิดว่าจะดุดันถึงเพียงนี้!
ในเวลานี้เอง จู่ๆชายชราผมหงอกก็ทำความเคารพให้กับเย่อู๋เทียน“แขกกิตติมศักดิ์มาเยือน กระผม ไม่ได้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองต้องขออภัยด้วยครับ!”
เย่อู๋เทียนยิ้มเบาๆ“เมื่อกี้ยังเรียกผมว่า ไอ้ขี้ขลาดอยู่เลย ตอนนี้มาเรียกแขกกิตติมศักดิ์ คุณมันเหยียดหยามคนอื่นเก่งจริงๆ!”
ชายชราผมหงอกหน้าเสียมากๆ
แต่กลับไม่กล้าโมโห
อีกทั้ง มีหรือจะมีเวลามานั่งขุ่นเคือง?
วันนี้เขาจัดงานประมูลชุนชิวอยู่ดีๆ แต่กลับมีคนห้าวเป้งแบบนี้โผล่มาโดยไม่ได้รับเชิญ
และเห็นได้ชัด เขาไม่เห็นหลังภูเขาเอ๋อเหมยอยู่ในสายตา
เขามาเพื่อก่อความวุ่นวาย!
ต่อไป……
ควรทำอย่างไรดี?
ในขณะที่ชายชราผมหงอกครุ่นคิดอยู่นั้น เย่อู๋เทียนก็หัวเราะแล้วพูดขึ้นมาว่า “อันที่จริง เรื่องเก็บค่าเช่า ไม่รีบร้อนหรอก ถ้าหลังภูเขาเอ๋อเหมยของพวกคุณไม่มีปัญหาเอาแก่นเหรียญม่วงออกมาได้ ก็ให้ถือซะว่าติดไว้ก่อนแล้วกัน!”
ชายชราผมหงอกหรี่ตาลง
เคยเห็นอันธพาลรังแกคนอื่น แต่ไม่เคยเห็นรังแกขนาดนี้มาก่อน
ก็ดี
ในเมื่อมาเพื่อรังแกกัน ก็อย่าหวังจะได้ก้าวออกไปเลย
แค่สู้ถังเลี่ยนได้เท่านั้นเอง
ภายในงานประมูลชุนชิวที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเก็บซ่อนผู้มีอำนาจหลังภูเขาเอ๋อเหมยมากมายเท่าไร
เดี๋ยวหาโอกาส เข้าล้อมคนไว้แล้วกัน
ไม่เชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะมีความสามารถถึงขั้น เพิกเฉยต่อเหล่าผู้อาวุโสของหลังภูเขาเอ๋อเหมยได้
เพราะเนื่องจาก อัจฉริยะอย่างถังเลี่ยน เป้าหมายที่เขาปรากฏตัวที่เจียงหนาน เพียงเพื่อต้องการฝากตัวเป็นศิษย์กับหลังภูเขาเอ๋อเหมยเท่านั้น
คิดว่าหลังภูเขาเอ๋อเหมยไม่มีคนรึไงกัน?
เมื่อไตร่ตรองถึงสิ่งนี้ ชายชราผมหงอก็ตัดสินใจใช้วิธีการชะลอการโจมตีไว้ เขาลดตัวลง“ในเมื่อท่านใจกล้าวขนาดนี้ งั้นกระผมขอเป็นตัวแทนหลังภูเขาเอ๋อเหมย ขอบพระคุณท่านนะครับที่ให้เกียรติ!”
คนที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ละคน ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ชายชราผมหงอกจะเป็นตัวของหลังภูเขาเอ๋อเหมย ยอมจำนนต่อเย่อู๋เทียนชายหนุ่มที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า
ไอ้หมอนี่ตกลงเป็นใครกันแน่?
เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งขนาดนี้ ยังสามารถแสร้งทำเป็นคนธรรมดาไม่มีวรยุทธใดๆ
ตกลงเขาควบคุมพลังแดนไว้ได้อย่างไร?
ผู้กล้านับร้อยในงาน หากรุมล้อมโจมตีขึ้นมา จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้หรือไม่?
ในขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ด้านบนห้องโถงต้อนรับแขก ก็มีชายรูปร่างสูงใหญ่ลงมาจากด้านบนยี่สิบกว่าคน ชายชุดดำแต่คน ล้อมเย่อู๋เทียนเอาไว้
แต่ละคนมองไปที่เย่อู๋เทียนเหมือนเหยื่อที่พร้อมจะตะครุบ
สายตาของแต่ละคน เยือกเย็นดุจดั่งนรก ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกแม้แต่น้อย
ราวกับแต่ละคนเป็นเครื่องสังหารก็ไม่ปาน
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เย่อู๋เทียนตกตะลึงงัน
เพราะนอกจากนี้แล้ว เขายังสังเกตเห็นว่ามีคนอยู่บนคานหินเหนือโถงต้อนรับ แต่เขาไม่คาดคิดว่าพลังการต่อสู้ของคนเหล่านี้จะน่ากลัวมาก!
ชายชราผมหงอกสังเกตเห็นท่าทีของเย่อู๋เทียนเปลี่ยนไป จึงเกิดความพอใจ แล้วจู่ๆก็หันไปมองดูชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่จำนวนยี่สิบกว่าคนที่อยู่บนคาน เขาหัวเราะเหอๆ“คนนี่เป็นแขก พวกแก ถอยออกไปก่อน”
พูดจบ ชายชราผมหงอกก็เดินเข้าไปหาเย่อู๋เทียนหลายก้าว แล้วชี้ไปที่งานประมูลชุนชิว พลางกล่าวว่า“ท่านครับ เชิญครับ!”