จอมนักรบอหังการ - บทที่ 173 ประมูลราคาสูงลิ่ว!
จอมนักรบอหังการ บทที่ 173 ประมูลราคาสูงลิ่ว!
เมื่อพูดจบ ทั่วทั้งงานก็เงียบกริบ จนสามารถได้ยินเสียงเข็มตกกระทบพื้น!
ไม่มีใครคาดคิด……
หลังจากที่เย่อู๋เทียนพูดจาแทะโลกเจี่ยนโล่จู๋แล้ว จะทำอะไรแบบนี้ออกมาได้อีก
เมื่อสักครู่ยังรับปากเจี่ยนโล่จู๋แล้วเลย ว่าตกลงยอมซื้อขายกัน
แต่มาตอนนี้กลับพูดขึ้นมาว่า……
ผู้ที่เสนอราคาสูงกว่าจะได้ไป?
นี่มันพ่อค้าหน้าเลือดชัดๆ?
ยังกล้าทำแบบนี้กับเจี่ยนโล่จู๋แห่งหลังภูเขาเอ๋อเหมยแบบนี้……
คนรึเปล่าเนี่ย?
ไม่อยากมีชีวิตแล้วหรอ?
ไม่เห็นหลังภูเขาเอ๋อเหมยอยู่ในสายตาแม้แต่นิดเดียว!
ตอนนี้!
ไม่มีใครกล้าพูดแม้แต่ประโยคเดียว
เพราะสีหน้าของเจี่ยนโล่จู๋ ขรึมลงไปมาก
และในเวลานี้เอง ชายชุดดำจำนวนหนึ่ง จู่ๆก็โผล่เข้ามาในงานบริเวณทั้งสี่ทิศของงานประมูล!
รวมถึงหัวเฉียนคุน และเหล่าผู้อาวุโสของหลังภูเขาเอ๋อเหมยที่แฝงตัวอยู่ทั่วทุกทิศ ล้วนปรากฏตัวขึ้น
คนพวกนี้สายตาจับจ้องไปที่เย่อู๋เทียนทั้งหมดโดยไม่มียกเว้น
แต่ละคนรัศมีผงาดเกรียงไกร!
เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต!
เมื่อเผชิญหน้ากับการต่อสู้เช่นนี้ ถึงจะเป็นถังเลี่ยนที่เสนอเงินเมื่อสักครู่ ก็อดที่จะรู้สึกหมดความมั่นใจลง
ถังเลี่ยนไม่คาดคิดว่า……
ภายในระยะเวลาสั้นๆของงานประมูลชุนชิว มีผู้แข็งแกร่งปรากฏตัวมากมาย!
และพอหันกลับมาดูที่หยางเฟยเอ๋อร์ เธอถึงขั้นงงเป็นไก่ตาแตกไปเลย
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เย่อู๋เทียนจะกล้าขนาดนี้ ถึงขั้นกล้าท้าทายผู้อาวุโสนักบู๊มากมายขนาดนี้!
โชคดีที่ หยางเฟยเอ๋อร์ในตอนนี้ อยู่ห่างจากเย่อู๋เทียนไม่ไกลมาก
เธอวิ่งอย่างกระวนกระวายไม่กี่ก้าว ก็ขึ้นไปยังเวทีได้แล้ว
หยางเฟยเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก เธอกลัวจริงๆ ว่าจะถูกผู้มีอำนาจในที่นี้โกรธเพราะการกระทำของเย่อู๋เทียน แจจะถูกทำร้ายจนตายคาที่ได้!
เธอมาหยุดอยู่ตรงข้างๆเย่อู๋เทียน หยางเฟยเอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“ลูกพี่ ฉันขอร้องล่ะ อย่าเล่นอะไรตื่นเต้นแบบนี้เลย เราอย่าโลภเลย ในชีวิตนี้ฉันยังไม่เคยแม้แต่จะได้ลิ้มรสนายเลย ฉันยังไม่เคยคบกับใครด้วยซ้ำ นายไม่คิดเรื่องอื่น ก็ควรนึกถึงฉันบ้างนะ ฉันเป็นถึงลูกสาวของตระกูลหวงเชียวนะ ฉันไม่อยากตายอยู่ที่นี่ ไม่อยากจริงๆ!”
เย่อู๋เทียนหันไปมองหยางเฟยเอ๋อร์แวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาว่า“ใจเย็นๆ ฉันรู้ว่าทำอะไรอยู่”
หยางเฟยเอ๋อร์ร้อนใจจนพูดจาสะเปะสะปะ“นายจะคิดอะไรอยู่ฉันไม่สนใจหรอกนะ ตอนนี้สิ่งที่ฉันเป็นกังวลก็คือในหัวใจของนายไม่มีฉัน เราค้าขายไม่สำเร็จแต่มิตรภาพยังคงอยู่ ถึงนายจะไม่ชอบฉันยังไง อย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนกัน นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ!นายหนีรอดไปได้ แต่ฉันล่ะ?”
เย่อู๋เทียนหมดคำพูด หลังจากนั้นก็ไม่สนใจหยางเฟยเอ๋อร์อีก และกวาดสายตาไปที่คนที่อยู่ด้านล่างเวที สุดท้าย ก็มองไปที่เจี่ยนโล่จู๋ พลางถามอย่างตั้งใจทั้งๆที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่า“คุณครับ คุณ……คุณหมายความว่าไง?คิดอยากจะชิงซึ่งๆหน้าเลยหรอ?”
เวลานี้เอง เจี่ยนโล่จู๋ขี้เกียจสนใจเย่อู๋เทียน เธอพูดอย่างเย็นชาว่า“คุณไม่มีเหตุผลก่อน อย่าโทษฉันแล้วกัน เอาแก่นเหรียญม่วงออกมาซะ ฉันจะเหลือศพนายไว้!”
เย่อู๋เทียนพูดอย่างยิ้มๆ“ผมบอกแล้วไง แก่นเหรียญม่วง ผู้ที่เสนอราคาสูงกว่าจะได้รับ ผมเป็นพ่อค้า ไม่ว่าจะเลือกผู้ซื้ออย่างไร สิทธิ์ในการต่อรองราคา ก็ต้องอยู่ที่ผมฝ่ายเดียว”
เจี่ยนโล่จู๋หัวเราะอย่างเย็นชา“ถ้าฉันเชื่อคำพูดของคุณอีก ฉันก็เป็นคนโง่แล้วล่ะ นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ฉันให้เวลาคุณคิดหนึ่งนาที ส่งแก่นเหรียญม่วงออกมาซะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะลอกหนังนายนัดใส่ฟาง!”
เย่อู๋เทียนทำเสียงหึ ราวกับไม่เห็นผู้กล้าที่อยู่ด้านล่างอยู่ในสายตา
เจี่ยนโล่จู๋ไม่มองเย่อู๋เทียนอีก
เพราะในสายตาของเธอนั้น เย่อู๋เทียนเป็นคนตายไปแล้ว
ทันใดนั้นเอง เจี่ยนโล่จู๋ก็มองไปที่ถังเลี่ยนที่อยู่แถวหน้าแวบหนึ่ง แล้วถามอย่างเย็นชาว่า “ถังเลี่ยน เมื่อกี้นายเสนอแก่นเหรียญเขียวสามร้อยเหรียญ เพื่อแย่งแก่นเหรียญม่วงกับหลังภูเขาเอ๋อเหมยของฉัน ใช่ไหม?”
ถังเลี่ยนอ้าปากพะงาบๆ ไม่กล้าตอบ
เจี่ยนโล่จู่ถามขึ้นมาอีกว่า“ฉันรู้ว่านายมีความเกี่ยวข้องกับเหล่าตาแก่ของหลังภูเขาเอ๋อเหมยของฉันมากมาย แต่ว่า วันนี้ถ้าถังเลี่ยนนายกล้าเกิดความโลภ งั้นฉันเจี่ยนโล่จู๋ก็จะเป็นศัตรูกับนาย!หลังจากกำจัดไอ้สารเลวที่อยู่บนเวทีนี่เสร็จ นายได้เห็นดีกับฉันแน่!”
ถังเลี่ยนไม่กล้าพูดแม้แต่แอะเดียว
เพราะคนอื่นๆ เขาไม่เห็นอยู่ในสายตาได้
แต่ว่าเจี่ยนโล่จู๋ผู้นี้……
เขายังคงวิตกกังวลเล็กน้อย!
ในขณะที่ถังเลี่ยนกำลังครุ่นคิดว่าตนจะยอมจำนนต่อเจี่ยนโล่จู๋หรือไม่ ชายชราผมขาวก็ปรากฏตัวขึ้นที่ทางเดินระหว่างจุดจัดแสดงและหลังเวที
ชายชราผู้นี้ ผมขาวดุจขนกระเรียน ใบหน้าเปล่งปลั่งดุจทารก ดูก็รู้ว่าเป็นยอดฝีมือ
ตอนนี้ เขากำลังเดินมาทางเย่อู๋เทียน
และด้วยรูปลักษณ์ของชายชราผู้นี้ ผู้มีอำนาจทุกคนในที่อยู่ด้านล่างเวที ก็เบิกตากว้างทันที
ผู้อาวุโสฝ่ายในของหลังภูเขาเอ๋อเหมย!
ถังว่านฉาว?
ทำไมตาแก่คนนี้ถึงมาเจียงหนานได้ล่ะ?
เจี่ยนโล่จู๋ที่มองไปยังถังว่านฉาว ในกลุ่มผู้ชมก็เครียดขึ้น และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี
เจี่ยนโล่จู๋กับถังว่าฉาวถึงแม้จะเป็นคนสำนักเดียวกัน นั่นก็คือคนของหลังภูเขาเอ๋อเหมย
แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองไม่ใช่พวกเดียวกัน
ก็เหมือนกับครอบครัวใหญ่ เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่กลับไม่ได้หมายความว่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน
พูดสั้นก็คือ ความยิ่งใหญ่ของหลังภูเขาเอ๋อเหมย ความจริงแล้วยังแบ่งแยกกัน และถังว่านฉาวก็เป็นบุคคลที่ประเภทขุนนางคนต่างประเทศที่อยู่หลังภูเขาเอ๋อเหมย
และอะไรคือขุนนางคนต่างประเทศ?
พูดง่ายก็คือ เป็นคนที่ดูสถานการณ์ให้สถานที่แห่งหนึ่ง
ก็เหมือนกับร้านเหล้าบาร์บางแห่ง ที่จะจ้างคนไว้ดูสถานการณ์และคอยจัดการคนก่อความวุ่นวาย
สำหรับหลังภูเขาเอ๋อเหมยแล้ว ถังว่านฉาวก็คือบุคคลประเภทแบบนี้
เห็นได้ว่าพลังของคนผู้นี้น่ากลัวเพียงใด!
แม้แต่หลังภูเขาเอ๋อเหมย ยังเชิญเขามานั่งกำกับ!
และก่อนที่ถังว่านฉาวจะปรากฏตัวที่นี่ เจี่ยนโล่จู๋ไม่ได้รับข่าวว่าเขาจะมาที่เจียงหนาน
การปรากฏตัวของถังว่านฉาว ทำเจี่ยนโล่จู๋รู้สึกประหลาดใจมาก!
ในขณะที่เจี่ยนโล่จู๋กำลังสงสัยว่าถังว่านฉาวมาที่นี่ด้วยเหตุใด ถังเลี่ยนที่อยู่ตรงบริเวณแถวหน้าเองก็มองไปที่ถังว่านฉาวเช่นกัน หลังจากนั้นก็ค่อยๆตกตะลึง เขารีบยืนขึ้นทำความเคารพทันที“สวัสดีครับบรรพาจารย์อาวุโส กระผมถังเลี่ยน!”
ถังว่านฉาวมองไปที่ถังเลี่ยนแวบหนึ่ง แล้วหัวเราะ“เลี่ยนเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองหรอก เมื่อกี้นายทำได้ไม่เลวเลย”
พูดจบ เขาก็เดินเข้าไปด้านหลังของเย่อู๋เทียน แต่กลับไม่เห็นเย่อู๋เทียนอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
ถังว่านฉาวมองไปที่เจี่ยนโล่จู๋ แล้วกล่าวขึ้นมาว่า“ในเมื่อแก่นเหรียญม่วงปรากฏตัวขึ้นในมือของผู้อื่น เธอให้พวกหัวเฉียนคุนถอยไปก่อนเถอะ……เพราะ เรื่องแก่นเหรียญม่วงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่เหลือแค่เหรียญสุดท้ายจริงๆ หลังภูเขาเอ๋อเหมยของฉัน ไม่อยากทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่างตอนนี้ดูท่า สหายที่อยู่ด้านบนเวทีดูเหมือนจะมีความคิดที่จะขายแล้วนะ นั่นก็หมายความว่า สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ จะทำประโคมสู้กันให้เป็นเรื่องใหญ่โตทำไมกันล่ะ!”
เจี่ยนโล่จู๋พึ่งเข้าใจ
ถังว่านฉาวชายชราผู้นี้ที่ปรากฏตัวขึ้น ก็เพราะแก่นเหรียญม่วงนั่นเอง!
เจี่ยนโล่จู๋กัดฟันกรอด เพื่อส่วนรวม เพื่อที่เป้าหมายในการได้มาซึ่งแก่นเหรียญม่วงของตนเองแล้ว จึงทำได้แค่อดทนเอาไว้
ทว่า ถึงแม้ว่าเจี่ยนโล่จู๋จะเห็นด้วยกับความคิดของถังว่านฉาว แต่กลับไม่มีทีท่าจะให้หัวเฉียนคุนและคนอื่นถอยเลย แต่พูดกับถังว่านฉาวว่า“ผู้อาวุโสถังคะ ไอ้สารเลวที่มีแก่นเหรียญม่วงอยู่ในครอบครอง ดูก็รู้ว่ามาเพื่อก่อความวุ่นวาย ผมว่า เรื่องในวันนี้ ไม่มีทางจบง่ายๆหรอกนะคะ!”
ถังว่านฉาวหัวเราะ ไม่สนใจเจี่ยนโล่จู๋อีก แต่หันไปมองเย่อู๋เทียน พลางกล่าวว่า“ฉันชื่อถังว่านฉาว เป็นคนทำงานให้กับหลังภูเขาเอ๋อเหมย โปรดชี้แนะด้วย สหายผู้นี้มาจากที่ใด?แล้ว ท่านชื่อแซ่อะไรครับ?”
เย่อู๋เทียนกะพริบตาปริบๆ แล้วพูดอย่างยิ้มๆ“เย่จูนหลิน!”
หยางเฟยเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินคำนี้ ใบหน้าก็อดกระตุกไม่ได้ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเย่อู๋เทียนต้องทำแบบนี้ ซ่อนตัวตนก็ช่างเถอะ ทำไมต้องเอาชื่อลูกชายของตัวเองไปใช้ด้วย
นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?
ถังว่านฉาวมองเย่อู๋เทียนแล้วหัวเราะ พลางกล่าวว่า“ที่แท้ก็คุณเย่นี่เอง ขออนุญาตถามหน่อยนะครับ แก่นเหรียญม่วงที่อยู่ในมือคุณ ตกลงอยากได้เท่าไรครับ ถึงจะยอมขาย?”
เย่อู๋เทียนกล่าว“บอกแล้วไง คนที่เสนอราคาสูงจะได้สิทธิ์ต่อรอง”
ถังว่านฉาวพยักหน้า แล้วพูดว่า“งั้นฉันก็ค่อยยังชั่ว ฉันแก่แล้วไม่ได้เก่งอะไร อยากซื้อแก่นเหรียญม่วงในมือของคุณ ด้วย แก่นเหรียญเขียวจำนวนหนึ่งพันเหรียญ?”
เมื่อพูดจบ ทั่วทั้งงานของฮือฮาขึ้นมาทันที!
แก่นเหรียญเขียวหนึ่งพันเหรียญ?
นี่มันซื้อเขาได้ทั้งลูกแล้วนะ!
ถังว่านฉาวจะทำอะไร?